“นิช คาร์ กรุ๊ป” ส่งมอบ “แมคลาเรน 600 แอลที” คันแรกในประเทศไทย

นายเสรี ชินบารมี (ที่ 2 จากขวา) ประธานบริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถ แมคลาเรน 600 แอลที สีลูมิเนียร์ส กรีน (McLaren 600LT Lumineer Green) หนึ่งในรถสปอร์ตซีรีส์ที่ทรงพลังสูงสุด ทั้งยังได้รับความนิยมจากวงการรถหรูระดับโลกและเป็นรถคันแรกในประเทศไทย โดยส่งมอบให้แก่ นายทนง ลี้อิสสระนุกูล (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการบริหาร กลุ่มสิทธิผล ณ โชว์รูมแมคลาเรน แบงค็อก มอเตอร์เวย์ กม. 1 เมื่อเร็ว ๆ นี้

HONDA LPGA THAILAND 2019 จัดกิจกรรมเพื่อสังคม

นายมาซายูคิ อิงาราชิ (ขวา) ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด มอบถุงกอล์ฟที่มีลายเซ็นนักกอล์ฟสาวที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 ให้แก่ นายบุญชัย คงปักไพศาล (ซ้าย) หลังจากประมูลไปได้ในราคา 310,000 บาท โดยรายได้จากการประมูลทั้งหมดภายในงาน “ฮอนด้า แชริตี้ ไนท์” จะนำไปมอบให้ศิริราชมูลนิธิ เพื่อจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย และให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของโรงพยาบาลศิริราช

 กิจกรรม “ฮอนด้า แอลพีจีเอ แชริตี้ ไนท์” ถือเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมกิจกรรมการคืนประโยชน์สู่สังคมที่ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยนักกอล์ฟสาวชั้นนำระดับโลกที่นำสมบัติมาร่วมประมูลในกิจกรรมในปีนี้ ได้แก่ ‘จอร์เจีย ฮอลล์’ จากอังกฤษ นำธงพร้อมลายเซ็นและภาพจาก Ricoh Women’s British Open, ‘บรู๊ค เฮนเดอร์สัน’ จากแคนาดา นำเสื้อพร้อมลายเซ็นจาก Marathon Classic presented by Owens Corning and O-I, ‘ลีเดีย โค’ จากนิวซีแลนด์, ‘โปรโม โมรียา’ และ ‘โปรเม เอรียา จุฑานุกาล’ นำเวดจ์พร้อมลายเซ็นมาร่วมประมูล ร่วมด้วยเสื้อและธงพร้อมลายเซ็นของทัวร์นาเมนต์ 2018 จากเหล่าโปรกอล์ฟและถุงกอล์ฟพร้อมลายเซ็น พร้อมด้วยของรักของหวงจากนักกอล์ฟอีกมากมาย

สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ และจอร์เจีย ฮอลล์

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ และบรู๊ค เฮนเดอร์สัน

สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ และ“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล

K-BANK สนับสนุนสินเชื่อ “เรซิโอ-โฮม”

นายบุญเลิศ รตินธร (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางสาวฟูมิ ซาซากิ (กลาง) กรรมการบริหาร  บริษัท รีโว ซีอาร์ส โฮม จำกัด ลงนามในสัญญาเงินกู้ ร่วมกับ นายณพวิทย์ โทเทอดวิไล (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในการสนับสนุนเงินสินเชื่อ วงเงิน 135 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการลงทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ล่าสุด โครงการ “เรซิโอ-โฮม” (วงแหวน-รามอินทรา) เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ภายใต้แนวคิด Exclusive Japanese Sensation  ส่วนตัวที่สุดเพียง 89 ยูนิต จาก กลุ่มบริษัท รีโว เอสเตท ณ สำนักงานใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้

ร่วมลดมลพิษ PM 2.5 ในรถโดยสารสาธารณะ

 

