‘นภาเพ็ญ เวชชาชีวะ’ อุปนายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยฯ และ ‘สุวภา ศิริวรรณ’ ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกอบรมการแต่งหน้าฯ บมจ.โอซีซี ร่วมอบรมหลักสูตรการแต่งหน้าขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ต้องขังหญิง ในโครงการ “มอบโอกาสดี ๆ ให้สตรีอีกครั้ง” เพื่อให้ความรู้เรื่องการดูแลผิวและการแต่งหน้าอย่างมืออาชีพ เตรียมพร้อมสู่การประกอบอาชีพในอนาคต โดยมี ‘สุกัญญา จินดานุช’ ผอ.ส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ทัณฑสถานหญิงธนบุรี เมื่อเร็ว ๆ นี้
ผู้เขียน: admin2
“โออิชิ กรีนที” คว้าแชร์ 45.3% จับมือยักษ์ใหญ่อี-สปอร์ตเจาะกลุ่ม Gen M
alivesonline.com : “โออิชิ กรีนที” ผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มด้วยส่วนแบ่งการตลาด 45.3% เดินหน้ารุกตลาดอี-สปอร์ต ผนึกกำลัง “การีน่า ออนไลน์” ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอี-สปอร์ต เปิดตัวแคมเปญ “Oishi x ROV รับยกเซ็ต 5 สกินญี่ปุ่น” ดึง 10 หนุ่ม GMM Teens idol นำโดย “คริส & สิงโต” เป็นพรีเซนเตอร์ เจาะกลุ่ม Gen M เอาใจเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 (YTD: ตุลาคม 2561 – มิถุนายน 2562) เติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้เติบโตที่ 6.9% ขณะที่กำไรเติบโต 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการส่งเสริมการขายในช่วงฤดูร้อนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยบริษัทฯ สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่วนแบ่งการตลาด 45.3% (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2562 จาก Nielsen Retail Index)
ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2562 “โออิชิ กรีนที” จึงร่วมมือกับ “การีน่า ออนไลน์” ยักษ์ใหญ่วงการอี-สปอร์ต เปิดตัวแคมเปญใหม่ “Oishi x ROV รับยกเซ็ต 5 สกินญี่ปุ่น” รุกตลาดอี-สปอร์ตจัดเต็มเกม ROV ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมาสร้างสรรค์แคมเปญสร้างการรับรู้แบรนด์ขยายไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen-M ให้มากขึ้น พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ “10 หนุ่ม GMM ทีน ไอดอล” นำทีมโดย คริส-พีรวัส และ สิงโต-ปราชญา ตามด้วย ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร, กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, เต-ตะวัน วิหครัตน์, นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ, นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์, ชิม่อน-วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์, ซิง-หฤษฏ์ ชีวการุณ และ ลี-ฐานัฐพ์ โล่คุณสมบัติ ซึ่งทั้ง 10 หนุ่มยังคงเป็นกระแสและได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ Gen-M ที่สนใจในเรื่องของเทคโนโลยี มีความเป็นวัยรุ่น สนุกสนาน และทันสมัย ซึ่งจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างตรงจุด พร้อมจัดเต็มสื่อสารการตลาดและสื่อสนับสนุนต่าง ๆ อย่างครอบคลุม 360 องศา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างยอดขายโค้งสุดท้ายปลายปี และเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น โดยจะจัดงานเปิดตัวแคมเปญ ภายในงาน “Thailand Game Show 2019” พร้อมจัดกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่วันที่ 25-27 ตุลาคม 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5
เหล่าเกมเมอร์ร่วมสนุกง่าย ๆ เพียงแกะฉลากพลิกหารหัสโออิชิ สะสม 2 รหัสโออิชิ รับ 1 OISHI BOX ลุ้นรางวัลกว่า 50,000 ไอเท็มทุกวัน (สกิน, ลูกแก้ว, เพชร) สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2562–31 มกราคม 2563 โดยผลิตภัณฑ์รสชาติที่ร่วมรายการได้แก่ โออิชิ กรีนที รสต้นตำรับ, โออิชิ กรีนที รสข้าวญี่ปุ่น, โออิชิ กรีนที รสน้ำผึ้งผสมมะนาว และ โออิชิ กรีนที กลิ่นองุ่นเคียวโฮ ขนาด 380 และ 350 มิลลิลิตร พร้อมผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่จากโออิชิ
TikTok ชวนแชร์อาหารยั่ว ๆ กับแคมเปญ #กินคนเดียวมันเหงา
alivesonline : ถ้าพูดถึงเรื่องการแชร์รูป หรือวิดีโอแล้ว “อาหาร” คือส่วนหนึ่งในการแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกดี ๆ ของเรา เพราะอาหารคือความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันของคนเราไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวาน อาหารไทย หรืออาหารชาติไหน ๆ คนไทยก็มักจะให้ความสำคัญกับการแชร์ประสบการณ์เรื่องอาหาร
ดังจะเห็นได้จากการรีวิวจานเด็ด การปักหมุดร้านดัง หรือการรวบรวมท็อปชาร์ต อาหารที่ต้องกินก่อนตายต่าง ๆ TikTok ชื่นชมในการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยจึงได้ปล่อยแคมเปญเอาใจคนรักอาหารกับชาเลนจ์ #กินคนเดียวมันเหงา ที่ชวนคุณมาแชร์เมนูเด็ดโดนใจในสไตล์ของคุณให้กับชาวโลกได้รับรู้
