“วีซ่า” ประกาศกลยุทธ์เพิ่มศักยภาพความปลอดภัยในการชำระเงิน

‘โจ คันนิ่งแฮม’ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการความเสี่ยงของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วย ‘สุริพงษ์ ตันติยานนท์’ (ซ้าย) ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย และ ‘ยศ กิมสวัสดิ์’ (กลาง) ประธานสำนักระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย ประกาศโรดแมปเสริมสร้างสักยภาพความปลอดภัยในการชำระเงินของประเทศไทยในอนาคต เสริมความพร้อมประเทศไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสด

alivesonline.com : “วีซ่า” ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลระดับโลก ประกาศโรดแมปเสริมสร้างศักยภาพความปลอดภัยในการชำระเงินของประเทศไทยในอนาคต (Future of Security Roadmap for Thailand) เพื่อเป็นแนวทางและแผนการทำงานในอีก 3 ปีข้างหน้า

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการ “วีซ่า” ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “วีซ่า” กำหนดแผนงานที่จะช่วยให้พัฒนาการด้านความปลอดภัยเดินหน้าไปพร้อมกับเทคโนโลยีและรูปแบบการชำระเงินที่มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นมาตรการความปลอดภัยที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ลดความสำคัญของข้อมูล ด้วยการเอาข้อมูลที่สำคัญออกจากระบบนิเวศทั้งหมดและทำให้ข้อมูลที่โจรกรรมไปไร้ประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อ รวมทั้งเสริมมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและรายละเอียดของบัญชี ตลอดจนใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้วยการตรวจจับการโจรกรรมก่อนที่จะเกิดขึ้นจริงและเพิ่มความมั่นใจในการอนุมัติยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยจะรวมพลังทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือบัตร เจ้าของบัญชี และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งอย่างผู้ให้บริการและร้านค้าให้มีบทบาทในการเสริมสร้างความปลอดภัยในทุกมิติของระบบการชำระเงิน

“การเสริมความปลอดภัยในระบบนิเวศเชิงพาณิชย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างเครือข่ายการชำระเงิน ผู้บริโภค ธนาคาร และหน่วยงานภาครัฐ ในขณะที่เทคโนโลยีเอื้อให้เกิดนวัตกรรมในการชำระและรับเงินในรูปแบบใหม่ ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความเสี่ยงในรูปแบบใหม่ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เราต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยให้เท่าเทียมกับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการชำระเงิน”

นายสุริพงษ์ กล่าวด้วยว่า การแถลงโรดแมปในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ระบบการชำระเงินในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนที่เข้ามาเพิ่มประสบการณ์การชำระเงินให้ผู้บริโภค โดยผลจากการสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคของ “วีซ่า” ชี้ให้เห็นว่าความปลอดภัยยังคงเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสองในสามของผู้ทำแบบสำรวจ (67 เปอร์เซ็นต์) กังวลเรื่องความปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาเมื่อต้องทำการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน โดยผู้บริโภคชาวไทยยังระบุถึง 3 เหตุผลหลักที่พวกเขากังวลมากที่สุดในการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อชำระเงิน ได้แก่ กลัวว่าสมาร์ทโฟนจะถูกขโมยหรือหล่นหาย กลัวว่าจะถูกโจรกรรมข้อมูล และกลัวโดนติดตั้งมัลแวร์หรือไวรัสบนสมาร์ทโฟนของพวกเขา

“วีซ่าได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น สถาบันการเงิน ร้านค้า ผู้กำหนดนโยบาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย และเจ้าของบัญชี ในการเสริมความปลอดภัยในการชำระเงิน โรดแมปการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงินของประเทศไทยในอนาคตของวีซ่า หรือ Future of Security Roadmap for Thailand จึงเป็นผลลัพธ์จากการประชุม ปรึกษาหารือ และการทำงานร่วมกันอย่างครอบคลุม เพื่อจัดทำเป็นแผนแม่บทสำหรับการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงินในประเทศไทย”

อนึ่ง “วีซ่า” ยังได้มีการทำโรดแมปในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับระบบนิเวศเชิงพาณิชย์ในระดับสากล โดยได้ทำงานควบคู่กันไปกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเพื่อปรับมาตรการความปลอดภัยให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“คอยน์ แอสเซท” หนุน “แฮชบีเอ็กซ์” ต่อยอดธุรกิจ “VOLTZ” สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

alivesonline.com : “คอยน์ แอสเซท” (Coin Asset) ศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล สนับสนุน “VOLTZ” โปรเจกต์ใหม่ของ “แฮชบีเอ็กซ์” (HashBX) ผู้นำด้านธุรกิจ “คลาวด์ ไมนิ่ง” (Cloud Mining) ซึ่งต่อยอดและขยายสู่ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หลังนำ HBX Token ขึ้นเทรดบนกระดานคอยน์แอสเซท

