นายสุพันธุ์ มงคลสุธี (กลาง) ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “ASEANbeauty 2019” (อาเซียน บิวตี้ 2019) งานแสดงสินค้าความงามและสุขภาพ ทียิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน โอกาสธุรกิจความงามไทยได้แสดงศักยภาพสู่ตลาดโลกต่อยอดธุรกิจเติบโตสู่ตลาดสากล ผ่านโปรแกรม “จับคู่ธุรกิจ” และเป็นเวทีแสดงสินค้าของผู้ประกอบการกว่า 350 รายที่นำนวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพ ตอกย้ำภาพมหกรรมความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมี นายมนู เลียวไพโรจน์, ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต, นายเอ็ม กันดิ, นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ร่วมงาน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เมื่อเร็ว ๆ นี้
ผู้เขียน: admin2
ประกาศกระแสพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์
alivesonline.com : เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ เพื่อถวายพระเกียรติยศตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระบรมราชชนนี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” และถวายเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี” พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ อัครราชกุมารี เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน และเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ อัครราชกุมารี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี” พระราชทานเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตน์ราชวราภรณ์ กับเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาและเฉลิมพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี” และพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาและเฉลิมพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา” และพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาและเฉลิมพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร” และพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ และเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนคำนำพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และจารึกลงในพระสุพรรณบัฏ ว่า “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์” และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนคำนำพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และจารึกลงในพระสุพรรณบัฏ ว่า “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ” และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนภรณ์รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑
Cr.ภาพ : คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๑๐ พระปฐมบรมราชโองการ แห่งพระราชวงศ์จักรี
พระปฐมบรมราชโองการ คือพระบรมราชโองการครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ที่ทรงรับบรมราชาภิเษกแล้ว
เมื่อทรงรับพระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธย เครื่องขัตติยราชวราภรณ์ [เคฺรื่อง-ขัด-ติ-ยะ-ราด-ชะ-วะ-รา-พอน] เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ [เบ็น-จะ-ราด-ชะ-กะ-กุด-ทะ-พัน] และเครื่องราชูปโภคแล้วหัวหน้าพราหมณ์กราบบังคับทูลถวายพระพรชัยมงคล [ไช-ยะ-มง-คน] ด้วยภาษามคธและภาษาไทย
พระมหากษัตริย์จะมีพระราชดำรัสตอบเรียกว่า พระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งเนื้อความเป็นการพระราชทานอารักขาแก่ประชาชนชาวไทย
ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๕ เมื่อบรมราชาภิเษกครั้งแรก มีพระปฐมบรมราชโองการเป็นภาษาไทย
ต่อมาในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของรัชกาลที่ ๕ ครั้งหลัง ได้มีพระปฐมบรมราชโองการเป็นภาษามคธเพิ่มขึ้นอีกภาษาหนึ่ง
พระปฐมบรมราชโองการของรัชกาลที่ ๑ พระราชทานว่า “พรรณพฤกษ ชลธี แลสิ่งของในแผ่นดิน ทั่วเขตพระนคร ซึ่งหาผู้หวงแหนมิได้นั้น ตามแต่สมณชีพราหมณาจารย์ราษฎรปรารถนามาเถิด…”
พระปฐมบรมราชโองการของรัชกาลที่ ๒ ถึงรัชกาลที่ ๗ มีข้อความแตกต่างกันบ้าง แต่ความหมายคล้ายกับของรัชกาลที่ ๑