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) โดย นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาฯ มอบหมายให้ ดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร รองประธานฯ ด้านการขนส่ง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านความปลอดภัย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการ “ความปลอดภัยการท่องเที่ยวสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” จัดโครงการ “ร่วมลดมลพิษ PM 2.5 ในรถโดยสารสาธารณะ” โดยร่วมมือกับ สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) กรมการขนส่งทางบก และห้างสรรพสินค้า SHOW DC เชิญชวนรถโดยสารสาธารณะซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) จำนวนกว่า 100 คัน ทยอยเข้ารับการตรวจวัดค่ามลพิษ ณ ห้างสรรพสินค้า SHOW DC เมื่อเร็ว ๆ นี้

FTE โชว์ผลประกอบการปี 61

นายทักษิณ ตันติไพจิตร (ที่2จากขวา) กรรมการผู้จัดการ นายมนต์นฤทธิ์ ธาราพงศ์สวัสดิ์ (ที่2จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ นายปฤณ บุรีคำ (ขวา) ผู้จัดการแผนกขายระบบดับเพลิง และนายยงยุทธ รัตนโอภาส (ซ้าย) ที่ปรึกษา บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ร่วมงาน Opportunity Day ให้ข้อมูลผลประกอบการปี 61 รายได้ 1,028.96 ล้านบาท กำไร 130.21 ล้านบาท เตรียมแจกปันผลเพิ่ม 0.11 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 26 เม.ย.62 ณ ห้องประชุม 603 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้

“อิออน” แจกจริงกับแคมเปญ “AEON Happy Pay”

‘ศรัณยา พิภพภิญโญ’ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดีจากแคมเปญ “อิออน แฮปปี้เพย์ (AEON Happy Pay)” โดยรางวัลที่ 1 ได้แก่ ทองคำแท่งมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 3 รางวัล รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ จำนวน 20 รางวัล และบัตรกำนัล จำนวน 100 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 586,500 บาท เมื่อผู้ใช้บริการผ่อนชำระสินค้าและบริการผ่านวงเงินสินเชื่อยัวร์แคช ณ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม – 30 พฤศจิกายน 2561

เปิดตัวคอนโดฯ ลักซ์ชัวรี “อิมเพรสชั่น เอกมัย”

นายธนากร ธนวริทธิ์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น “ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์” และ “คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี” พร้อมกับเปิดตัวโครงการ “อิมเพรสชั่น เอกมัย” คอนโดฯ ลักซ์ชัวรี ภายใต้สโลแกน “BORN TO STAND OUT” ตอกย้ำการเป็น ICONIC ใจกลางเอกมัย หวังเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวอากิโกะ ชิโมอูระ (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป ด้านต่างประเทศ จากบริษัทฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ และนายฮิโรยูกิ ฟูกุซาว่า (ซ้าย) กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจ จากบริษัทคิวชู เรลเวย์ คัมปะนี สำนักงานใหญ่ ร่วมแถลงข่าว ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้

“เคป & แคนทารี โฮเทลส์” ตอบแทนลูกค้าจังหวัดระยอง


‘วิวัฒน์ ตั้งจิตกอบบุญ’ (ที่ 4 จากขวา) ผู้อำนวยการกลุ่มคอร์ปอเรต “เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์” และตัวแทนโรงแรมในเครือ “เคป & แคนทารี” จัดงาน THANK YOU PARTY 2019 ในธีม UNDER THE SEA เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจใช้บริการโรงแรมทั้ง 3 แห่งในจังหวัดระยองของ โรงแรมในเครือ “เคป & แคนทารี โฮเทลส์” โดยได้รับเกียรติจาก พ.ต.อ.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน (ที่ 4 จากซ้าย) ผกก.สภ.เมืองระยอง, ‘สุธน ซื่อประเสริฐ’ (ที่ 3 จากซ้าย) ปลัดเทศบาลนครระยอง และแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้อย่างคับคั่ง ณ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง เมื่อเร็ว ๆ นี้

