Special Story » “ลาซาด้า” ชูกลยุทธ์หนุนผู้ค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ

“ลาซาด้า” ชูกลยุทธ์หนุนผู้ค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ

18 มีนาคม 2019
0

alivesonline.com : ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซประกาศเดินหน้ารุกตลาดข้ามพรมแดน หนุนผู้ค้าและสินค้าแบรนด์นอกให้เข้าถึงตลาดนักชอปออนไลน์บนแพลตฟอร์มลาซาด้าเพิ่มมากขึ้น หลังพบความต้องการของผู้บริโภคตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ดันยอดขายสินค้าข้ามพรมแดนเติบโต 4.6 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คาดมีมูลค่าถึง 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568

 

 นายจิง ยิน ประธานกรรมการ (ร่วม) “ลาซาด้า กรุ๊ป” กล่าวระหว่างการประชุมผู้ขายสินค้าข้ามพรมแดนบนแพลตฟอร์ม “ลาซาด้า” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2562 ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยมีผู้ค้ากว่า 1 พันรายเข้าร่วมประชุมและรับฟังคำแนะนำด้านกลยุทธ์ที่ “ลาซาด้า” พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ดีขึ้นว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ “ลาซาด้า” คือการนำแบรนด์สินค้าที่มีคุณภาพจากผู้ค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Sellers) มานำเสนอบนแพลตฟอร์มของ “ลาซาด้า” ผลักดันให้เติบโต พร้อมทั้งดูแลรักษา แบรนด์ชั้นนำ 300 อันดับแรกใน 6 ตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดย “ลาซาด้า” ต้องการทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมโยงระหว่างร้านค้าข้ามพรมแดนที่มีคุณภาพกับผู้บริโภคกว่า 560 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเปิดโอกาสให้แบรนด์เหล่านี้สามารถพัฒนาตลาดและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ผ่านการแสดงผลการค้นหาที่ช่วยให้สินค้าข้ามพรมแดนจากผู้ขายสามารถปรากฏต่อสายตาลูกค้าได้มากขึ้น เมื่อลูกค้ามีการเรียกดูเว็บไซต์ หรือใส่คำค้นหาสินค้า นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงระบบการคัดแยกประเภทสินค้าข้ามพรมแดนบนแพลตฟอร์ม “ลาซาด้า” ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นายจิง กล่าวอีกว่า ด้วยความเชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นสุดยอดจาก “อาลีบาบา” ผนวกกับความเข้าใจด้านตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเชิงลึก ทำให้ “ลาซาด้า”สามารถหยิบยื่นความรู้และเครื่องมือต่าง ๆ ให้ผู้ขายสินค้าข้ามพรมแดนและบรรดาแบรนด์สินค้าต่าง ๆ เพื่อก้าวไปพร้อมกับการเติบโตอย่างมหาศาลในภูมิภาคนี้

สำหรับการพัฒนาที่สำคัญคือ การปรับปรุง “Global Collection” ช่องทางการซื้อขายสินค้าข้ามพรมแดนบนแพลตฟอร์ม “ลาซาด้า” ซึ่งได้อัปเกรดเป็น “Global Collection 2.0” โดยพัฒนาฟังก์ชั่นช่วยการค้นหาด้วยอัลกอริทึมการคัดกรองประเภทสินค้าข้ามพรมแดนและแสดงผลผู้ขายสินค้าคุณภาพและได้รับความนิยมซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าเหล่านั้นได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

ในส่วนของการบริการภายใต้ Global Collection “ลาซาด้า”ยังได้พัฒนาระบบให้ลูกค้าได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น โดยลูกค้าที่เลือกประเภทบริการจัดส่งพัสดุสินค้าแบบมาตรฐานจะสามารถรับสินค้าได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่สั่งสินค้า โดยผู้ค้ายังสามารถพัฒนาประสิทธิภาพการบริการและขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม”ลาซาด้า” ด้วยแคมเปญใหม่ที่มาพร้อมกับเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึก โดยผู้ค้าจะได้รับรายงานประจำสัปดาห์เกี่ยวกับคำค้นยอดนิยมและรายการสินค้าที่ลูกค้ามองหาบน “ลาซาด้า” เพื่อนำไปพัฒนาการขายให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีขึ้น

สำหรับ Global Collection ของ “ลาซาด้า” เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2556 และได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นตลาดซื้อขายสินค้าที่มีความหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งที่รวมเอาแบรนด์และผู้ค้าจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว โดยผู้ขายสินค้าข้ามพรมแดน 5 อันดับแรกมาจากประเทศจีน ฮ่องกง เกาหลี สหรัฐอเมริกา และยุโรป ตามลำดับ ส่วนสินค้ายอดนิยม ได้แก่ สินค้าประเภทแฟชั่นสตรี สินค้าสำหรับบ้านและที่อยู่อาศัย และแฟชั่นเด็ก ทั้งนี้จากการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีพื้นฐานอันแข็งแกร่งของ “อาลีบาบา” รวมถึงเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมในวงกว้างและไร้คู่แข่ง “ลาซาด้า” ยังเตรียมที่จะเปิดตัวตลาดสินค้าประเภทใหม่ซึ่งเป็นสินค้าที่มีขนาดใหญ่ อาทิ เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้านอีกด้วย

ในปีที่ผ่านมา “ลาซาด้า” ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยสถิติการจัดส่งสินค้าผ่านตัวแทนรับส่งพัสดุของ “ลาซาด้า”ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านชิ้นต่อวัน โดย “ลาซาด้า” ได้ตอบรับต่อความต้องการของลูกค้าซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรด้านโลจิสติกส์กว่า 100 ราย รวมถึงผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุรายอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริการและจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ยังได้เช่าเครื่องบินขนส่งสินค้าแบบเหมาลำส่งพัสดุสินค้าข้ามพรมแดนน้ำหนักรวมกว่า 200 ตันสู่มือนักชอปในประเทศอินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย เพื่อให้ทันเวลาสำหรับช่วงเทศกาลวันหยุดพิเศษอีกด้วย

ทั้งนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มสูงมากเป็นประวัติการณ์ได้สะท้อนถึงความต้องการสินค้าข้ามพรมแดนที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยยอดขายสินค้าข้ามพรมแดนบนแพลตฟอร์มของ”ลาซาด้า”ในภูมิภาคนี้มีการเติบโตถึง 4.6 เท่าภายในระยะเวลา 3 ปี

อนึ่ง มีการคาดการณ์ว่า ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