ส่วนรัชกาลที่ ๙ มีพระปฐมบรมราชโองการเป็นภาษาไทยว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
สำหรับพระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ความว่า
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
Cr : คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีพรมราชาภิเษก
ประมวลภาพการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์
สำนักพระราชวังเผยแพร่ภาพการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562
เวลา 09.20 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
เวลา 09.30 น. ทรงนมัสการพระรัตนตรัย ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
เวลาฤกษ์ 10.09-12.00 น. สรงพระมุรธาภิเษก ณ ชาลาพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
ทรงฉลองพระองค์เศวตพัสตร์ ทรงสะพักขาวขลิบทอง ทรงรับน้ำอภิเษก ณ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์
ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ และพระแสง ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ
ทรงสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ
เลี้ยงพระ พระสงฆ์ดับเทียนชัย ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
ทรงฉลองพระองค์ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุยเต็มยศ สายสะพายนพรัตน์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า
พระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
alivesonline.com : พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสานรักษาและต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพา
เจ้าพนักงาน เชิญเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศจากพระแท่นมณฑลมีพระสุพรรณบัฏ พระปรมาภิไธย เบญจราชกกุธภัณฑ์ ขัตติยราชวราภรณ์ และพระแสงราชศัตราวุธ มามอบให้ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับแล้วทรงสวมและทรงวางบางองค์ไว้บนโต๊ะ 2 ข้างพระที่นั่งภัทรบิฐ
เมื่อถวายพระธำมรงค์วิเชียรจินดาแล้ว พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ สอดฉลองพระบาทเชิงงอนถวาย
เจ้าพนักงานเชิญเครื่องขัตติยราชูปโภค มาทอดถวาย ขณะทรงรับพระสุพรรณบัฏพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย แตร มโหระทึก และดุริยางค์ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงปืนมหาฤกษ์ มหาชัย มหาจักร
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระปฐมบรมราชโองการพระราชทานอารักขา แก่ประชาชนชาวไทยความว่า
“เราจะสืบสานรักษาและต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
ทั่วโลกทวีต #BattleOfWinterfell 7.8 ล้านข้อความ
alivesonline.com : บรรดาแฟนซีรีส์ชื่อดังของ “เกม ออฟ โธรนส์” (Game of Thrones) ทั่วโลกต่างทวีตถึง #BattleOfWinterfell ซึ่งเป็น Ep. ล่าสุด มากกว่า 7.8 ล้านครั้ง ส่งผลให้กลายเป็น Ep. ของซีรีส์ที่มีผู้ทวีตถึงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ (เฉพาะทีวีซีรี่ส์)
ยิ่งไปกว่านั้น Ep. แรกของซีซันนี้ที่ได้ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศไทย) มีผู้ทวีตถึงมากกว่า 5 ล้านข้อความ และเฉพาะในปี 2562 ที่ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ปรากฏว่ามีคนทวีตถึงซีรีส์ยอดฮิตเรื่องนี้มากกว่า 52 ล้านข้อความแล้ว
ข้อมูลที่น่าสนใจจาก #BattleOfWinterfell
ตัวละครที่มีผู้ทวีตถึงมากที่สุด
1.อาร์ยา
2.ไนท์คิง
3.แบรน
4.จอน สโนว์
5.เซอร์ซี
สืบเนื่องจาก Ep.3 ที่เพิ่งฉายไปล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 29 เม.ย.62 ทวิตเตอร์ได้ปล่อยอีโมจิใหม่ออกมาอีกซึ่งมี
- อีโมจิของอาร์ยาที่อัปเกรดให้มีอาวุธ เมื่อติดแฮชแท็ก #Arya #AryaStark หรือ #TheNorthRemembers ก็จะโชว์อีโมจินี้ขึ้นมาอัตโนมัติ
- และอีโมจิใหม่ล่าสุด เมื่อทวีตและติดแฮชแท็ก #NotToday หรือ #TheLongNight จะเผยให้เห็นอีโมจิต้นเวียร์วูด ซึ่งตอนนี้ติดเทรนด์ไปแล้วทั่วโลก
ทวีตจาก : https://twitter.com/GameOfThrones/status/1122716471564566528 Ep. นี้นับได้ว่าสุดยอด แม้แต่นักแสดงในเรื่องยังต้องทวีตถึงเช่นกัน
เหล่าชาวทวิตเตอร์คนไทยต่างจับตารอคอยร่วมกันในทวิตเตอร์มาตั้งแต่ก่อน Ep.1 ของ #GameOfThrones ซีซันสุดท้ายนี้ โดยมีบทสนทนาจำนวนมากและต่างคาดหวังว่าซีซั่นสุดท้ายนี้จะยอดเยี่ยมอย่างที่คาดหวังไว้
