ผู้เขียน: admin2

alivesonline.com : Global Wellness Institute เผยแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Health and Wellness ของโลกในปี 2562 ททท.  จัดงานใหญ่ “Amazing Thailand Health and Wellness Trade Meet 2018” ดึงกลุ่มผู้ซื้อ-ผู้ขายทั่วโลกเจรจาธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม พร้อมโชว์กลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย เน้นนักท่องเที่ยวกลุ่ม Millennials และกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2561 ททท. ได้กำหนดกลยุทธ์ขยายฐานตลาดกลุ่มความสนใจพิเศษในแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มสุขภาพและความงาม เพื่อสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะ Health and Wellness Destination พร้อมทั้งนำเอาแนวคิดด้านสุขภาพและความงามมาเป็นแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย

นักท่องเที่ยวกลุ่มสุขภาพและความงามเป็นตลาดความสนใจเฉพาะที่มีศักยภาพการใช้จ่ายสูง ในขณะที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับในการบริการด้านสุขภาพและความงามในระดับสากล มีโรงพยาบาลด้านสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ ตลอดจนมีสถานบริการด้านสุขภาพและความงามหลายแห่งที่มีชื่อเสียง รวมทั้งการใช้บริการด้านสุขภาพและความงามที่ประเทศไทยยังมีราคาที่คุ้มค่ากว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน

ททท. จึงได้จัดงาน “Amazing Thailand Health and Wellness Trade Meet 2018” เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจด้านสุขภาพและความงามของผู้ประกอบการไทย (Seller) พบกับผู้ซื้อ (Buyer) จากต่างประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ศักยภาพความพร้อมของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งนำไปสู่การเสนอขายในตลาดต่างประเทศ

การจัดงาน Amazing Thailand Health and Wellness Trade Meet 2018 ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม คือ การเจรจาธุรกิจ (Trade Meet) ระหว่างผู้ประกอบการไทยด้านสุขภาพและความงาม (Seller) และผู้ซื้อ (Buyer) จากทั่วโลก โดยมีผู้ประกอบการไทยด้านสุขภาพและความงาม จำนวน 30 รายจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย เช่น Bangkok Anti-Aging Center, Bangkok smile dental group, FITFAC Muaythai Academy, Amatara Wellness Resort เป็นต้น ขณะที่มีผู้ซื้อจำนวน 73 ราย จากทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย การ์ต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีการประสานความร่วมมือในการเชิญผู้ซื้อที่มีศักยภาพผ่าน ททท. สำนักงานต่างประเทศ และการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงาม (Health and Wellness Product Briefing) เพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการไทย อาทิ โรงพยาบาล สถานประกอบการ Wellness & Spa นำเสนอสินค้าและการบริการให้กับผู้ซื้อ เพื่อเป็นการให้ข้อมูลสร้างการรับรู้ก่อนเริ่มการเจรจาธุรกิจ

นางศรีสุดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท.ได้ศึกษาแนวโน้มของตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Health and Wellness ของโลกในปี 2562 (Global Trend 2019) โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Global Wellness Institute สามารถแบ่งได้เป็น 6 เทรนด์ ได้แก่ 1.การสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ผสมผสานการดูและสุขภาพซึ่งจะทำให้การเดินทางสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยในประเทศไทยมีที่พักระดับ 4 ดาวขึ้นไปที่เพิ่มบริการทางด้าน Health & Wellness เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าพักมากขึ้น เช่น Banyan Tree, Six Sense เป็นต้น 2.การใส่ใจสุขภาพ 1,000 วันของเด็กแรกเกิด โดยส่งเสริมให้มีพัฒนาการทั้งสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลกและปลูกฝังสุขนิสัยสุขภาพที่ดีให้กับเด็ก โดยพ่อแม่เป็นตัวแปรสำคัญ

3.อาหารเป็นยา หรืออาหารเพื่อสุขภาพ อาหารปลอดสารเคมี (Organic Food) หรือการปรุงอาหารแบบ Farm to Table ซึ่งคนยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ 4. การใส่ใจสุขภาพองค์รวมของร่างกายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ (Body, Mind and Spirit) 5.ลดการใช้เทคโนโลยีและมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างให้มากขึ้น 6.แนวโน้มผู้หญิงดูแลสุขภาพมากขึ้น (Self Care) นำไปสู่การเดินทางเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นพลังในตัวเอง

“ททท.ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มตลาดระยะใกล้ เช่น ประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนกลุ่มตลาดระยะไกล ได้แก่ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สหพันธรัฐรัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยมุ่งไปที่ประชากรกลุ่ม Millennials และกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานซึ่งมีความสามารถในการตัดสินใจเดินทาง การใช้จ่าย ทั้งยังเป็นกลุ่มผู้รักสุขภาพ พร้อมแสวงหาสิ่งที่ดีที่เหมาะกับตัวเอง” นางศรีสุดา กล่าวในที่สุด