- สายของแซ่บ ถ้าพูดถึงร้านอาหารที่คิวยาวเป็นวัน ๆ ก็คงหนีไม่พ้นร้านยำชื่อดังต่าง ๆ ทั้งที่พัทยาและห้วยขวาง อาหารที่มีรสจัดจ้านเปรี้ยวหวานเค็มครบเครื่องแบบนี้ ใครจะไม่โปรดปราน ลองนึกภาพ ยำแซลม่อนสด ยำไข่แดงเค็ม ยำหมูยอ และอีกสารพัดเมนูยำ ไหนโชว์เราหน่อยซิ ว่าคุณชอบยำอะไรกันบ้าง
- สายทาสของหวาน ใครบ้างล่ะไม่ชอบกินของหวานทั้งบิงซู ฮันนี่โทสต์ ขนมไทย แพนเค้ก หรือไอศกรีม ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ชอบกินของหวาน นอกจากจะอร่อยแล้ว น้ำตาลในของหวานยังจะช่วยทำให้คุณอารมณ์ดี มีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
- สายกินคลีน คนรักสุขภาพก็อย่าน้อยหน้า นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์เต็ม ๆ จานอีกด้วย เพราะเทรนด์รักสุขภาพกำลังมา แถมบริการส่งอาหารคลีนก็มีหลากหลายตัวเลือกให้คุณได้ลองรับประทานกัน ใครรับประทานเมนูอะไร ร้านไหนแล้วอยากบอกต่อ อย่าลืมถ่ายวิดีโอมาอวดกันล่ะ
ไม่ว่าวันนี้คุณกำลังอยู่สายไหน ก่อนที่จะอร่อยกับอาหารจานตรงหน้า หยิบมือถือขึ้นมาเปิด TikTok เพื่อถ่ายคลิปยั่ว ๆ พร้อมติดแฮชแท็ก #กินคนเดียวมันเหงา เพื่ออวดอาหารจานเด็ดให้กับเพื่อนทั่วโลกได้อิจฉาถึงลาภปากคนไทย พร้อมลุ้นรับรางวัล iPhone11 Pro และของรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายสำหรับจานเด็ดโดนใจ เพียงแค่ทำตามกติกาง่าย ๆ ดังนี้
- ถ่ายวิดีโอสร้างสรรค์รีวิวอาหารและติด #กินคนเดียวมันเหงา
- แชร์คลิปวิดีโอชวนเพื่อนของคุณมาร่วมกิจกรรมชวนหิวนี้ด้วยกัน!
“ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์” เปิดระบบ “เปรียบเทียบแฟรนไชส์”
alivesonline.com : การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ถือเป็นแนวทางยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจอย่างมาก ข้อดีของระบบแฟรนไชส์คือการให้ผู้ลงทุนไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยระบบการบริหารจัดการ วัตถุดิบ การส่งเสริมการตลาด รวมถึงแบรนด์แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงก็มีฐานลูกค้าของตัวเองอยู่มาก ผู้ลงทุนสามารถจึงเริ่มต้นทำธุรกิจและมีกำไรได้เร็วยิ่งขึ้น
ThaiFranchiseCenter.com ในฐานะที่เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดในไทยที่รวบรวมธุรกิจแฟรนไชส์จากทั่วประเทศไว้กว่า 588 แบรนด์ได้พัฒนาระบบ “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” ที่ให้ผู้สนใจลงทุนเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละแฟรนไชส์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดปัญหาที่คนส่วนใหญ่อยากลงทุนแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกแฟรนไชส์ไหนดีกว่ากันซึ่งในระบบเปรียบเทียบแฟรนไชส์นี้สามารถใช้งานได้ทั้งในคอมพิวเตอร์และบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
สำหรับผู้ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ให้เข้าไปที่หน้าหลักของ www.thaifranchisecenter.com แล้วคลิกไปที่คำว่า “Franchise” และคลิ๊กที่คำว่า “ประเภท” จากนั้นให้เลือกหมวด “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” ซึ่งจะมีการแบ่งหมวดหมู่ธุรกิจแฟรนไชส์ไว้มากมายเช่น หมวดอาหาร, หมวดเครื่องดื่มและไอศกรีม, หมวดเบเกอรี่ เป็นต้น ผู้ใช้งานเลือกคลิกเข้าไปในหมวดหมู่ที่ต้องการและไปที่ “เพิ่มแฟรนไชส์” ซึ่งจะมีแบรนด์แฟรนไชส์ให้เลือกจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น เลือกหมวดแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยว สามารถเปรียบเทียบได้ 3 แบรนด์พร้อมกัน เช่น เกาเหลาเนื้อธัญรส, เตี๋ยวเรือต่อชาม, รสเด็ด ก๋วยเตี๋ยวกระทุ่มแบน
(www.thaifranchisecenter.com “Franchise” “ประเภท” “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” “เลือกหมวดหมู่
แฟรนไชส์ที่ต้องการ “เลือกแบรนด์แฟรนไชส์ที่ต้องการเปรียบเทียบ” (สูงสุดได้ถึง 3 แบรนด์)
ข้อมูลในหน้าเปรียบเทียบจะแสดงให้เห็นชัดเจนถึงจำนวนสาขา ราคาแฟรนไชส์ ระยะเวลาในการก่อตั้ง และรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้ผู้ลงทุนได้ตัดสินใจเลือกแฟรนไชส์ที่ต้องการ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกขอข้อมูลแฟรนไชส์ที่ต้องการโดยกรอกรายละเอียดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
สำหรับผู้ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนเข้าไปที่หน้าหลักของ www.thaifranchisecenter.com เลือกออร์เดอร์ (แถบ 3 ขีดมุมซ้าย) แล้วเลือก “แฟรนไชส์ในหมวดหมู่ที่ต้องการ ” และเลือก “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” ซึ่งมีการแบ่งหมวดหมู่แฟรนไชส์ไว้เช่นเดียวกัน ผู้ใช้งานสามารถเลือกหมวดหมู่แฟรนไชส์และเลือกแฟรนไชส์ที่ต้องการเปรียบเทียบได้ครั้งละ 2 แบรนด์ เช่น หมวดหมู่เครื่องดื่มและไอศกรีม ลองเลือกกลุ่ม “แฟรนไชส์ชานมไข่มุก” และเลือกแฟรนไชส์ที่ต้องการได้ 2 แบรนด์ เช่นเปรียบเทียบระหว่าง กขค ชานม 15 บาท กับ ซูโม่ชา เมื่อเลือกแฟรนไชส์ที่ต้องการเปรียบเทียบได้แล้วให้กดที่คำว่า “เปรียบเทียบ” เราจะได้รายละเอียดเปรียบเทียบของทั้งสองแฟรนไชส์ ทั้งนี้ ผู้สนใจข้อมูลแฟรนไชส์สามารถเลือกขอข้อมูลแฟรนไชส์ที่ต้องการโดยกรอกรายละเอียดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น (สูงสุดได้ 2 แฟรนไชส์ในระบบมือถือ)