แฟน ๆ ของ GoT ต่างพากันเข้าทวิตเตอร์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่มีต่อซีซั่นล่าสุด พูดคุยถึงไฮไลท์และทฤษฎีต่าง ๆ ตลอดจนโต้เถียงกันว่าใครคือ “ไนท์คิง” และตามติด #BattleOfWinterFell จนกระทั่งล่าสุดจุดสนใจมากที่สุดอยู่ที่ #AryaStark และความเป็นฮีโร่ของเธอ [นี่เป็นการสปอยล์!] ผู้ที่โค่น #NightKing ลงได้
ส่วนทวีตที่ได้รับความนิยมคงไม่พ้นทวีตที่มีอารมณ์ขันโดยเป็นการผสมกันระหว่างเรื่องของ #GameOfThrones และ #AvengersEndGame
เหลืออีกเพียงสาม Ep. เท่านั้นก็จะเฉลยว่าใครคือผู้ที่ครอบครองบัลลังก์ ผู้ใช้ทวิตเตอร์เริ่มมีการกระจายต่อบทสรุปของทฤษฎีต่าง ๆ ใน #GameOfThrones ออกไปไวราวไฟลามทุ่ง ในขณะที่ #GoTS8 ก็กลายเป็นแฮชแท็กร้อนแรง ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ไม่อยากถูกสปอยล์ต้องหันไปพึ่งฟังก์ชันการซ่อน หรือ mute ที่ผู้ใช้สามารถบล็อกคำ ประโยค แฮชแท็ก หรือแม้แต่อีโมจิออกจากแถบการแจ้งเตือนและจากหน้าไทม์ไลน์ได้อีกด้วย
หากใครที่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวงสนทนากับสังคมผู้ชื่นชอบ #GameOfThrones ในอีกสาม Ep. สุดท้าย ไม่ควรพลาดในการเข้ามาที่ทวิตเตอร์เท่านั้น!
“อินฟีนิกซ์ สมาร์ทโฟน” เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดสเปกแรงขั้นเทพ
alivesonline.com : “อินฟีนิกซ์ สมาร์ทโฟน” เปิดตัวไอเท็มใหม่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ ควบคู่การตอบสนองสายเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วย Infinix รุ่น HOT7Pro สมาร์ทโฟนสเปกแรง แรม 6 กิกกะไบท์ แบตเตอรี่ 4,000 มิลลิแอมป์ ราคาสบายกระเป๋า ชักธงกลยุทธ์ป่าล้อมเมืองพาโกยยอดขาย 30,000 เครื่อง
น.ส.จุลลดา ทรัพย์สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินฟินิกซ์ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟน “อินฟีนิกซ์” (Infinix) รุ่น HOT7Pro มีความโดดเด่นที่แรม 6GB หน้าจอนอทซ์ เอชดี ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว เล่นเกมได้สนุก ลื่นไหล ภาพสวยชัดมีมิติ เพิ่มพลังให้เกมเมอร์เล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพสนุกเพลิดเพลินยิ่งขึ้น และดูหนังฟังเพลงได้เต็มอรรถรส เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์สมาร์ทโฟนตัวจริงราคาดีที่สุด
Infinix รุ่น HOT7Pro ยังมาพร้อมกล้องระดับโปร ดูอัลคาเมรา 13+2 ล้านพิกเซล กล้องแบบคู่ทั้งหน้าและหลัง ได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอแม้ถ่ายเซลฟี่ บอดี้สุดพรีเมียมแบบเมทัลดีไซน์ พร้อมระบบปฏิบัติการ XOS 5.0 ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ให้แบตเตอรี่ที่อึดถึง 4,000 มิลลิแอมป์ ในราคาที่ดีที่สุดในขณะนี้เพียง 4,990 บาท พร้อมโปรโมชันที่โดนใจเกมเมอร์สุด ๆ พร้อมฟรีเน็ตสําหรับเล่นเกม ROV แบบอันลิมิเต็ด
“กว่า 2 ปีที่ อินฟินิกซ์ สมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นมือถืออินเตอร์แบรนด์ เรามุ่งมั่นทำตลาดในไทย โดยใช้กลยุทธ์แบบป่าล้อมเมือง มุ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขายและลูกค้าที่พิสูจน์ด้วยคุณภาพของตัวเครื่องที่ฟังก์ชันจัดหนัก ราคาสบายกระเป๋า บริการหลังการขายที่รวดเร็วแบบดอร์ทูดอร์ และแคมเปญฟรีประกันจอแตกซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์และจุดแข็งของอินฟินิกซ์ จนสามารถขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ทั่วประเทศได้มากกว่า 200,000 เครื่อง โดยในปีนี้ อินฟินิกซ์ มุ่งที่จะขยายฐานกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น HOT7Pro จึงถูกเลือกเป็นหัวหอกเจาะตลาดสายเกมที่ในปัจจุบันมียอดผู้เล่นเกมออนไลน์มากกว่า 25 ล้านราย”
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 จะมีรุ่นที่เกมเมอร์จะต้องคว้าไว้อีก 1 รุ่นคือ S4 ซึ่งยังคงเน้นความลื่นไหลของการใช้งานด้วยแรม 6 กิกกะไบท์ ติดอาวุธเพิ่มด้วยกล้องหน้าแบบซุปเปอร์เซลฟี่ 32 ล้านพิกเซลกับดีไซน์สุดหรู ไล่เฉดสีแบบมิลเลอร์ ราคา 5,990 บาท และจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ อินเทอร์เน็ตสําหรับเล่นเกม ROV ฟรีแบบอันลิมิเต็ด และดูทรูไอดีฟรีแบบอันลิมิเต็ดจากทรูมูฟเอชด้วยเช่นกันอีก 1 รุ่นที่เป็นเอนเทอร์เทนเมนต์โฟน จะเป็นรุ่นสุดฮิตคือ Smart 3 Plus ที่อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นสําหรับดูหนังฟังเพลง จอใหญ่แบบวอเตอร์ดร็อป เอชดี 6.2 นิ้ว แบตอึด ในราคาเพียง 3,390 บาทเท่านั้น
