Special Story » “มาสเตอร์การ์ด” ระบุท่องเที่ยวไทยแกร่ง กรุงเทพฯ ยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง

“มาสเตอร์การ์ด” ระบุท่องเที่ยวไทยแกร่ง กรุงเทพฯ ยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง

13 พฤศจิกายน 2018
0

alivesonline.com : ผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ดฉบับที่ 7 ประจำปี 2561 (Mastercard Global Destination Cities Index, GDCI 2018) ระบุ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเป็นเพียงประเทศเดียวในผลการสำรวจทั่วโลกที่มีเมืองท่องเที่ยวถึงสามแห่งติดอยู่ใน 20 อันดับต้น อ้างอิงจากผลการสำรวจจาก “มาสเตอร์การ์ด” ที่เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้

ผลการสำรวจล่าสุดระบุว่า “กรุงเทพฯ” คือเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของโลกที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยือนและพักแรมมากที่สุด ถือเป็นการครองอันดับหนึ่งครั้งที่ห้าในรอบหกปีนับจากปี 2555 และเป็นการครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นปีที่สามแล้ว โดยในปีนี้ยังมี “ภูเก็ต” และ “พัทยา” ติดโผเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่ 12 และ 18 ตามลำดับ

ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ “ภูเก็ต” ได้ก้าวเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับต้นในแง่ของมูลค่าการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวและยังเป็นปีแรกที่มีการรวม “ภูเก็ต” และ “พัทยา” เข้าไว้ในการสำรวจส่วนนี้ และมีการเพิ่มเมืองสำรวจจาก 132 เมืองในปี 2559 เป็น 162 เมืองในปี 2560

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพักแรมเป็นจำนวนสูงถึงกว่า 20 ล้านคน ทำให้ “กรุงเทพฯ” สามารถเบียด “ลอนดอน” (19.83 ล้านคน) ให้รั้งอันดับสองอีกครั้งเหมือนปีที่ผ่านมา โดยชาติที่มาเยือนไทยมากที่สุดยังคงเป็นเหมือนเช่นปี 2560 ซึ่งก็คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ระบุปัจจัยหลักจากแรงหนุนของภาครัฐ

“โดนัลด์ ออง” ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ของ “มาสเตอร์การ์ด” กล่าวว่า ความจริงที่ว่าไทยเป็นประเทศเดียวที่มีเมืองน่าเที่ยวถึงสามแห่งติดอยู่ในยี่สิบอันดับต้น ตอกย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่มีเสถียรภาพ การผสมผสานที่ลงตัวทั้งในเรื่องงานและการพักผ่อน รวมไปถึงเสน่ห์ในวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ใคร ๆ ต่างหลงใหล ยิ่งกว่านั้นความพยายามจากหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระดับการเติบโตที่เหนือกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้ต่อเนื่องต่อไป

“ประเทศไทยมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกหลายรายการในปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลไทยได้ขยายข้อยกเว้นให้แก่นักท่องเที่ยวที่พักระยะสั้นและมีการเพิ่มจุดตรวจคนเข้าเมืองพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่น่าจะแพงเท่าเมืองใหญ่อื่น ๆ เช่น ปารีส สิงคโปร์ หรือกรุงโซล เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กรุงเทพฯ ยังคงครองอันดับหนึ่งสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของโลก และเราก็รู้สึกดีใจที่ปีนี้ภูเก็ตได้ก้าวเข้ามาอยู่ในสิบอันดับต้นร่วมกับกรุงเทพฯ เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว”

ทุกเมืองจุดหมายปลายทางทั้งสิบอันดับต้นในการสำรวจของปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พักแรมเพิ่มขึ้นทั้งหมด ยกเว้นในกรุงโซลที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่พักแรมลดลง แต่การคาดการณ์ในปี 2561 นั้น ระบุว่าทุกเมืองน่าจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อิสตันบูล” ซึ่งน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากที่สุด

“ภูเก็ต” ติดโผเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากที่สุด

การใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวในแต่ละเมืองนั้นไม่เท่าเทียมกัน “ดูไบ” ยังคงเป็นที่หนึ่งสำหรับเมืองที่นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายเงินมากที่สุดเมื่อพักค้างคืนโดยเฉลี่ยต่อวันต่อคนอยู่ที่ 537 เหรียญสหรัฐ (17,500 บาท) ตามด้วย “เมกะ” ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งติดอันดับเป็นครั้งแรกในลำดับที่สอง และน้องใหม่อีกสองเมืองคือ “ปัลมา เด มายอร์กา” ในสเปน และ “ภูเก็ต” ของไทย ส่วนบรรดาเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดนั้น “อิสตันบูล” กลับเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายต่อวันต่ำสุดอยู่ที่ 108 เหรียญสหรัฐ (3,500 บาท) เท่านั้น

“การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเศรษฐกิจสังคมเมืองยุคใหม่ในหลาย ๆ แห่ง เพราะช่วยยกระดับเศรษฐกิจและเติมเต็มความพึงพอใจให้ทั้งผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองและผู้มาเยือน หลาย ๆ เมืองจึงต้องเร่งยกระดับมาตรฐานในการหาสิ่งแปลกใหม่ที่จะมอบให้ทั้งความทรงจำและประสบการณ์ดี ๆ แก่นักท่องเที่ยว”

มิเกล กามิญโญ จูเนียร์ รองประธานฝ่ายบริหารเมืองสากลของ “มาสเตอร์การ์ด” กล่าว

“เราร่วมมือกับหลาย ๆ เมืองทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้ข้อมูลเชิงลึกและมีเทคโนโลยีที่ช่วยดึงดูดและอำนวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว พร้อม ๆ ไปกับรักษาเอกลักษณ์ที่ทำให้จุดหมายปลายทางนั้น ๆ มีความพิเศษที่ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนตั้งแต่แรก”

 ไม่ว่าเหตุผลของการเดินทางจะเป็นเรื่องงาน หรือการพักผ่อน “มาสเตอร์การ์ด”ได้ร่วมมือกับพันธมิตรมากมาย ทั้งในส่วนของ การท่องเที่ยว การวางแผนเมือง ธนาคาร รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ทั่วโลก และในไทยเพื่อที่จะ

  • บ่งชี้และช่วยการบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่ท้าทายชีวิตคนเมืองด้วยโซลูชั่นด้านดิจิทัลและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เมื่อไม่นานนี้ “มาสเตอร์การ์ด” ได้เปิดตัว City Possible ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับสากลสำหรับเมือง สถาบันวิจัย และองค์กรธุรกิจในภาคเอกชน เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจส่งผลถึงหลายฝ่ายผ่านความร่วมมือและประสานงานกัน
  • ให้การเข้าถึงบริการสำคัญ ๆ ในเมืองต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย อาทิบริการขนส่งมวลชน ในกว่า 100 เมือง (และเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ) ที่ให้นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่สามารถใช้บัตร “มาสเตอร์การ์ด” ที่มีอยู่แล้วชำระค่าเดินทางได้ทันทีด้วยเทคโนโลยีของ “มาสเตอร์การ์ด”
  • ให้ผู้คนได้เดินทางท่องโลกด้วยความอุ่นใจ โดยมอบแผนการเดินทางที่สะดวกสบาย พร้อมการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด สู่จุดหมายปลายทางได้อย่างไร้กังวล ด้วยการตอบรับที่ดีจากผู้ค้าหลายล้านแห่งทั่วโลก
  • สร้างประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ด้านอาหาร บันเทิง และการช้อปปิ้ง ในเมือง Priceless Cities 42 แห่งทั่วโลก รวมถึง กรุงเทพฯ ลอนดอน ปารีส และอีกมากมายในรายการ

เกี่ยวกับดัชนีผลสำรวจสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของโลกโดย “มาสเตอร์การ์ด”

ดัชนี “มาสเตอร์การ์ด” สำหรับเมืองจุดหมายปลายทางของโลก เป็นการจัดลำดับเมืองต่าง ๆ โดยวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าที่มีการพักค้างคืนทั้งหมด รวมถึงการใช้จ่ายข้ามพรมแดนในเมืองจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวกันนี้ในปี 2560 พร้อมคาดการณ์ถึงจำนวนนักท่องเที่ยวและอัตราการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในปี 2561

การวิเคราะห์ข้อมูลด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าที่มีการพักค้างคืน ตลอดจนข้อมูลด้านการใช้จ่ายข้ามพรมแดนของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ในเมืองจุดหมายปลายทางทั้ง 162 แห่ง เป็นการอ้างอิงมาจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ

การคาดการณ์นี้อ้างอิงจากพยากรณ์การท่องเที่ยวของแต่ละประเทศและนำข้อมูลที่ได้มาถ่วงน้ำหนักเพื่อหาค่าเฉลี่ย ร่วมกับข้อมูลจริงที่รวบรวมได้ในแต่ละเดือนจากเมืองต่าง ๆ ในปี 2561 ซึ่งจะเป็นข้อมูลถึงเดือนล่าสุดก่อนเดือนที่มีการออกรายงาน

ทั้งนี้ ดัชนีและรายงานที่มาพร้อมกันนี้มิได้อ้างอิงจากยอดขาย หรือข้อมูลทางธุรกรรมของ “มาสเตอร์การ์ด”