(www.thaifranchisecenter.com “ออร์เดอร์ (สัญลักษณ์ 3 ขีดมุมบนซ้าย)” “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” เลือกหมวดหมู่แฟรนไชส์ที่ต้องการ “เลือกแบรนด์แฟรนไชส์ที่ต้องการเปรียบเทียบ (สูงสุดได้ถึง 2 แบรนด์)
ถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ได้มีตัวช่วยในการตัดสินใจที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ทีมงานยังมีแผนในการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดีมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สมกับเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมแฟรนไชส์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ผู้สนใจที่ต้องการใช้งานระบบ “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ คลิ๊กที่ https://bit.ly/32dxY98
สำหรับผู้ต้องการใช้งานระบบ “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” ผ่านโทรศัพท์มือถือ เข้าไปที่ https://bit.ly/31djXqF
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ “เปรียบเทียบแฟรนไชส์” โทร.0 210 19187
“บีเอสเอ” กระตุ้นองค์กรธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์ถูกต้องตามกฎหมาย
alivesonline.com : บีเอสเอ I พันธมิตรซอฟต์แวร์ (BSA) ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและซีอีโอในประเทศไทยจัดทำโครงการรณรงค์เพื่อลดการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในที่ทำงานภายในสิ้นปี 2562 ภายใต้แคมเปญ “Clean Up to the Countdown” มุ่งหวังกระตุ้นให้ซีอีโอปรับเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ให้ถูกต้องตามกฎหมายในการดำเนินธุรกิจก่อนเที่ยงคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2562
แคมเปญ “Clean Up to the Countdown” มุ่งหวังให้องค์กรธุรกิจกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศไทยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย รวมถึงบริษัทในภาคธุรกิจต่าง ๆ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต การก่อสร้าง การเงินและการธนาคาร วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรม สื่อมวลชน การออกแบบ ไอที และการดูแลสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งต่างเป็นผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ แต่เป็นการใช้ที่ปราศจากสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิจากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ซึ่งบีเอสเอกำลังทำงานร่วมกับตำรวจบก.ปอศ. เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายกับองค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย บีเอสเอได้ช่วย ให้เบาะแสองค์กรธุรกิจเกือบ 1 หมื่นรายใน 10 จังหวัดที่สงสัยว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ต้องการเห็นผู้นำธุรกิจดำเนินการเชิงรุกในการทำให้สินทรัพย์ซอฟท์แวร์ขององค์กรถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้พวกเขาเริ่มต้นปีใหม่ในฐานะบริษัทที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงช่วงปีใหม่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ.จะเดินหน้าตรวจค้นและดำเนินคดีกับองค์กรธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นและดำเนินคดีภายใต้กฎหมายของไทย ในขณะเดียวกัน บีเอสเอ ก็กำลังติดต่อกับผู้นำองค์กรธุรกิจหลายพันคนในประเทศไทยเพื่อให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดการกับการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในสถานที่ทำงานควบคู่กันไปด้วย
ผู้บริหารของบีเอสเอ กล่าวว่า “ซีอีโอบางท่านอาจทราบดีว่าบริษัทของพวกเขากำลังใช้ซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมายอยู่และระมัดระวังเรื่องการลงทุนในซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ แต่ยังมีซีอีโอของบริษัทอีกจำนวนมากที่มีคอมพิวเตอร์หลายร้อย หรือหลายพันเครื่อง และอาจไม่ทราบว่าซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์ของบริษัทเป็นประเภทไหนและถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่”
นายดรุณ ซอว์เนย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บีเอสเอ I พันธมิตรซอฟต์แวร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “บีเอสเอต้องการช่วยซีอีโอทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่การทำให้ถูกต้องนี้ ซีอีโอทุกท่านต้องให้ความร่วมมือในการจัดการกับความเสี่ยงจากการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ คำแนะนำของบีเอสเอคือ ผู้บริหารควรจะให้ความสำคัญกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากซอฟต์แวร์ที่ผิดกฎหมายในระดับสูงสุด นั่นหมายถึงต้องปฏิบัติอย่างจริงจังและปฎิบัติในเชิงรุกจะทำให้ซีอีโอสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงนี้ได้”
