alivesonline.com : “จ๊อบไทย” (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน-สมัครงาน ออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทย เผยกระแสตอบรับดีหลังจากพัฒนาบริการสู่ “จ๊อบไทย แพลตฟอร์ม” (JobThai Platform) และเปิดตัว “จ๊อบไทย โมบาย แอปพลิเคชัน” (JobThai Mobile Application) เวอร์ชันใหม่ เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2562
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ “จ๊อบไทย” กล่าวว่า ผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เกิดจากการที่ “จ๊อบไทย แพลตฟอร์ม” ได้สร้างประสบการณ์ในการหางาน – สมัครงาน ค้นหาบุคลากรที่สะดวกและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2562 มีผู้ใช้งานมากกว่า 10 ล้านคน มีการสมัครงานมากกว่า 6 ล้านครั้ง เติบโตขึ้น 11% และมีจำนวนคนสมัครงานกว่า 9 แสนคน เติบโตขึ้น 25% ส่วนความต้องการแรงงานสูงสุดคืองานขาย ขณะที่งานธุรการ/จัดซื้อมีการสมัครสูงที่สุด โดยงานที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุดคือ งานนำเข้า-ส่งออก และงานทรัพยากรบุคคล
จากการศึกษาพฤติกรรมการหางาน – สมัครงาน ของผู้ใช้งาน “จ๊อบไทย” ในครึ่งปีแรกพบสถิติที่น่าสนใจ ดังนี้
- คนทำงานอายุ 25 – 34 ปี เป็นกลุ่มผู้ใช้งานหลัก เมื่อเปิดข้อมูลทางประชากร พบว่ากลุ่มผู้ใช้งานหลักเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยผู้ใช้งานเพศหญิง คิดเป็น 9% ในขณะที่เป็นเพศชาย คิดเป็น 37.1% เมื่อพิจารณาอายุของผู้ใช้งานจะเห็นได้ว่า ผู้ใช้งานที่มีช่วงอายุ 25–34 ปี คิดเป็น 58.7% ซึ่งมีจำนวนมากกว่าครึ่งของผู้ใช้งานทั้งหมด ลำดับถัดมาเป็นช่วงอายุ 35–44 ปี คิดเป็น 17.5% และอายุ 18-24 ปี คิดเป็น 15.6% ในขณะที่ผู้ใช้งานที่อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป คิดเป็น 8.2%
- มีการหางานมากที่สุดในช่วงเวลากลางวัน พฤติกรรมผู้ใช้งานในช่วงเวลา 00-16.00 น. สูงกว่าช่วงกลางคืน โดยพบว่า 11.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เข้าใช้งานสูงที่สุด และเมื่อดูพฤติกรรมการเข้าใช้งานเป็นรายวัน พบว่า การเข้าใช้งานในช่วงวันธรรมดาสูงกว่าวันหยุด โดยวันพุธเป็นวันที่มีการเข้าใช้งานสูงที่สุด
- ระดับการศึกษาและสาขาของผู้ใช้งาน ผู้ใช้งานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีสัดส่วนมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 7% ระดับ ปวส. คิดเป็น 14.73% ระดับปริญญาโท คิดเป็น 4.48% และในระดับการศึกษาอื่น ๆ รวมกันอยู่ที่ 6.08% เมื่อแยกตามสาขาวิชาที่จบของผู้สมัครงาน พบว่า อันดับหนึ่ง ได้แก่ บริหาร/การจัดการ/บุคคล คิดเป็น 11.6% อันดับสอง บัญชี/การเงิน/การธนาคาร คิดเป็น 10.6% อันดับสาม เลขาฯ /ประชาสัมพันธ์/ธุรการ/คอมพิวเตอร์ธุรกิจ คิดเป็น 6.1% อันดับสี่ วิศวกรรมอุตสาหการ/เครื่องกล/โรงงาน คิดเป็น 5.9% อันดับห้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์/ช่างไฟฟ้า/ช่างคอมพิวเตอร์ คิดเป็น 4.5%
“จ๊อบไทย” ยังได้ทำการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลงานเพื่อรายงานสถานการณ์ความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ดังนี้
-
5 กลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด
1.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 76,204 อัตรา เนื่องมาจากภาคการท่องเที่ยวที่มีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมตรวจลงตราหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังคงมีการขยายตัว โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนมากที่สุดสูงสุดคือ จีน มาเลเซีย และอินเดียตามลำดับ (ที่มา:กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) นอกจากนี้ยังมีการขยายตัวต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เกิดจากความต่อเนื่องของนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย
2.ธุรกิจยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ จำนวน 58,481 อัตรา ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีกลุ่มยานยนต์รวมอยู่ด้วย ด้านทรัพยากรบุคคลจึงมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของแรงงาน เช่น กลุ่มวิศวกร และช่างเทคนิคให้มีความพร้อมมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของการลงทุนนี้
3.ธุรกิจบริการ จำนวน 56,893 อัตรา เนื่องจากการขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม ทำให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ มารองรับมากขึ้น ตลอดจนการใช้ชีวิตและกิจกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดบริการใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น