[ชมคลิป] เปลี่ยนวิดีทัศน์เพลงชาติไทยรูปแบบใหม่
alivesonline.com : วันนี้ (3 พ.ค.62) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นวันแรกที่จะมีการเผยแพร่วิดีทัศน์ประกอบเพลงชาติรูปแบบใหม่ ผ่านสถานีโทรทัศน์ทุกสถานีในเวลา 18.00 น. โดยวิดีทัศน์ดังกล่าวจะมีเนื้อหาของภาพที่แสดงถึงพลังและความรู้สึกรักชาติแบบสมัยใหม่ของชาย หญิง ซึ่งต่างจากรูปแบบเดิมที่มีภาพการสู้รบ นอกจากนี้ ยังเพิ่มภาพพลเรือน เกษตรกร ชาวประมง และผู้นำศาสนา เป็นต้น เพื่อให้เห็นความรักชาติในทุกมิติ รวมถึงความมีวินัยของเด็กนักเรียน
วิดีทัศน์เพลงชาติไทยรูปแบบใหม่มีความยาว 1 นาที 16 วินาที และมีการปรับทำนองเพลงให้มีพลังและรู้สึกถึงความรักชาติ แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนเนื้อเพลงชาติ สำหรับหน่วยงานเอกชนและภาครัฐที่จะต้องใช้เพลงชาติ สามารถนำวิดีทัศน์ดังกล่าวไปใช้ได้ทันที
นางพัชราภรณ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนเพลงสรรเสริญพระบารมี หลังจากงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกฯ จะมีการเปลี่ยนรูปพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ซึ่งจะมีการทำขึ้นใหม่ทันที
สถาปนาสมเด็จพระราชินี ในรัชกาลที่ ๑๐
เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๑ ข. เรื่อง “สถาปนาสมเด็จพระราชินี” ความว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับ พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา ถูกต้องตามกฎหมาย และราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว
จึงมีพระราชโองการให้สถาปนา พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา พระอัครมเหสีเป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศ ฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน
[ชมคลิป] บีโอไอ ดัน “อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต” เสริมแกร่งเศรษฐกิจไทย
alivesonline.com : บีโอไอ จับมือ สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และ “ยูบีเอ็ม เอเชีย” พร้อมจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” คู่ขนานไปกับงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ระหว่างวันที่ 8-11 พ.ค.62 ณ ไบเทค บางนา ชูไฮไลท์การจับคู่ธุรกิจ 8,000คู่ คาดเงินสะพัดกว่า 14,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน
“อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต” ของประเทศไทยได้รับการกล่าวถึงและยอมรับจากทั่วโลก ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมนี้มีการขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ได้แก่ นโยบายส่งเสริมการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม เป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ ECC แผนการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ การเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบรางและอากาศ เป็นต้น
ปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นล้วนส่งผลบวกต่อการขยายตัวด้านการส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นทั้งในส่วนของผู้บริโภคและการลงทุน โดยอุตสาหกรรมที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของการลงทุนในไทยคือ “อุตสาหกรรมสนับสนุน” หรือ “อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต” จากการเติบโตของการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ งาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” (SUBCON THAILAND 2019) ซึ่งเป็นงานประจำปี (ANNUAL EVENT) จัดคู่ขนานไปกับงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” (INTERMACH – MTA 2019) ที่ผู้ประกอบการชั้นนำจากประเทศต่าง ๆ เลือกที่จะปักหมุดให้เป็นงานสำคัญที่จะแสวงหาหุ้นส่วนในการทำธุรกิจเพื่อต่อยอดการผลิตได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เพราะเป็นงานสำคัญที่สร้างเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนให้กับผู้ประกอบการชาวไทยโดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งยังเชื่อมโยงโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสู่การเป็นผู้รับช่วงการผลิตระดับภูมิภาคและระดับโลก