จากความเห็นของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ วิธีแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์นั้น รวมถึงความพยายามและตั้งใจที่ดีขึ้นของซีอีโอในเฝ้าระวังการใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทด้วยตนเองในประเทศไทย
แคมเปญ “Clean Up to the Countdown” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Legalize and Protect ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี จนถึงขณะนี้โครงการดังกล่าวได้ช่วยองค์กรธุรกิจหลายพันแห่งในประเทศไทยปรับเปลี่ยนมาใช้สินทรัพย์ซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งยังปกป้องข้อมูลสำคัญๆ จากมัลแวร์และแฮกเกอร์อีกด้วย
“ไอพี คีย์ เซาท์อีสต์เอเชีย” แนะวิธีการเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายการค้าทั่วโลก
alivesonline.com : ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหมายการค้าจากสหภาพยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมพูดคุยถึงสภาพการณ์ของแวดวงเครื่องหมายการค้าโลกในการประชุมที่กรุงเทพฯ
สหภาพยุโรป (EU) และสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรป (European Union Intellectual Property Office : EUIPO) กำหนดจัดการประชุมเรื่องเครื่องหมายการค้าในระหว่างวันที่ 15-16 ตุลาคม 2562 ที่กรุงเทพฯ โดยงานครั้งนี้อยู่ภายใต้แผนงาน “ไอพี คีย์ เซาท์อีสต์เอเชีย” (IPKey South-East Asia) ซึ่งเป็นแผนงานที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป
ปัจจุบัน บรรดาเจ้าของเครื่องหมายการค้าได้พัฒนาเครื่องหมายการค้ารูปแบบใหม่ที่มิใช่รูปแบบดั้งเดิมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของตนเอง ทำให้สำนักงานเครื่องหมายการค้าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นของสภาพการณ์เครื่องหมายการค้าทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงยังจำเป็นต้องได้รับการปกป้องอย่างต่อเนื่อง มิใช่เฉพาะจากการล่วงละเมิดเท่านั้น แต่รวมถึงการจดทะเบียนที่ไม่สุจริต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นประเด็นที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหมายการค้าจะร่วมพูดคุยกันในการประชุมเรื่องเครื่องหมายการค้าของแผนงาน “ไอพี คีย์ เซาท์อีสต์เอเชีย” ครั้งนี้
การประชุมระยะเวลา 2 วันดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการตรวจสอบเครื่องหมายการค้า การปกป้องและการบังคับใช้กฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนการปฏิบัติงานด้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนำเสนอหัวข้อที่เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของเครื่องหมายการค้าและผู้ปฏิบัติงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ การปกป้องเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง มาตรการป้องกันการจดทะเบียนโดยไม่สุจริต การตรวจสอบเครื่องหมายการค้าที่มิใช่รูปแบบดั้งเดิม การตรวจสอบเครื่องหมายการค้าตามระดับศักยภาพ ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกับเจ้าของเครื่องหมายการค้าและนักกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาในปัจจุบันที่ระบบดิจิทัลกำลังแพร่หลายเป็นอย่างมาก
นายฟิลิปป์ ดูปุย หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและการค้าแห่งคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เน้นย้ำถึงความสำคัญของเครื่องหมายการค้าว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่งซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างชัดเจนจากข้อมูลการศึกษาของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรปและสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป ซึ่งระบุว่าอุตสาหกรรมที่เข้มงวดกับทรัพย์สินทางปัญญา สามารถสร้างงานได้ 29.2% ของงานทั้งหมดในสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 -2016 โดย 22% เป็นงานในอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องหมายการค้าอย่างเคร่งครัด
การประชุมครั้งนี้ยังรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหมายการค้าทั้งจากสหภาพยุโรป สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มผู้ปฏิบัติงานด้านวิชาการและนักธุรกิจ นักกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญา องค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (World Intellectual Property Organization : WIPO) และสมาคมเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ (International Trademark Association : INTA)
