alivesonline.com : โคเวสโตร (ประเทศไทย) และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) มอบรางวัลชนะเลิศให้แก่นักศึกษาทีม “วากาวากาเอเอ” จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้ชนะเลิศจากโครงการ Covestro Innovation Design Contest 2019 (IDC 2019) การประกวดออกแบบสิ่งประดิษฐ์เชิงนวัตกรรมเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาในหัวข้อ “Fun Lesson” ตามแนวคิด STEAM ยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยนวัตกรรม พร้อมต่อยอดการสร้างนักออกแบบนวัตกรรมรุ่นใหม่ สนับสนุนการพัฒนาภาคการศึกษาของประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
ดร.เยอร์เกน มายน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การจัดโครงการ “Covestro Innovation Design Contest 2019” (IDC 2019) มีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาของประเทศไทยด้วยนวัตกรรม พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบสื่อการเรียนการสอนเชิงนวัตกรรม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ตลอดจนนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับคนไทยในระยะยาว
ตลอดระยะเวลาที่เปิดรับสมัคร โครงการ “Covestro Innovation Design Contest 2019” ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี และ ปวส. จากทั่วประเทศที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดมากกว่า 200 ไอเดียซึ่งถือว่าได้รับความสำเร็จและการตอบรับที่ดียิ่งเกินกว่าที่ตั้งไว้
“ผลงานของผู้เข้าแข่งขันทุกทีมที่ส่งเข้าร่วมกับโครงการนี้ แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวด้านนวัตกรรมอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญผลงานและแนวคิดของแต่ละทีมยังสร้างความตื่นเต้นให้คณะกรรมการตัดสินอย่างมาก เพราะความคิดสร้างสรรค์ของทุกทีมไร้ขีดจำกัดและโดดเด่นเกินกว่าที่คณะกรรมการได้ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้เห็นศักยภาพและความพร้อมของนวัตกรรุ่นใหม่ของประเทศไทยในอนาคตอย่างชัดเจน”
สำหรับผลการตัดสินปรากฏว่า ทีม “วากาวากาเอเอ” จาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) คว้ารางวัลชนะเลิศกับผลงาน “คารูอิ ทรัค” (Karui Truck) ที่ผสมผสานการคิดเชิงคณิตศาสตร์กับการเล่นเกมก่อสร้างด้วยตัวต่อ ซึ่งนอกจากได้ฝึกทักษะด้านการคำนวณแล้ว ยังช่วยพัฒนาเรื่องการวางแผน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟังก์ชันอักษรเบรลล์และฟังก์ชันเสียง เพื่อให้เด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถใช้งานได้เช่นเดียวกับเด็กปกติทั่วไปอีกด้วย โดยน้อง ๆ จะได้รับถ้วยรางวัลและทุนการศึกษาจำนวน 80,000 บาท พร้อมด้วยโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานที่ ศูนย์นวัตกรรมโคเวสโตร เอเชียแปซิฟิก ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม “สมชาย” จากสถาบันเทคโนโลยีสุรนารี กับผลงานชื่อ “สมรัก” ซึ่งมีแนวคิดมาจากปัญหาภาวะโลกร้อนในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เกิดผลกระทบตามมามากมาย สื่อนี้จะปลูกฝังการรู้จักใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ผ่านสื่อการเรียนรู้แนวใหม่ที่มีแนวคิดจากเกมเศรษฐีและเกมบันไดงู พร้อมระบบภารกิจเพื่อสร้างความภาคภูมิใจในการกู้โลกด้วยการเติมเต็มลูกโลกจำลองด้านบนให้สมบูรณ์ที่สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับวิชาอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ โดยน้อง ๆ จะได้รับถ้วยรางวัลและทุนการศึกษา จำนวน 50,000 บาท
ขณะที่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และรางวัล Popular Vote ได้แก่ ทีม “Chem-PCR” จากวิทยาลัยเทคนิคระยอง กับผลงาน “Menon Sci” ชุดโมเดลจำลองการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้งฝนตก น้ำระเหย การควบแน่น รุ้งกินน้ำ การหักเหของแสง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งช่วยให้น้อง ๆ ในระดับประถมศึกษาเห็นปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริง และทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยน้อง ๆ จะได้รับถ้วยรางวัล และทุนการศึกษาจำนวน 30,000 บาท โดยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และสำหรับรางวัล Popular Vote จะได้รับถ้วยรางวัลและทุนการศึกษา 20,000 บาท
ดร.เยอร์เกน กล่าวในตอนท้ายว่า
“ผมขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันทุกทีมที่ได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จจากโครงการประกวดในครั้งนี้และขอชื่นชมที่แสดงให้พวกเราทุกคนได้เห็นถึงพลังความคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมที่แสดงออกอย่างเต็มที่ โดยหวังว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษารุ่นต่อ ๆ ไปมีความคิดสร้างสรรค์และยกระดับการศึกษาด้วยนวัตกรรมนำไปสู่การพัฒนาสังคมไทยให้มีความยั่งยืนต่อไป”