- มุ่งเป้าศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน
ดร.บงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตไทยมีอัตราการเติบโตในทุกปีและมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี นับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ด้วยความสำคัญดังกล่าว บีโอไอ จึงมีแผนที่จะสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” ซึ่งเป็นงานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและงานจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดย บีโอไอ จัดร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะจัดร่วมกับ งาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ระหว่างวันที่ 8-11 พฤษภาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
การจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการชาวไทยและบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่จากทั้งในและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและสนับสนุนให้เกิดการต่อยอดธุรกิจจากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ โดยมุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของภูมิภาคอาเซียน” โดยมีกิจกรรมสนับสนุนมากมาย อาทิ งานแสดงนิทรรศการของอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย การจับคู่ธุรกิจโดยนำผู้ซื้อจากกว่า 400 บริษัท 30 ประเทศ โดยความร่วมมือของสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศมาพบกับผู้ผลิตภายในงาน การจัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ รวมทั้ง Buyers’ Village ที่จะนำผู้ซื้อชิ้นส่วนจากกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ หรือ New S-Curve กว่า 15 รายเข้าร่วมงาน อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี ออสเตรีย สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ จีน อินเดีย เป็นต้น
- ไฮไลท์หลากหลาย หวังจับคู่ธุรกิจกว่า 8,000 คู่ สร้างมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท
ดร.บงกช กล่าวอีกว่า ไฮไลท์การจัดงานปีนี้ได้จัดให้มีโซนพิเศษขึ้นคือ “โซน Innovation to Business” ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม เป็นการเชื่อมโยงหน่วยงานวิจัยและสถาบันการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมการผลิต การรวมกลุ่มของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์อนาคต อุตสาหกรรมการบินและอากาศยาน ระบบราง และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เข้าร่วมแสดง นอกจากนี้ในส่วนของ สมาคมเครื่องจักรกลระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย ยังจะมีการนำเสนอ TARA Showcase นำเสนอการทำงานในไลน์การผลิตของระบบ Automation and Robotic รวมทั้งอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพที่พร้อมนำเสนอนวัตกรรมด้านอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ซึ่งสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการสร้างประเทศไทยให้เป็น “ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ” (Medical Hub)
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มี กิจกรรมสัมมนาส่งเสริมองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตทุกภาคส่วน กว่า 100 หัวข้อ อาทิ การลงทุนในตลาด CLMV, สัมมนาอากาศยานและศูนย์ซ่อมบำรุง Aerospace & MRO Summit Bangkok, Aerospace Manufacturing in Thailand : The View from OEMs, Aviation Industry in Thailand : Preparing for the future, สัมมนาเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ (Medical Device Seminar), สัมมนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่-EV (สัมมนาภาษาญี่ปุ่น) ฯลฯ โดยทั้งหมดครอบคลุมต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