4.ธุรกิจก่อสร้าง จำนวน 49,631 อัตรา มีปัจจัยจากการเติบโตต่อเนื่องของการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรและการก่อสร้างซึ่งเป็นผลจากการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมถึงการก่อสร้างภาคเอกชน ทำให้ความต้องการบุคลากรในประเภทธุรกิจนี้มีความต้องการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
5.ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 49,365 อัตรา การบริโภคยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึงผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกมีการปรับตัวหลายด้าน ทั้งการพัฒนารูปแบบร้านค้า การเพิ่มความหลากหลายทั้งสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น
-
5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด
อันดับหนึ่ง งานขาย คิดเป็น 18.6% อันดับสอง งานช่างเทคนิค คิดเป็น 10.1% อันดับสาม งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 7.1% อันดับสี่ งานธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 6.5% อันดับห้า งานวิศวกรรม คิดเป็น 5.8% ซึ่งมีอัตราการเปิดรับทั้งหมดโดยเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 135,069 อัตรา
-
5 สายงานที่มีผู้สมัครมากที่สุด
งานธุรการ/จัดซื้อ มีการสมัครสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 13.22% อันดับสอง งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 10.50% อันดับสาม งานขาย คิดเป็น 8.12% อันดับสี่ งานทรัพยากรบุคคล คิดเป็น 7.10% อันดับห้า งานวิศวกรรม คิดเป็น 6.48% ของผู้สมัครทั้งหมด
-
เปรียบเทียบความต้องการจากฝั่งองค์กรและความนิยมในการสมัครงาน
งานที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุด คือ นำเข้า-ส่งออกและทรัพยากรบุคคล มีการแข่งขันสูงเป็นอันดับ 1 เท่ากัน โดยมีการแข่งขันอยู่ที่ 4.79 คน ต่อ 1 อัตรา อันดับสอง วิทยาศาสตร์/วิจัยพัฒนามีอัตราการแข่งขันอยู่ที่ 4.44 คน ต่อ 1 อัตรา อันดับสาม สิ่งแวดล้อม มีอัตราการแข่งขันอยู่ที่ 3.12 คน ต่อ 1 อัตรา และอันดับสี่ เลขานุการ อัตราการแข่งขัน 3.05 คน ต่อ 1 อัตรา
-
“จ๊อบไทย โมบาย แอปพลิเคชัน” ประแสตอบรับเยี่ยม
นางสาวแสงเดือน กล่าวต่อว่า หลังจาก “จ๊อบไทย” เปิดตัว “จ๊อบไทย โมบาย แอปพลิเคชัน” เวอร์ชันใหม่ออกมาในช่วงเดือนมกราคม ที่ผ่านมา พบว่า ในครึ่งปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน จำนวน 782,551 คน โดยกลุ่มผู้ใช้งานที่มีอายุ 25-34 ปี มีสัดส่วนการใช้งานสูงสุด คิดเป็น 49.56% ในขณะที่อันดับสอง เป็นผู้ใช้งานที่มีอายุอยู่ในช่วง 18-24 ปี ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับอันดับที่หนึ่ง คิดเป็น 40.02% ผู้ใช้งานช่วงอายุ 35-44 ปี มีสัดส่วนการใช้งาน คิดเป็น 9% ช่วงอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนการใช้งาน คิดเป็น 1.42%
ในส่วนของจำนวนใบสมัครถูกส่งผ่าน “จ๊อบไทย โมบาย แอปพลิเคชัน” มีมากถึง 2,306,292 ครั้ง จากจำนวนผู้สมัคร 318,890 คน โดยใน “จ๊อบไทย โมบาย แอปพลิเคชัน” เวอร์ชันใหม่ได้เพิ่มวิธีในการสมัครงานจากเดิมที่มีการสมัครงานผ่านปุ่ม สมัครด่วน (Apply Now) และการส่งอีเมล (Send Email) ผ่าน Trust Mail อีก 2 วิธี คือการอัปโหลดไฟล์ประวัติ (Upload Files) และการกรอกประวัติแบบย่อ (Easy Form) รวมกันเป็น 4 วิธีให้ผู้ใช้งานเลือกวิธีการสมัครงานที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และสาขาอาชีพที่ตนเองต้องการ โดยวิธีการสมัครงานที่ผู้ใช้งานนิยมใช้มากที่สุด ได้แก่ สมัครด่วน (Apply Now) คิดเป็น 67.1% อันดับสอง อัปโหลดไฟล์ประวัติ (Upload Files) คิดเป็น 16.2% อันดับสาม กรอกประวัติแบบย่อ (Easy Form) คิดเป็น 10.6% อันดับสุดท้าย การส่งอีเมล (Send Email) คิดเป็น 6.2% ของจำนวนการส่งใบสมัครงานผ่านแอปพลิเคชันทั้งหมด
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาใน “จ๊อบไทย โมบาย แอปพลิเคชัน” เวอร์ชันใหม่ คือ “จ๊อบส์ เนียร์ มี” (Jobs Near Me) ฟีเจอร์ค้นหางานที่อยู่บริเวณใกล้ตัวหรือสามารถกำหนดพิกัดเพื่อค้นหางานที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งจะแสดงผลในรูปแบบแผนที่ โดยมีผู้ใช้งานฟีเจอร์นี้มากกว่าเดือนละ 60,000 คน
“ข้อมูลภาพรวมความต้องการของตลาดแรงงานและความต้องการขององค์กรตลอดจนพฤติกรรมการหางาน สมัครงาน แสดงให้เห็นถึงภาพการจ้างงานที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย และเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สำหรับองค์กรควรเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเรื่องบุคลากร ส่งเสริมให้แรงงานมีทักษะความสามารถที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นางสาวแสงเดือน กล่าวในตอนท้าย
อย่างไรก็ตาม คนทำงานก็ควรพัฒนาศักยภาพให้มีประสิทธิภาพพร้อมในการทำงานอยู่เสมอเพื่อต่อยอดไปสู่การทํางานที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีและสามารถตอบสนองตลาดแรงงานในอนาคตได้.