“สยามพิวรรธน์” โชว์โมเดลลงทุนรับรายได้ 5 หมื่นล้านใน 5 ปี

 

alivesonline.com : “สยามพิวรรธน์” กางแผนการลงทุน 5 ปี เล็งพื้นที่กรุงเทพฯ ขนาด 100 ไร่ ผุดโครงการขนาดยักษ์ พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่สร้างอาณาจักร Retail&Destination คาดสรุปรายละเอียด ก.ย.-ต.ค.62 ก่อนเปิดเอาต์เล็ทขนาดใหญ่ “Siam Premium Outlet” บนพื้นที่ 150 ไร่ ริมถนนมอเตอร์เวย์ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ในช่วงเดือน ธ.ค.62 เผยแผนซื้ออาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจดิจิทัล รวมถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ เสริมศักยภาพ หวังเพิ่มรายได้ 1-1.5 เท่าตัวจากปัจจุบัน 2.55 หมื่นล้านบาท

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการค้าปลีกระดับโลก ได้แก่ “สยาม พารากอน”, “สยามเซ็นเตอร์”, “สยามดิสคัฟเวอรี่” และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” เปิดเผยว่า ปัจจุบัน “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 4.5 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2561 มีรายได้รวม 2.55 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 23% ส่วนในปี 2562 คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 12-15% โดยมีรายได้จาก “ไอคอนสยาม” เป็นส่วนหลักที่จะช่วยเพิ่มการเติบโตถึง 42% หลังจากที่จะเปิดให้บริการครบรอบหนึ่งปีในปี 2562

ตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2562-2566) ของ “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” มีแผนขยายโครงการลงทุนขนาดใหญ่บนพื้นที่ขั้นต่ำ 50 ไร่ขึ้นไปในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมเตรียมงบประมาณการลงทุนอย่างน้อย 7 หมื่นล้านบาท โดยมีเป้าหมายว่าจะทำให้มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 1-1.5 เท่าจากปัจจุบัน หรือคิดเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท

นางชฎาทิพ กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการค้าปลีกและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ในประเทศไทยต่างมีบทบาทในการลงทุนโครงการต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จและส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นจุดหมายปลายทางด้านค้าปลีกเอ็นเตอร์เทนเมนต์และไลฟ์สไตล์ ดังนั้น “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” จึงจำเป็นต้องคิดนอกกรอบและลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนโดยใช้นวัตกรรมและความแปลกใหม่ที่เป็นเลิศเพื่อสร้างความสำเร็จต่อเนื่องไปในอนาคต

“กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ต้องเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญความท้าทายระดับโลกจากผู้เล่นรายใหญ่อื่น ๆ จากทั่วโลกทั้งในส่วนที่เป็นพันธมิตรและคู่แข่ง ดังนั้นทุกรายละเอียดและองค์ประกอบของโครงการของเราในอนาคตจึงย่อมถูกจับตามองบนเวทีโลก นั่นหมายความว่าทุกการตัดสินใจของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์จะต้องอยู่ในบริบทระดับโลก มีเป้าหมายระดับโลก และเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกเสมอ”

นางชฎาทิพ กล่าวอีกว่า โครงการลงทุนของ “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” จะต้องเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับแลนด์มาร์คที่ดึงดูดผู้มาเยือนจากทั้งในภูมิภาคและทั่วทุกมุมโลก รวมถึงนักลงทุนจากต่างประเทศ พร้อมกับทำให้พวกเขาเหล่านั้นร่วมมือกับเราในการสร้างสรรค์ธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ ๆ และนำโครงการออกไปสร้างในต่างประเทศโดยใช้รูปแบบค้าปลีกไทย ความคิดไทย และความเป็นไทยด้วยฝีมือคนไทยเป็นแกนหลักในการพัฒนาโครงการในประเทศอื่น ๆ ด้วย

ในส่วนของ “กลุ่มสยามพิวรรธน์” เริ่มมีการเดินหน้าโครงการต่าง ๆ แล้ว เริ่มตั้งแต่การร่วมมือกับ “ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในการเปิดเอาต์เล็ทขนาดใหญ่ภายใต้ชื่อ “Siam Premium Outlet” บนพื้นที่ 150 ไร่ ริมถนนมอเตอร์เวย์ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ในช่วงเดือน ธ.ค.62 ก่อนที่จะขยายไปยังต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง

“ขณะเดียวกันในระหว่างนี้กำลังอยู่ในช่วงเจรจากับพันธมิตรอีกนับสิบรายในการเนรมิตโครงการยักษ์เพื่อพัฒนาเป็น Retail Destination ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่างน้อย 2 แบรนด์ พร้อมต่อยอดการพัฒนาศูนย์จัดการประชุมเพื่อรองรับอุตสาหกรรมไมซ์โดยเฉพาะหลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วจากการจัดงานหลาย ๆ งานในช่วงที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีพื้นที่เป้าหมาย 3 จุดใหญ่คือ กรุงเทพฯ ตอนเหนือ กรุงเทพฯ ตอนกลาง และกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก แต่ละแห่งมีขนาด 100 ไร่ขึ้นไป โดยคาดว่าในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.62 จะพร้อมประกาศอย่างเป็นทางการ”

นางชฎาทิพ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น ปัจจุบัน “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” ซึ่งได้เข้าไปให้บริการเป็นที่ปรึกษาโครงการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะในเวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์ โดยในส่วนของโครงการลงทุนในต่างประเทศเริ่มมีนักลงทุนต่างชาติเสนอให้ร่วมลงทุนแล้ว แต่กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดซึ่งหาก “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” ตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย โครงการบางแห่งอาจเริ่มมีการก่อสร้างก่อนในประเทศไทย แต่คาดว่าโครงการในประเทศไทยจะแล้วเสร็จก่อน

“กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ยังมีความสนใจในการขยายธุรกิจค้าปลีก การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในธุรกิจอื่นที่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักเพื่อเสริมศักยภาพให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เช่น การซื้ออาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจดิจิทัล รวมถึงธุรกิจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ”

นางชฎาทิพ กล่าวอีกว่า ในปี 2562 “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” จะเปิดตัวระบบสารสนเทศทางการตลาด (Marketing Intelligence System) ที่ได้พัฒนามานานกว่า 5 ปีด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท พร้อมกับปรับระบบโครงสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี (IT Infrastructure) และการบริหารจัดการข้อมูล (Data Management) ทั้งหมด โดยใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่จาก 4 ศูนย์การค้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อให้ตอบรับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังจะขยายช่องทางค้าปลีกยังตลาดออนไลน์ โดยจะมีการนำสินค้ามาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อี-คอมเมิร์ซ และเอส-คอมเมิร์ซ (ช่องทางซื้อขายทางโซเชียลมีเดีย) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าต่างจังหวัดและต่างประเทศ

“จากข้อมูลปัจจุบันพบว่า สยาม พารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติรวมกันวันละประมาณ 2-2.5 แสนคน มีผู้ถือบัตรสมาชิกต่าง ๆ ประมาณ 7-8 ล้านคน ขณะที่ชาวต่างประเทศมีความถี่ในในการเดินทางมาชอปปิ้ง 2-3 ครั้งต่อปี โดยพบว่าลูกค้ากลุ่ม CLMV มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับชาวอินโดนีเซียและฮ่องกง ส่วน ไอคอนสยาม มีนักท่องเที่ยววันละ 1.2-1.5 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นคนไทย 65-70% ต่างชาติ 30-35% โดยคนไทยส่วนใหญ่ 80% เป็นคนพื้นที่ฝั่งธนบุรี นอกนั้นเป็นคนฝั่งพระนครและจังหวัดใกล้เคียง เช่น นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี โดยพบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมียอดขายจากลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 50% แสดงให้เห็นว่า ไอคอนสยาม ประสบความสำเร็จในแง่การสร้างฐานลูกค้าใหม่ให้ได้รับประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยที่แปลกใหม่”

 