 

นางสาวมณี ภูเกียรติก้อง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องการผลักดันวงการคริปโตเคอเรนซีไทยให้เติบโตขึ้นทั้งระบบ ภายใต้แนวคิดที่อยากจะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของคริปโตเคอเรนซี โดยเราใช้กลยุทธ์ในการพิจารณาลิสต์เหรียญดิจิทัลที่มีศักยภาพเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก พร้อมทั้งพิจารณาลิสต์เหรียญดิจิทัลสัญชาติไทยที่มีศักยภาพ เพื่อเชื่อมโยงสู่ฐานนักลงทุนจากทุกภูมิภาคที่เข้ามาใช้บริการกระดานซื้อขายของเรา

สำหรับ HBX Token เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแรงขุดสำหรับผู้ที่สนใจทำคลาวด์ ไมนิ่ง บนแพลตฟอร์มของ “แฮชบีเอ็กซ์” ซึ่งล่าสุดมีการเปิดตัวสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “VOLTZ” เพื่อรองรับกับเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทย จากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของหลายค่ายรถตลอดปีที่ผ่านมาและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

โมเดลธุรกิจของ VOLTZ เน้นในลักษณะธุรกิจ-ธุรกิจ (B2B : Business to business) โดยมุ่งให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ เข้าร่วม เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จของ VOLTZ และให้บริการแก่ผู้ใช้รถที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน VOLTZ โดยสามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ฟรีระหว่างการจับจ่าย หรือใช้บริการ นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมการตลาดและสร้างการเติบโตแก่ธุรกิจห้างร้าน โดยผู้ที่ถือ HBX Token สามารถนำเหรียญไปแลกเปลี่ยนในอีโคซิสเต็ม ภายใต้ชื่อ MoveX Ecosystem เพื่อใช้ในการชำระสินค้าและค่าบริการต่าง ๆ โดยมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น MOVEX 4G Ledger, MoveX ATM, MoveX Card โดย VOLTZ จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดผู้ใช้งานเข้ามาสู่อีโคซิสเต็มนี้

การติดตั้งสถานีชาร์จ VOLTZ  ในสถานประกอบการต่าง ๆ จะส่งผลให้มีการเพิ่มมูลค่าที่ดีให้กับเหรียญ HBX Token เพราะเป็นการเพิ่มศักยภาพของเหรียญให้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย กลายเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มีอีโคซิสเต็มน่าจับตามอง” นางสาวมณี กล่าวในตอนท้าย

ด้านนายวันเฉลิม ลังกาวิเขต ผู้ก่อตั้ง บริษัท แฮชบีเอ็กซ์ โกลบอล จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน VOLTZ มีวทั้งหมด 14 สถานีที่พร้อมให้บริการ ตามร้านค้า ร้านอาหาร และสถานประกอบการอื่น ๆ รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมารองรับการใช้งาน เพื่อเช็ค หรือค้นหาจุดบริกา และอำนวยความสะดวกในด้านอื่น ๆ แก่ผู้ใช้งานต่อไป

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://coinasset.co.th http://www.voltz.io และ http://www.movex.space

“อิตัลไทยวิศวกรรม” ขยายธุรกิจตลาดใหม่ “New S-Curve”

alivesonline.com : “อิตัลไทยวิศวกรรม” ผู้นำการให้บริการงานวิศวกรรมและงานก่อสร้างแบบครบวงจร แถลงผลประกอบการปี 2561 คาดรายได้เพิ่มขึ้น 45% เผยกลยุทธ์ปี 2562 ขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้องค์กร ตามแนวทางกลุ่มบริษัทอิตัลไทย มองการลงทุนด้าน “พัฒนาคน”

 นายสกล เหล่าสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบการผลิตและระบบจำหน่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่, พลังงานทดแทน, งานระบบประกอบอาคารสูง, ระบบสาธารณูปโภคในกลุ่ม ปิโตรเคมี ตลอดจนการสร้างคลังสินค้าและโรงงานขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยการให้บริการจะครอบคลุมทั้งงานออกแบบทางวิศวกรรม, การบริหารโครงการและการก่อสร้าง รวมไปถึงงานบำรุงรักษาภายใต้มาตรฐาน ISO9001:2015, ISO14001:2015 และ OHSAS18001:2007 โดยนอกจากการดำเนินธุรกิจในประเทศแล้ว ยังได้ขยายธุรกิจสู่ประเทศเมียนมาร์ ภายใต้ชื่อ อิตัลไทยวิศวกรรม (เมียนมาร์)

