Special Story » COVID-19 สร้าง New Normal ให้ชาวอินเดียนิยมเสริมความงามที่บ้าน

COVID-19 สร้าง New Normal ให้ชาวอินเดียนิยมเสริมความงามที่บ้าน

7 สิงหาคม 2020
0

alivesonline.com : นับตั้งแต่โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 แพร่ระบาดในอินเดีย ตัวเลขยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อและสินค้าจำเป็นสำหรับการป้องกันโรคเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังมีสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเช่นกันคือผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลความงาม ตัดแต่งทรงผม หนวด เคราด้วยตัวเอง หรือที่เรียกว่า “กลุ่มผลิตภัณฑ์กรูมมิ่ง” (Grooming) เนื่องจากช่วงล็อกดาวน์และการปิดตัวชั่วคราวของร้านเสริมสวยต่าง ๆ นั้น ชาวอินเดียจึงต้องหัดดูแลตัวเองที่บ้าน จนกลายเป็นอีกหนึ่ง New Normal ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี รายงานว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของอินเดียมียอดซื้อสินค้ากรูมมิ่งเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะสินค้าดูแลผม ผิวหน้า เล็บมือ และเล็บเท้า โดยใน Amazon.in นั้น อุปกรณ์ตัดผมมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่าในช่วงสถานการณ์ซึ่งแทบจะถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของอินเดียที่ผู้คนตัดผมเองที่บ้าน ส่วนใน Flipkart.com เองก็มีแนวโน้มในการซื้อสินค้ากรูมมิ่งเพิ่มขึ้นทั่วอินเดีย ไม่ใช่แค่ในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่เมืองรอง เช่น อินดอร์ อาห์มดาบัด และดิสปูร์ ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน เห็นได้จากการค้นหาสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ซึ่งผู้บริโภคซื้อสินค้ากรูมมิ่งในทุกระดับราคา และสนใจคุณสมบัติของสินค้ามากกว่าแบรนด์

การเติบโตของยอดจำหน่ายสินค้ากรูมมิ่งไม่ได้เพิ่มขึ้นเฉพาะบนร้านค้าออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มขึ้นในร้านค้าออฟไลน์เช่นกัน โดยเฉพาะในระยะแรกของการล็อกดาวน์ที่ร้านค้าอีคอมเมิร์ซได้รับอนุญาตให้จัดส่งเฉพาะสินค้าจำเป็นเท่านั้น ผู้คนจึงต้องหันมาพึ่งพิงร้านค้าทั่วไปเป็นหลัก ดังเช่นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ Havelles India คือในช่วงเวลาปกติได้รับคำสั่งซื้อราวร้อยละ 45 จากบริษัทอีคอมเมิร์ซ แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทกลับได้รับความสนใจจากร้านออฟไลน์มากกว่า โดยมียอดขายเครื่องตัดแต่งขน (Trimmer) เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ส่วนแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างฟิลิปส์ (Phillips) มียอดขายสินค้ากรูมมิ่งสำหรับผู้หญิงและผู้ชายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45-50

อีกหนึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจในช่วง COVID-19 คือสินค้าดูแลผิวพรรณ (Skincare) ได้รับความสนใจมากกว่าเครื่องสำอาง โดยพบว่าผู้คนจากอินเดียเหนือ ตะวันตก และใต้ สนใจสินค้าดูแลผิวพรรณมากที่สุด ส่วนผู้บริโภคจากอินเดียตะวันออกนั้นสนใจสินค้าดูแลผมมากกว่า

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในปี 2562 ประเทศไทยส่งออกเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณไปอินเดียรวมมูลค่า 118.1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่อินเดียนำเข้าจากไทยมากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือบำรุงผิว หัวน้ำหอมและน้ำหอม ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำดับกลิ่นตัวและที่โกนหนวด สบู่ และผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปาก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดสินค้าความงามและผลิตภัณฑ์กรูมมิ่งในอินเดียมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงวิกฤติการณ์ COVID-19 ที่หลายอุตสาหกรรมประสบปัญหา แต่ยอดขายสินค้าบางประเภทอย่างสินค้าดูแลความงามด้วยตัวเองที่บ้าน ยังมีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้น ส่วนสินค้าที่มียอดขายลดลง เช่น ลิปสติก ก็เป็นเพียงแนวโน้มชั่วคราวเท่านั้น ตลาดอินเดียจึงยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับสินค้าความงามและผลิตภัณฑ์กรูมมิ่ง ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายตลาดไปอินเดียควรศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งชายและหญิง เพื่อพัฒนาสินค้าให้เข้ากับการใช้งานมากขึ้น โดยอาจติดตามแนวโน้มสินค้าที่เป็นที่นิยมได้จากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านสินค้าดูแลตัวเองของอินเดีย อาทิ Nykaa, Purplle และ NewU เป็นต้น

ในแต่ละปีอินเดียจะมีงานแสดงสินค้าสำคัญเกี่ยวกับสินค้าความงามจัดขึ้น อาทิ International Beauty & Spa Expo หรือ Professional Beauty India ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าร่วมงานได้เพื่อขยายตลาดสินค้า สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ โดยสามารถขอรับการสนับสนุนจากโครงการ SMEs Pro-active ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดขึ้น

ศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://smesproactive.ditp.go.th/ หรือ Facebook Page : SMEs Pro-active by DITP สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0 2507 7783 และ 0 2507 7786