นางชฎาทิพ ยังกล่าวถึง แผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของ “กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์” ว่ามีเป้าหมายสู่การเป็น “ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) โดยเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดใหม่ ๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยที่จะผนึกกำลังคนไทยทุกระดับได้ชูความสามารถเพื่อสร้างคุณค่าและประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่านอย่างยั่งยืนซึ่งจะเป็นปรากฏการณ์เหนือความคาดหมายบนเวทีระดับโลก

“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาธุรกิจของสยามพิวรรธน์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 15 บริษัทเป็น 46 บริษัทในปี 2561 โดยในปี 2562 ได้ตั้งเป้าในการขยายธุรกิจภายใต้บริษัทลูกอีก 4-5 บริษัทใหญ่ อาทิ การจัดตั้ง บริษัท สยามอัลไลแอนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ต่อยอดความเชี่ยวชาญจากการบริหาร Royal Paragon Hall เพื่อรับบริหารจัดการศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการใหม่ ๆ อาทิ TRUE ICON HALL และลงทุนในการสร้างศูนย์ประชุมสำหรับการจัดงานต่าง ๆ รวมถึงการการจัดแสดงคอนเสิร์ตในทำเลใหม่ การเดินหน้าให้บริการกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดอย่างครบวงจรของ บริษัท ซูพรีโม่ จำกัด ที่สร้างประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมายมาแล้วมากมาย อาทิ การจัดงาน Amazing Thailand Countdown ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปลายปี 2561 นอกจากนี้ยังมีธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการเกี่ยวกับการจัดการอาคารของ บริษัท สยามโปรเฟสชั่นแนล แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งได้ให้บริการแก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาแล้วหลายราย ซึ่งบริษัทในเครือเหล่านี้จะเดินหน้าให้บริการทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง”

นางชฎาทิพ กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า หากรัฐบาลชุดใหม่มีเสถียรภาพ สามารถกำหนดนโยบายต่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติตัดสินใจย้ายฐานการผลิต หรือสำนักงานใหญ่มายังประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างความเท่าเทียมในมิติต่าง ๆ แล้ว โอกาสที่ประเทศไทยจะรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนย่อมมีความเป็นได้สูง

 

 

“เออเบิ้ลฯ” ผุดคอนโดฯ ใหม่ ชูจุดเด่นโลว์ไรส์ขนาด 62 ยูนิต

alivesonline.com : เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้” เลือกทำเลซอยพหลโยธิน 2 เปิดตัวโครงการ “SAVVI PHAHOL2” คอนโดฯ Low Rise ขนาด 62 ยูนิต มั่นใจจุดเด่นด้านการเดินทางใกล้ 3 ทางด่วน 2 บีทีเอส 1 โทลล์เวย์ ตอบรับความต้องใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ เตรียมจัดงาน Open House 16-17 มี.ค.62 มอบส่วนลดเริ่มต้นเพียง 12x,xxx บาทต่อตร.ม. รวมถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนเริ่มลงเสาเข็มไตรมาสสองของปี 62 คาดแล้วเสร็จช่วงไตรมาสแรกของปี 64

นายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้บริหารโครงการคอนโดมิเนียมแนว Low Rise ความสูง 7 ชั้น ภายใต้ชื่อ “SAVVI PHAHOL 2” (แซฟวี่ พหลฯ 2) เปิดเผยว่า โครงการ SAVVI PHAHOL 2 เน้นจุดเด่นด้านจำนวนยูนิตเพียง 62 ยูนิต เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว แต่มีเพดานที่สูงกว่าถึง 2.8 ม. เพื่อบรรยากาศโปร่งสบาย ทั้งยังมีรูปแบบห้องหลากหลาย ตั้งแต่ขนาด 1 ห้องนอน-ขนาดดูเพล็กซ์ ขนาดเริ่มต้น 29.53-152.67 ตร.ม. มีที่จอดรถประมาณ 84% ของพื้นที่ โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณช่วงไตรมาสที่สองของปี 2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วงไตรมาสแรกของปี 2564