ทั้งนี้ “ไอพี คีย์ เซาท์อีสต์เอเชีย” (IPKey South-East Asia) เป็นแผนงานที่ไดรับเงินทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป บริหารงานโดยสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหภาพยุโรป (European Union Intellectual Property Office : EUIPO) มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมมาตรการด้านสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ออราเคิล” เพิ่มฟังก์ชั่นวิเคราะห์ข้อมูลสำเร็จรูปเพื่อระบบการวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจแบบเชื่อมต่อการทำงาน
alivesonline.com : ORACLE OPENWORLD, ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย – ออราเคิล (Oracle) นำเสนอ Oracle Analytics for Applications ฟังก์ชั่นการทำงานเสริมเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันการวางแผนทรัพยากรของวิสาหกิจแบบเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ (Fusion ERP) เพื่อใช้ในขั้นตอนทางการเงินของบริษัท
Oracle Analytics for Fusion ERP นำเสนอฟีเจอร์การวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานเฉพาะด้านและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจให้แก่ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันและผู้มีอำนาจตัดสินใจในการดำเนินงานธุรกิจ โดย Oracle Analytics for Fusion ERP ถูกพัฒนาบน Oracle Analytics Cloud ซึ่งเป็นหนึ่งในแพล็ตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่ทันสมัยที่สุด และเสริมประสิทธิภาพโดย Oracle Autonomous Data Warehouse ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลอัตโนมัติอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม ทำให้ Oracle Analytics for Fusion ERP มอบการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับ Oracle ERP Cloud ซึ่งเป็นทั้งระบบท่อส่งข้อมูล แบบจำลองข้อมูลสำเร็จรูป และดัชนีชี้วัดแนวทางการปฏิบัติงานที่ดีที่สุดแบบสำเร็จรูป และด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์ด้วยตนเองซึ่งขับเคลื่อนด้วยการเรียนรู้ของระบบ จะทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานธุรกิจ ตลอดจนส่งเสริมการตัดสินใจและได้ข้อมูลที่สอดคล้องกันทั้งองค์กร โดยมีความเที่ยงตรงในระดับสูง
นายที.เค. อานันด์ รองประธานกรรมการอาวุโส ออราเคิล กล่าวว่า
“ลูกค้าของเราและอุตสาหกรรมนี้กำลังต้องการระบบการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมขององค์กร โดยต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกอันทรงประสิทธิภาพได้อย่างง่ายดาย”
ด้าน นายอนาไลติคส์ กล่าว “ด้วยฟีเจอร์ Oracle Analytics for Applications ทำให้เราสามารถมอบข้อมูลและระบบการวิเคราะห์ให้แก่ผู้ที่จำเป็นต้องใช้งาน โดยข้อมูลจะถูกส่งตรงจากสายการผลิตของพนักงานสู่ห้องกรรมการบริหารได้ทันที ทำให้ทุกฝ่ายสามารถปฏิบัติงานในหน้าที่รับผิดชอบได้อย่างกระตือรือร้น ทั้งยังมีความสอดคล้องและมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์การเติบโต ทั้งในด้านยอดขายและรายได้สุทธิ”
Oracle Analytics for Fusion ERP จะมีทั้งแผงควบคุมและการนำเสนอข้อมูลซึ่ผ่านระบบ Oracle Analytics Cloud ที่เชื่อมต่อกับทุกส่วนขององค์กรและผสานดัชนีชี้วัดผลงาน (KPIs) ของการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างภาพรวมของประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร ซึ่งในอนาคต Oracle Analytics for Applications จะนำเสนอฟังก์ชั่นผสานการทำงานที่ครอบคลุมขึ้น รวมถึงคอนเทนท์สำเร็จรูปสำหรับแอปพลิเคชั่น Oracle Cloud อื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแอปพลิเคชันเพื่อการบริหารทุนมนุษย์ (Human Capital Management – HCM), ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience – CX) และการบริหารห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management – SCM)
Oracle Analytics for Applications ยังรวมความสามารถด้านระบบท่อส่งข้อมูลและคลังสินค้าที่บริหารโดยออราเคิล แบบจำลองข้อมูลสำเร็จรูปและประสบการณ์ผู้ใช้งานแบบบูรณาการที่ครอบคลุมทั้งการเข้าถึงข้อมูล การรายงานผล และแผงควบคุมระบบได้ด้วยตัวเอง สำหรับผู้ใช้งานการดำเนินงานและขั้นตอนในธุรกิจและด้วยความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกผ่านระบบคลาวด์แบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ทำให้ Oracle Analytics for Applications สามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวางและปรับเปลี่ยนการทำงานให้มีรูปแบบเฉพาะได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถป้อนข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอกรวมเข้ากับข้อมูลบนระบบคลาวด์ของ Oracle ERP Cloud ได้อีกด้วย
นายวิกรัม สิงห์วี หัวหน้าฝ่ายงาน Internal Business Systems ดร็อปบ็อกซ์ กล่าวว่า Oracle Analytics for Fusion ERP ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราในการนำเสนอฟังก์ชั่นการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วและง่ายดาย การบริการตนเองทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพรวมและวิเคราะห์ข้อมูลได้ตามต้องการ ส่วนดัชนีชี้วัดผลงานสำเร็จรูปก็มอบความรวดเร็วและคล่องตัวในการทำงานให้กับเรา กล่าวได้ว่า Oracle Analytics for Fusion ERP สามารถมอบข้อมูลด้านการเงินเชิงลึกที่ครอบคลุม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วของขั้นตอนการตัดสินใจให้แก่ผู้ใช้งานของเราที่ปฏิบัติงานในด้านการเงิน
“สนธยา คุณปลื้ม” เร่งพัฒนาเมืองพัทยาเทียบชั้น “ไมอามี่”
alivesonline.com : นายกเมืองพัทยา ทำนายอนาคตเมือง มั่นใจ อีอีซี ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสามเท่าจากเดิมที่มีประมาณ 14 ล้านคน พร้อมการลงทุนเบื้องต้น 1.7 ล้านล้านบาท เร่งประสานทุกภาคส่วนพัฒนาเมืองรอบด้าน ทั้งร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลฯ พัฒนาต้นแบบเครือข่าย 5G วางระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารเมืองพัทยา พร้อมผนึกกำลัง “ทีเส็บ” ตามแผนงานพัฒนาพัทยาไปสู่ศูนย์กลางการไมซ์นานาชาติ และประสาน กรมโยธาธิการฯ วางระบบบำบัดน้ำเสียใหม่ เพิ่มเป็น 1.3 แสนลูกบาศก์เมตร
นายสนธนยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยภายหลังการประชุมกับภาคีภาคส่วนต่าง ๆ ว่า เมืองพัทยาในฐานะเขตบริหารพิเศษ มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องแล้ว 40 ปี ทั้งยังดำเนินการด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาแล้ว 60 ปี ทำให้ชลบุรีและเมืองพัทยามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี จนปัจจุบันมีจีดีพีเกือบ 1 ล้านล้านบาท ถือเป็นอันดับที่สองของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าทางสังคมอย่างน่าพอใจ ดังเช่นในรายงานดัชนีความก้าวหน้าของคนของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานว่า ชลบุรีและเมืองพัทยามีระดับการพัฒนาโดยรวมอันดับหกของประเทศ เป็นอันดับสองด้านชีวิตแรงงาน เป็นอันดับสามด้านการศึกษา เป็นต้น
ขณะเดียวกัน จากรายงานของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่า ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม 2561-มิถุนายน 2562 มีการขอส่งเสริมการลงทุนในเขตสามจังหวัดของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกอบด้วยฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีประมาณ 8 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนในชลบุรีประมาณ 6.4 แสนล้านบาท
“แต่ปัจจุบันเมืองพัทยากำลังสำลักความก้าวหน้า โดยเฉพาะในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการบริหารเมือง เพราะต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้าน เช่น น้ำท่วม น้ำเสีย และขยะ ซึ่งถ้าหากไม่เร่งปรับตัวแก้ปัญหารับการเกิดขึ้นของ อีอีซี ก็อาจจะกลายเป็นตัวฉุดรั้งทั้งพัทยาและความก้าวหน้าของประเทศ เมืองพัทยาจึงต้องหาแนวทางในการขับเคลื่อนให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม”
นายสนธยา กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเมืองพัทยามีการจัดประชาคมประชาชนในเรื่องต่าง ๆ แต่จากการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงต้องเตรียมแผนงานและมาตรการที่จะสร้างเป็นองค์กรถาวรในลักษณะเครือข่ายซึ่งสามารถพัฒนาไปเป็นมูลนิธิพัฒนาพัทยาได้ต่อไป โดยได้ศึกษาหลาย ๆ ทางเลือกในการมุ่งสู่เป้าหมายคือ การลดข้อจำกัดทางราชการ เช่น การจัดตั้งบริษัทกรุงเทพธนาคม หรือแม้แต่ขอนแก่นโมเดล เพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสีย แล้วนำมาปรับใช้กับพัทยาในอนาคต
สำหรับเครือข่ายพัฒนาพัทยา ประกอบด้วยภาคส่วนสำคัญคือ ภาคธุรกิจ ภาคประชาชน ภาคการศึกษา ภาคสาธารณสุข ภาคราชการ และองค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งจะเข้ามาร่วมคิด ร่วมทำกับเมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรี อันจะเป็นแนวทางที่ทำให้เกิดความยั่งยืนได้ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
“ตัวอย่างที่ชัดเจนคือพัทยามีขยะวันละ 460 ตัน เพราะเรามีประชากรกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยขยะเหล่านี้ไม่มีทางจะแก้ไขได้หมดถ้าผู้ทำให้เกิดขยะไม่เข้ามาร่วมมือด้วย แต่ถ้าเกิดการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งแล้ว ชลบุรีและเมืองพัทยาก็จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ประชาชนก็มีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่”
นายสนธยา กล่าวอีกว่า การพัฒนาของ อีอีซี จะทำให้กายภาพของเมืองพัทยาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งจำนวนประชากรที่คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 ล้านคน โดยในส่วนของนักท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสามเท่าจากเดิมที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 14 ล้านคน พร้อมการลงทุนเบื้องต้น 1.7 ล้านล้านบาท