“สำหรับยอดการจับคู่ทางธุรกิจผ่านงาน “ซับคอน ไทยแลนด์” ในปีที่ผ่านมาสามารถจับคู่ทางธุรกิจได้ถึง 7,211 คู่ ก่อให้เกิดธุรกรรมกว่า 12,706 ล้านบาท โดยยอดการจับคู่นั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าที่จะจับคู่ธุรกิจกว่า 8,000 คู่ และคาดว่าจะเกิดธุรกรรมทางธุรกิจมูลค่าไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดผู้ซื้อจากอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเข้าร่วมเพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินชั้นนำกว่า 40 ราย อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งมาจากการเชิญของสำนักงานบีโอไอทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้ง 14 แห่ง” ดร.บงกช กล่าวเสริม
- “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” งานแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรกล หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ
ด้าน นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานบริหาร บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 36 โดยมีงาน “ซับคอน ไทยแลนด์” จัดคู่ขนานกันมาอย่างยาวนานต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 สำหรับงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” เป็นงานแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรกล หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ เพื่ออุตสาหกรรมการผลิต รวบรวมเทคโนโลยีจาก 1,200 แบรนด์ จาก 45 ประเทศ โดยมีประเทศผู้ผลิตนำผลงานมาจัดแสดงในรูปแบบพาวิลเลียน จำนวน 5 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน
นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการสาธิตระบบการผลิตอัจฉริยะที่รวบรวมเทคโนโลยีการผลิตจากแบรนด์ชั้นนำในโซน (RO) Bots Hub มาทำงานร่วมกันด้วยซอฟต์แวร์ที่ออกแบบใหม่เพื่อการประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับไลน์การผลิตและเครื่องจักรที่มีอยู่ต่างชนิดได้อย่างลงตัว โดย บริษัท โรบอท ซีสเท็ม จำกัด (ROBOTSYSTEM) บริษัทของผู้เชี่ยวชาญชาวไทย หรือเจ้าของฉายา “ไอรอนแมน เมืองไทย” ที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ การวางระบบงานขัดอุปกรณ์เครื่องบินจากอุตสาหกรรมอากาศยาน ไลน์การชงกาแฟจากโรบอทอาร์ม ซอฟต์แวร์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการแพทย์และยานยนต์อนาคต เป็นต้น
งาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” ยังมี “โซนโชว์เคสนวัตกรรมและระบบอัตโนมัติ” ที่จะนำผลงานการออกแบบระบบซอฟต์แวร์จากบริษัทข้ามชาติ โดย บริษัท เจอแรงการ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่ผู้เข้าชมงานสามารถทดลองใช้งานโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับเครื่องควบคุมโดยอัตโนมัติ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เชื่อมโยงเครื่องจักรให้ทำงานร่วมกันผ่านระบบ IOT อาทิ การสร้างภาพการผลิตที่สามารถตรวจสอบการทำงานได้จริงแบบเรียลไทม์ ตลอดจนโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภทตั้งแต่อุตสาหกรรมขนาดย่อยจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกด้วย
นายมนู กล่าวในตอนท้ายว่าเนื่องจากงาน “อินเตอร์แมค-เอ็มทีเอ 2019” เป็นงานแสดงเครื่องจักรอุตสาหกรรมงานแรกที่ยิ่งใหญ่ของปี ภายในงานจึงมีผู้ผลิตชิ้นส่วนร่วม 400 รายจากทั้งประเทศไทยและต่างประเทศเข้าร่วมจัดแสดง โดยคาดว่าจะมีผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 45,000 ราย ประการสำคัญยังจะมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคด้วยโปรแกรมจับคู่ธุรกิจสำหรับผู้แสดงสินค้าของงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2019” เพื่อเชื่อมโยงทางธุรกิจและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยและชาวต่างชาติต่อยอดสู่ความร่วมมือในอนาคตอีกด้วย

(จากซ้ายไปขวา) ‘มนู เลียวไพโรจน์’ ประธานบริหาร บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ‘ดร.บงกช อนุโรจน์’ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ ‘เกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์’ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย