Special Story » เปิดผลสำรวจ “อะไรทำให้คนไทยไม่บรรลุเป้าหมายทางการเงิน ?”

เปิดผลสำรวจ “อะไรทำให้คนไทยไม่บรรลุเป้าหมายทางการเงิน ?”

18 ตุลาคม 2019
0

alivesonline.com : GoBear Thailand แพลตฟอร์มเว็บไซต์รวบรวม ค้นหา และเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ชวนคนดังร่วมสัมมนาให้ความรู้ด้านการเงิน “GoBear Fin Detective #สืบฟินวินทุกเรื่องเงิน” เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้บริโภคคนไทยหันมาสนใจสุขภาพทางการเงินของตนเอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการวางแผนด้านการเงินระยะยาว

นายมาร์นิกซ์ สวาร์ท รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านพัฒนาธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง เว็บไซต์ “โกแบร์” (GoBear.com/th) เว็บไซต์เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ใช้ง่าย ใช้ฟรี และโปร่งใส เปิดเผยถึงการจัดงานสัมมนา “GoBear Fin Detective #สืบฟินวินทุกเรื่องเงิน” ว่า “โกแบร์” (GoBear) ได้จัดทำดัชนีชี้วัดสุขภาพทางการเงินของโกแบร์ หรือ “GoBear Financial Health Index” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงแนวคิด ความรู้สึกและการจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งการศึกษาดังกล่าวเป็นการศึกษาร่วมกับองค์กรวิจัยชื่อดังเจ้าของรางวัลการันตีอย่าง Kadence International โดยจัดทำขึ้นในตลาดสำคัญสี่แห่งของ GoBear ทั่วเอเชีย ได้แก่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย

จากผลการศึกษาพบว่าปัญหาหลัก ๆ ของการไม่ลงทุนเกิดจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินมากกว่าโนว์ฮาวทางด้านการลงทุน โดยได้มีการศึกษาในกลุ่มคนไทย 5 กลุ่มอายุคือ กลุ่มอายุ 18-25 ปี กลุ่มอายุ 26-35 ปี กลุ่มอายุ 36-45ปี กลุ่มอายุ 46-55 ปี และกลุ่มอายุ 56-65 ปี พบว่าประมาณ 50% ของทุกกลุ่มอายุไม่ลงทุนเนื่องจากไม่มีเงินเหลือเพียงพอหลังหักรายจ่าย เหตุผลอื่นที่ตามมาคือการขาดความคุ้นเคย หรือขาดความรู้ด้านการลงทุน รวมถึงมองว่าการลงทุนมีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังพบว่ากว่า 50% ไม่มีเงินออมในบัญชีที่จะใช้ดำรงชีพได้เกิน 6 เดือนหากเกิดการขาดรายได้กระทันหัน ที่สำคัญคือ ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงินนี้เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำ โดย 66% ของคนไทยพบปัญหานี้เป็นประจำทุกปี และ 15% ของคนที่ขาดรายได้ หรือตกงาน ไม่มีทางออก หรือความช่วยเหลือทางการเงินใด ๆ ทั้งจากญาติพี่น้อง หรือคนรอบข้าง

ปัญหาการขาดวินัยด้านการเงินจึงมักส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการเงินอื่น ๆ ตามมา ทั้งเรื่องของหนี้สิน การไม่มีเงินออมและการไม่ได้วางแผนด้านการเงินรองรับชีวิตหลังเกษียณ !

จากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งเป้าที่จะเกษียณที่อายุต้น 50 ปี แต่ในคนวัย 46 ปีขึ้นไปตั้งเป้าเกษียณที่อายุหลัง 60 ปี นั่นหมายความว่า ถึงแม้คนไทยคาดหวังจะเกษียณเร็วขึ้น แต่เมื่อคนไทยจำนวนไม่น้อยยังขาดวินัยทางการเงิน ทำให้ในความเป็นจริงคนไทยอาจจะยังคงต้องทำงานต่อไปหลังอายุ 60 ปี นอกจากนี้การศึกษาของ Kadence ยังพบอีกว่า 38% ของคนวัย 18-25 ปี ยังไม่เริ่มวางแผนเกษียณ ในขณะที่ยังมีคนวัย 36-45 ปี อีกถึง 26% ยังไม่เริ่มวางแผนเกษียณเช่นเดียวกัน

 

ด้วยเหตุนี้ “โกแบร์” (GoBear) จึงได้จัดงานสัมมนา “GoBear Fin Detective #สืบฟินวินทุกเรื่องเงิน” เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจถึงการตรวจสุขภาพทางการเงิน โดยได้เชิญกูรูด้านการเงินอย่าง ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB มาร่วมให้คำแนะนำถึงการเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินของคนไทย นอกจากนี้ยังมีคู่หูดูโอผู้ก่อตั้งเพจชื่อดัง “เทพลีลา” เหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ และ เติ๊ด-ภูถิรพัฒน์ อ่องศรี ที่จะมาร่วมให้ข้อมูลและร่วมทำแบบทดสอบเพื่อตรวจสุขภาพทางการเงินด้วย

จากการวิจัยของ โกแบร์ (GoBear) และ Kadence พบว่า คะแนนการประเมินสุขภาพทางการเงินโดยรวมของคนไทยอยู่ที่ระดับ 61% ซึ่งถือว่ายังมีช่องว่างเพื่อการพัฒนาได้อีกมาก ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยในการสำรวจทำคะแนนในแบบทดสอบในส่วนของความรู้ทางการเงินได้น้อยนั่นเอง

สำหรับปัญหาหลัก ๆ ด้านการเงินของคนไทยที่เห็นชัดจากผลการศึกษาแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ

1.ปัญหารายจ่ายสูงกว่ารายได้ ทำให้ไม่เหลือเงินเพื่อเก็บหรือเพื่อลงทุน การศึกษาของ โกแบร์ (GoBear) กับ Kadence พบว่า 49.8% ของคนไทยไม่สามารถลงทุนได้เพราะไม่มีเงินเพียงพอ หากรายได้น้อยรายจ่ายมากควรเลือกการลงทุนด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินน้อยแต่ให้ความมั่นคงและไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะขาดทุน

2.ปัญหาการขาดสภาพคล่องของเงินสดในมือ จากการที่ 50% ของคนไทยไม่มีเงินเก็บเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ทำงานได้นาน 6 เดือน หมายความว่า หากต้องสูญเสียรายได้ไปเพราะตกงาน หรือประสบเหตุฉุกเฉิน จะทำให้การดำรงชีพเป็นไปอย่างลำบาก

3.การขาดการวางแผนด้านการเงินในวัยเกษียณ หรือเริ่มวางแผนการเงินวัยเกษียณเมื่ออายุมากเกินไป จากตัวเลขการวิจัยพบว่า อายุเฉลี่ยที่คนไทยให้ความสนใจวางแผนด้านการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 41.5 ปี ทั้งที่ในความเป็นจริง การวางแผนด้านการเงินเพื่อการเกษียณสามารถทำได้ตั้งแต่วัย 20 ปีขึ้นไป หรือหลังเรียนจบ เพราะเมื่อเริ่มออมไวจะไม่ต้องออมคราวละจำนวนมาก และมั่นใจได้ว่าจะมีเงินพอใช้ยามเกษียณอย่างแน่นอน และสำหรับคนวัย 30 ปีขึ้นไป หรือ 40 ปีขึ้นไปที่เพิ่งจะคิดวางแผนการเงินวัยเกษียณก็ต้องมีรูปแบบการออมที่แตกต่างไปจากคนเริ่มออมตั้งแต่วัย 20 ปีขึ้นไป

4.การขาดความรู้อย่างจริงจังในเรื่องของการเงิน ทำให้การจัดการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเงินมักมีข้อผิดพลาดเสมอ จากผลการศึกษาพบว่า 19.5% ที่ไม่กล้าลงทุนเพราะไม่มีความรู้ หรือไม่มีความคุ้นเคยกับการลงทุน และ 17.3% คิดว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ทั้ง ๆ ที่การลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เสี่ยงมากและเสี่ยงน้อย ดังนั้นหากทุกคนหันมาสนใจสุขภาพทางการเงินของตนเองและศึกษาหาความรู้ด้านการเงินและการลงทุนเพิ่มเติมก็จะสามารถวางแผนด้านการเงินในอนาคตได้อย่างไม่ผิดพลาด

ผู้สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพทางการเงินของคุณเองให้ดีขึ้น หรือต้องการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อการตัดสินใจที่คุ้มค่าและชาญฉลาดที่สุด สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้เลยที่ GoBear.com/th