การร่วมมือกับหลาย ๆ ภาคส่วนครั้งนี้เท่ากับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของพัทยาให้เป็น “Neo Pattaya” ตามแนวทาง “พัทยาโฉมใหม่ ก้าวไกล ไม่ทิ้งกัน” โดยเฉพาะการเข้ามาของ อีอีซี และการลงทุนต่าง ๆ คาดว่าจะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของพัทยาซึ่งปัจจุบันพึ่งพาการท่องเที่ยวเกือบ 80% ไปสู่เมืองชายทะเลที่มั่นคงกว่าเดิม ทั้งยังจะสามารถยืนอยู่บนธุรกิจหลายสาขา เช่น เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลก็จะเป็นการกรุยทางไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ โดยไม่มีขีดจำกัด ทั้งสตาร์ทอัป การเงิน และอื่น ๆ
นายสนธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน เมืองพัทยา ยังได้ร่วมมือกับ กรมโยธาธิการและผังเมือง วางแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างครบวงจรเป็นที่เรียบร้อยและเริ่มดำเนินการในระยะต้นแล้ว โดยเมืองพัทยามีการวางระบบบำบัดน้ำเสียใหม่จากปัจจุบันบำบัดได้ 6.7 หมื่นลูกบาศก์เมตร เพิ่มเป็น 1.3 แสนลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาต้นแบบเครือข่าย 5G บริเวณชายหาดพัทยา วางระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารเมืองพัทยา และร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ตามแผนงานพัฒนาพัทยาไปสู่ศูนย์กลางการประชุมและแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การตลาด และพัฒนาบุคลากร
“เราลองเปรียบเทียบเมืองพัทยากับเมืองชายทะเลอื่น ๆ เช่น ไมอามี่ ซึ่งมีขนาดพื้นที่และจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เคียงกัน แต่พบว่าจีดีพีของเมืองพัทยาต่ำกว่าสิบกว่าเท่า เพราะไมอามี่ถือเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว การเงิน และธุรกิจสาขาต่าง ๆ จึงคาดว่าเมื่อ อีอีซี เกิดขึ้นจะทำให้ศักยภาพของเมืองพัทยาเพิ่มสูงขึ้นมาก เพียงแต่เราต้องเร่งพัฒนาตามให้ทันและทำให้ยั่งยืนมากขึ้น” นายสนธยา กล่าวในที่สุด
“ธนาสิริ กรุ๊ป” เปิดจองบ้านหลังใหญ่รองรับสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ “ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า – สิรินธร”
19-20 ตุลาคม 2562 “ธนาสิริ กรุ๊ป” เชิญร่วมงาน Tropical Pool Party เปิดจองแบบบ้าน 100 ตารางวา 4 นอน 5 น้ำ 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 จอด พื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตร รองรับสระว่ายน้ำส่วนตัว เริ่ม 14.9 ล้านบาท ที่ “ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร” รับฟรี! ที่พักสุดหรู ห้อง Pool Villa และ/หรือ iPhone 11 Pro Max 64 GB
พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมเตรียมเอกสารยื่นพิจารณาสินเชื่อ (Pre-Approve) กับทางโครงการครบถ้วน พร้อมจองสิทธิ์ในแปลงที่กำหนด รับฟรี! Gift Voucher ที่พักสุดหรู ห้อง Pool Villa 2 วัน 1 คืน ที่ Evason Hua Hin มูลค่า 12,000 บาท และ/หรือสำหรับลูกค้าที่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อและจองในแปลงที่กำหนด รับเพิ่มโทรศัพท์มือถือ iPhone 11 Pro Max 64 GB มูลค่า 39,900 บาท ถึง วันที่ 10 พฤศจิกายน 62 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
โครงการ “ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร” บ้านเดี่ยวหรูเหนือระดับ สไตล์ Double Courtyard สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ รายล้อมด้วยบรรยากาศสีเขียว ร่มรื่น ซึ่งได้รับรางวัลอสังหาริมทรัพย์เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น จาก สมาคมสถาปนิกสยามฯ Exclusive Living เพียง 95 หลัง ดีไซน์ใหม่ทันสมัย แฝงกลิ่นอายธรรมชาติ เน้นความโปร่งโล่ง น่าอยู่ บ้านหน้ากว้างพิเศษ เพื่อให้ทุกพื้นที่ได้สัมผัสธรรมชาติ โอ่อ่า สง่างามภูมิฐาน มีห้องนอนล่างขนาดใหญ่ รองรับผู้สูงอายุ หรือแขกผู้มาเยือนได้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว มีระบบ Home Automation, สุขภัณฑ์อัตโนมัติ, สัญญาณกันขโมย ห้องน้ำแยกส่วนเปียก/แห้ง และช่องแสงระบายอากาศภายนอกเพื่อสุขอนามัย ใกล้ทางด่วนศรีรัช เดินทางสะดวกเพียง 15 นาที ถึงจตุจักร ทำเลศักยภาพ ใกล้สถานศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำ
สอบถามเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ โครงการ “ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร” โทร.0 2005 8888 กด 1 หรือ ลงทะเบียน https://goo.gl/e2okWc
ไชน่า โมบายล์ฯ อัปเกรดแพลตฟอร์ม mCloud
“ไชน่า โมบายล์ อินเตอร์เนชั่นแนล” (ซีเอ็มไอ) ประกาศเปิดตัวเวอร์ชั่นล่าสุดของ mCloud บริการแพลตฟอร์มคลาวด์ เน็ตเวิร์คแบบครบวงจรที่พร้อมให้บริการแล้ว เวอร์ชั่นใหม่นี้ครอบคลุมการเชื่อมต่อที่กว้างขวางมากขึ้นและผู้ให้บริการคลาวด์จำนวนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ระบบสั่งงานออนไลน์เป็นเรื่องง่าย โดยเพิ่มฟังก์ชั่นด้านการชำระเงินออนไลน์ (e-payment) เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานโดยรวมและตอกย้ำถึงความหมายที่แท้จริงของประโยคที่ว่า ‘Putting the Cloud At Your Fingertips’ หรือ “เข้าถึงคลาวด์ได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว” โดยการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้แก่ลูกค้า
“ซีเอ็มไอ” มุ่งมั่นสร้างสรรค์ระบบเครือข่ายคลาวด์แบบครบวงจรร่วมกับพันธมิตรด้านคลาวด์และยกระดับการให้บริการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายธุรกิจไปได้ทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัว mCloud ไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีส่วนช่วยลูกค้าซึ่งเป็นธุรกิจระหว่างประเทศใช้งานและบริหารผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมบนคลาวด์และโครงข่ายบริษัททำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรและพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
สะดวกยิ่งขึ้นกับบริการคลาวด์ที่ครอบคลุมกว่าเดิม พร้อมการทำงานออนไลน์ผ่านระบบคลาวด์
mCloud เวอร์ชั่นอัปเกรดนี้ได้ขยายขอบเขตระบบนิเวศคลาวด์ออกไปเพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลมากขึ้นและสามารถใช้งานการเชื่อมต่อระบบคลาวด์แบบไฮบริดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถทำงานต่าง ๆ ขององค์กรได้ โดยเชื่อมต่อกับ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS), กูเกิล คลาวด์, หัวเว่ย คลาวด์ และผู้ให้บริการคลาวด์อื่น ๆ แพลตฟอร์มใหม่นี้ยังเปิดให้ลูกค้าสามารถสร้างบัญชีใช้งานบนแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะ เช่น AWS, อาลีบาบา คลาวด์, หัวเว่ย คลาวด์ ได้โดยที่ระบบจะทำการออกใบแจ้งหนี้โดยอัตโนมัติ
เครือข่ายของ mCloud ให้บริการครอบคลุม 47 เมืองทั่วโลก เช่น ปักกิ่ง ฮ่องกง สิงคโปร์ โตเกียว ลอนดอน ลอสแอนเจลิส และอื่น ๆ ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถบริหารงานคลาวด์และโครงข่ายทั่วโลกได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มเดียว และในเร็ว ๆ นี้ mCloud จะขยายเครือข่ายความครอบคลุมออกไปอีก 24 เครือข่ายในอีก 19 เมืองทั่วโลก
บริการออนไลน์ใหม่: เพิ่มประสิทธิภาพระบบชำระเงินและการบริการตนเอง
เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปด้านการแจ้งหนี้และชำระเงินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานมากยิ่งขึ้น mCloud เวอร์ชั่นอัปเกรดนี้เปิดให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ ทั้งนี้ศู นย์บริหารการเรียกเก็บเงิน (Billing Centre) แบบเบ็ดเสร็จของ mCloud มีระบบการบริหารการเรียกเก็บเงินและส่งมอบเงินที่เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า อีกทั้งลูกค้ายังจะได้รับประโยชน์จากส่วนลดเมื่อมีการใช้งานในปริมาณมาก และสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้ เพื่อประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นของผู้ใช้งาน mCloud ยังสามารถเข้าถึงระบบบริการตนเองเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ทดลองใช้บริการฟรีพร้อมรับส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ กับ ‘Trial Before Purchase Program’
เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถทดลองสัมผัสประสบการณ์ด้านคลาวด์ที่เหนือกว่าและช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น “ซีเอ็มไอ” จึงมีโปรแกรม “Trial Before Purchase Program” ให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้โซลูชั่นคลาวด์ได้ฟรีนานสูงสุด 30 วันหรือมูลค่าสูงสุด 500 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 15,250 บาท) เมื่อสมัคร mCloud ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยในช่วงทดลองใช้งานลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ บนคลาวด์และโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยีเครือข่าย SD-WAN ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีคูปองต่าง ๆ จากพันธมิตรที่ลูกค้าสามารถใช้ทดลองบริการคุณภาพสูงต่าง ๆ บนมัลติ-คลาวด์ ซึ่งสามารถใช้เมื่อเลือกชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ในราคาพิเศษ
ด้วยเครือข่ายระดับโลกที่กว้างขวางและแข็งแกร่ง “ซีเอ็มไอ” ส่งมอบบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้าองค์กรอย่างต่อเนื่องด้วยปรากฏการณ์การรับประกันมาตรฐานการให้บริการที่ไม่มีสะดุดร้อยละ 99.99 ของตลอดระยะเวลาการใช้งาน การให้บริการต่าง ๆ ด้านข้อมูล และบริการสนับสนุนทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และในฐานะแพลตฟอร์มเครือข่ายคลาวด์แห่งแรกของจีน mCloud มุ่งมั่นให้บริการโซลูชั่นคลาวด์แบบเบ็ดเสร็จแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่จับต้องได้ เข้าถึงได้ และบริหารจัดการได้
ลงทะเบียนใช้ mCloud ได้ที่ : https://mcloud.cmi.chinamobile.com