โครงการ SAVVI PHAHOL 2 เป็นโครงการที่ต่อยอดความสำเร็จจาก โครงการ SAVVI PHAHOL-ARI ที่ขายพื้นที่หมดไปแล้ว SAVVI ถูกออกแบบมาแล้วให้มีความแตกต่างไม่เหมือนใครโดยคงจะเป็นที่คุ้นหูมากขึ้นไปอีกจากระยะเวลาเพียง 2-3 ปี ที่ปัจจุบันมีถึง 3 SAVVI แล้วในย่านอารีย์ โดยโครงการ SAVVI PHAHOL 2 มีแนวคิดในการออกแบบที่ต้องการผสมผสานธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่ลงตัว คงเอกลักษณ์และบรรยากาศของความเป็นบ้านในทำเลย่านซอยอารีย์ โดยมีพื้นที่สีเขียวบนระเบียงเสมือนสวนหน้าบ้าน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติได้มากกว่า โดยวันที่ 16-17 มี.ค.62 โครงการฯ จะจัดงาน OPEN HOUSE ให้ผู้สนใจได้สัมผัสบรรยากาศจริงของการใช้ชีวิตที่สูง โปร่ง สบาย พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับในวันงานกับยูนิตราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 12x,xxx บาทต่อตร.ม. รวมถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

นายสมภพ กล่าวด้วยว่า โครงการ SAVVI PHAHOL 2 เน้นแนวคิดหลักในการสร้างบรรยากาศผสมผสานธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมเพื่อการใช้ชีวิตเมืองที่ลงตัว แตกต่างด้วยเอกลักษณ์ในแบบของ SAVVI ที่เชื่อมโยงความสมดุลของธรรมชาติจากภายในถึงภายนอก โดยการนำพื้นที่สีเขียวของต้นไม้เข้ามาอยู่ในทุกสัดส่วนของตัวอาคารทั้งแนวตั้งและแนวนอน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านได้เป็นอย่างดี และคงเอกลักษณ์ของความมีเสน่ห์ของย่านพักอาศัยในโซนอารีย์ เน้นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือคนรุ่นใหม่ที่เป็นตัวของตัวเอง ชอบบรรยากาศความเป็นซอยอารีย์ รวมถึงกลุ่มคนที่ต้องการขยายครอบครัวในทำเลกลางเมือง

“โครงการฯ ตั้งอยู่ใน ซอยพหลโยธิน 2 ซึ่งถือเป็นซอยหลักที่เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี ง่ายต่อการเข้าออกในทุกเส้นทาง สามารถทะลุซอยพหลโยธินเลขคู่ 4 และ 8 ซึ่งผู้คนในพื้นที่มักใช้ในการเดินทางไปอินทามาระ วิภาวดี ประดิพัทธ์ และสะพานควาย ยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและดินแดง รวมถึงโทลล์เวย์ นอกจากนี้ยังใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ทั้งสถานีอารีย์และสนามเป้า ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญในเรื่องการคมนาคมเมื่อเทียบกับโครงการอื่น ๆ ในทำเลเดียวกัน”

นายสมภพ กล่าวด้วยว่า โครงการ SAVVI PHAHOL 2 มีนโยบายการก่อสร้างที่ใส่ใจสภาพแวดล้อมเหมือนกับโครงการ Savvi Ari4 ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรในทุกรายละเอียด ทั้งชุมชนรอบข้าง สภาพแวดล้อม ด้วยมาตรการก่อสร้างที่ดูแลครอบคลุมในเรื่องต่าง ๆ ครอบคลุมระบบการสำรวจข้างเคียงก่อนเริ่มงาน ได้แก่ ระบบกันฝุ่น ระบบทดสอบรถวิ่ง บ่อดักตะกอนและบ่อตรวจสภาพน้ำทิ้ง ยามรักษาการณ์และการอำนวยความสะดวก มาตรการดูแลความสะอาดระหว่างการทำงาน การสำรวจผลกระทบระว่างการทำงาน การป้องกันผลกระทบด้านเสียง ระบบตรวจจับแรงสั่นสะเทือน แนวทางการดำเนินงานด้านมวลชนสัมพันธ์ และกิจกรรม CSR เป็นต้น