Special Story » ตลาดความงามกลุ่ม CLMV : โอกาสเติบโตสำหรับผู้ประกอบการไทย

ตลาดความงามกลุ่ม CLMV : โอกาสเติบโตสำหรับผู้ประกอบการไทย

19 กรกฎาคม 2019
0

alivesonline.com : ตลาดความงามในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 มีมูลค่าประมาณ 7.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2.51 แสนล้านบาท) คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 7.6 % ขณะที่มีมูลค่าการส่งออกมากถึง 2.59 พันล้านเหรียญสหรัฐ (83,036.8 ล้านบาท) โดยมีอาเซียน ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลีย เป็นตลาดสำคัญ

ธุรกิจความงามของไทยในตลาดอาเซียนยังมีมูลค่ามากถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะประเทศกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้มีสินค้าความงามของไทยวางขายอยู่ในตลาดกว่า 40% โดยความร่วมมือเชิงรุกของทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องการผลักดันให้ประเทศกลุ่ม CLMV เป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ยุคใหม่แห่งเอเชียและโลก ส่งผลให้ตลาดกลุ่ม CLMV มีความน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย

ประเทศกลุ่ม CLMV มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงปี 2553-2560 มี GDP per capita เติบโตโดยเฉลี่ย 5.6% ต่อปี ส่งผลให้ประชากรมีรายได้และกำลังซื้อสูงขึ้น ชนชั้นกลางมีสัดส่วนมากขึ้น การขยายตัวของเมืองสอดคล้องกับสัดส่วนของประชากรที่อาศัยในเมืองที่เพิ่มขึ้น และโครงสร้างของประชากรเด็กและวัยทำงาน ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจความงาม

ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและออร์แกนิกเป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก รวมทั้งภูมิภาคอาเซียนและกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะเวียดนามมีความต้องการสินค้าด้านความงามเพิ่มขึ้น 300% ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยผลิตภัณฑ์ความงามสมุนไพรที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องในเวียดนาม มีมูลค่าการเติบโต 11.5% คิดเป็นมูลค่า 1.55 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปีในช่วง ปี 2560–2065 และมีมูลค่า 2.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2065 กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานยอดการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากไทยในปี 2560 มีมูลค่า 82.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติที่นำเข้าจากไทยกำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคเวียดนาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลาง

สำหรับเศรษฐกิจเมียนมาขยายตัวขึ้นจากการผ่อนปรนการคว่ำบาตร คาดการณ์ว่าจำนวนชนชั้นกลางจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2563 กลุ่มข้าราชการจำนวน 1.5 ล้านคนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการที่รัฐบาลเพิ่มเงินเดือน 50% โครงสร้างประชากรเมียนมามากกว่าครึ่งมีอายุน้อยกว่า 30 ปี ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอาง

ข้อมูลจากสมาคมเครื่องสำอางเมียนมา เปิดเผยรายงานว่า ในเมียนมานำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศ 90% อีกทั้งพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามเปลี่ยนแปลงไปมากใน 2-3 ปีหลัง จากเดิมผู้บริโภคเป็นกลุ่มชนชั้นกลางวัยกลางคน แต่ปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่นและสูงอายุก็นิยมใช้สินค้าความงามเพื่อเสริมความงามและเพื่อสุขภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ขณะที่ตลาดกัมพูชายังมีกำลังซื้อไม่สูงนัก แต่ถือว่าน่าจับตาเนื่องจากการไหลเข้าของแหล่งเงินทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคมีไม่มากนัก ส่วนมากนำเข้ามาจากไทย จีน และเวียดนาม ผลิตภัณฑ์ความงามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ เครื่องสำอาง หรือครีมกันแดด ล้วนนำเข้าจากประเทศไทย โดยยอดการนำเข้าในปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 404 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2556 เป็น 4.06 ล้านเหรียญสหรัฐ

นางสาวพีรยาพัณณ์  พงษ์สนาม ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการอาวุโส บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาด CLMV ขยายตัวอย่างมากและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างประชากรและความร่วมมือระหว่างรัฐนับเป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะทำให้กลุ่ม CLMV เป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่แห่งเอเชียและโลกได้ไม่ยาก พฤติกรรมและลักษณะทางกายภาพของลูกค้าที่มีความคล้ายคลึงกับคนไทย รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการขนส่งต่ำ

นอกจากนี้ลูกค้ากลุ่ม CLMV ยังให้ความเชื่อถือในแบรนด์สินค้าไทยว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ กอปรกับไทยมีสมุนไพรที่มีความเฉพาะตัว เทคโนโลยีการผลิต และการบรรจุหีบห่อที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้สินค้าไทยได้รับความนิยมจากลูกค้า พร้อมกันนี้แบรนด์สินค้าไทยยังมีโอกาสในการสร้างการรับรู้ให้แพร่หลายมากขึ้นจากการที่นักท่องเที่ยวกลุ่ม CLMV เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย และได้ทดลองใช้สินค้า

ใน 5 ปีที่ผ่านมากลุ่มนักท่องเที่ยว CLMV มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11.2% ต่อปี และได้ชอปปิงสินค้าไทย โดยเฉพาะเครื่องสำอางและเครื่องดื่ม 33% ของการใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างการท่องเที่ยว (ศูนย์ข้อมูลกสิกรไทย) ขณะที่เศรษฐกิจโลกในยุคสงครามการค้ามีความผันผวน ทำให้ไทยได้รับผลกระทบในฐานะที่เป็นหนึ่งในห่วงโซ่คุณค่า ผู้ประกอบการจึงควรเริ่มมองหาโอกาสธุรกิจในตลาดอาเซียน และกลุ่มประเทศ CLMV ที่กำลังเติบโตนี้ด้วยเช่นกัน

ศักยภาพธุรกิจความงามและสุขภาพในตลาด CLMV และอาเซียนเป็นโอกาสที่กำลังเติบโต สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจสามารถมาหาโอกาสธุรกิจได้ที่งาน “Beyond Beauty ASEAN – Bangkok 2019” งานเทรดโชว์อันดับหนึ่งในด้านการแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจด้านความงามและสุขภาพที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 โดยแบ่งการจัดแสดงสินค้าออกเป็น 2 โซนคือ BBAB Supply Chain สำหรับนักธุรกิจที่มองหาผู้รับจ้างผลิตเครื่องสำอางตั้งแต่ต้นน้ำ และ BBAB Finished Products สำหรับนักธุรกิจที่มองหาสินค้าความงามพร้อมจัดจำหน่ายซึ่งเป็นปลายน้ำ

ในปี 2562 ยังมีโซนพิเศษ Beauty Made in Thailand สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางไทยโดยเฉพาะ ภายใต้ความร่วมมือจากสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย ในการจัดแสดงสินค้า และคุณค่าของแบรนด์ ผ่านวัฒนธรรมไทยไปสู่ผู้เข้าร่วมงานจากประเทศต่าง ๆ

พร้อมกันนี้ผู้ประกอบการยังจะมีโอกาสในการเจรจาธุรกิจและแลกเปลี่ยนความรู้กับบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าความงามชั้นนำทั้งภายในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีกว่า 80 บริษัทจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้าร่วมชมงาน อีกทั้งยังมีโอกาสได้สร้างเครือข่าย หรือความสัมพันธ์กับหน่วยงานด้านเศรฐกิจในประเทศ CLMV อาทิ สมาคมเครื่องสำอางเมียนมา สมาคมเครื่องสำอางลาว สมาคมน้ำมันหอมระเหยและเครื่องสำอางอโรมาเวียดนาม บริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า กลุ่มธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง กลุ่มธุรกิจโรงแรมและสปา

งาน Beyond Beauty ASEAN – Bangkok 2019 จะจัดขึ้นในวันที่ 19-21 กันยายน 2562 ณ อาคาร 9–12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.beyondbeautyasean.com