สำหรับผลประกอบการในปี 2561 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 45% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจำนวน 45 โครงการ คิดเป็นมูลค่างาน 1.1 หมื่นล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2561 ประมาณ 5,889 ล้านบาท

ส่วนกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2562 มีเป้าหมายสำคัญในการขยายธุรกิจไปในตลาดใหม่ที่เป็น New S-Curve ซึ่งจะเป็นส่วนเพิ่มจากธุรกิจหลักที่กำลังดำเนินอยู่ อาทิ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid), ระบบไฟฟ้าและเครื่องกลที่เกี่ยวข้องกับโครงการคมนาคมและการขนส่ง, งานก่อสร้างโรงงานและระบบสาธารณูปโภคในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ EEC, การก่อสร้างคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ (Automated Warehouse) รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับ Smart Solution ต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายธุรกิจและการลงทุนเพิ่มเติมไปยังประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว โดยคาดว่าในปี 2562 จะมียอดการรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 6.1 พันล้านบาท จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากปีปัจจุบัน

นายสกล ยังกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืนคือ การมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาคนซึ่งเป็นวิสัยทัศน์และพันธกิจสำคัญของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งผ่านการสร้างค่านิยมหลักในการทำงาน หรือ “ITALTHAI Core Values” ให้พนักงาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรผ่านการจัดหลักสูตรอบรมในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิดให้เกิดมุมมองใหม่ที่หลากหลายในการสร้างสรรค์ สินค้า บริการ และประสบการณ์ใหม่ๆ  สู่ตลาด รวมถึงสอดคล้องกับความต้องการและภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้น

สำหรับค่านิยมการทำงานดังกล่าวมี 6 ประการ คือ 1.Listen. Speak. Share. เปิดใจฟัง ตั้งใจพูด พร้อมแบ่งปัน 2.Learn and Grow เรียนรู้ เพื่อเติบโต 3.Create an Impact สร้างผลลัพธ์ที่ดี 4.Do What is Right ทำสิ่งที่ถูกต้อง 5.Bring Fun to Work พกพาความสนุกมาทำงาน และ 6.Never Give Up อย่ายอมแพ้

“โฮมโปร” อัดแคมเปญลดกระหน่ำสะเทือนเกาะภูเก็ต ตั้งแต่ 7-16 ธ.ค. 61

โฮมโปร” จัดโปรโมชั่น “โฮมโปร ลดกันสนั่นเกาะ” ในจังหวัดภูเก็ต รวม 3 สาขา ได้แก่ สาขาโลตัสสามกอง, สาขาฉลอง และสาขาถลาง เพื่อเป็นการคืนกำไรและมอบของขวัญรับเทศกาลปีใหม่แก่ลูกค้า ให้ได้รับความคุ้มค่าและความสุข ทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในประเทศ

ความฟินจัดเต็มลดกันสนั่นเกาะนี้ ไม่ได้มีแค่คุ้มเดียวเท่านั้น เพราะโฮมโปรขนความคุ้มค่ามาเสิร์ฟแบบไม่มีกั๊ก ฟินสนั่นกันยาว ๆ 5 ต่อ เริ่มจาก

คุ้มที่ 1 ยิ้มรับความสุขไปกับกองทัพสินค้าและของตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก The Power ที่ยกขบวนกัน ลดราคามาให้ชอปเพลิน ๆ สูงสุดถึง 70%!!!

คุ้มที่ 2 ชอปจัดเต็มแล้วมาลุ้นให้สุดกับ Lucky in Game เพียงชอปครบตามที่รายการระบุ แล้วมารับสิทธิ์จับของรางวัลฟรี! มากมายกว่า 1,000 รายการ พร้อมลุ้นไปกับรางวัลใหญ่อย่าง สร้อยคอทองคำ, Samsung LED TV, ไมโครเวฟ Samsung รวมถึงคะแนนสะสมบัตรโฮมการ์ดถึง 300 คะแนน

คุ้ม 3 Brand Sale กับขบวนสินค้าแบรนด์ดังที่ยกขบวนลงเกาะมาลดราคาสุดพิเศษให้ถึงที่มากกว่า 10 แบรนด์ อาทิ Samsung, LG, Moya, Tara, Yale, Solo, Philips, Teka, Mex, Hyundai, Zinsano, Azle, Hitachi. Cocoru, Stiebel Eltron และ Eve

คุ้ม 4 ชอปครบ…รับฟรี กับบัตรของขวัญสุดคุ้มจากโฮมโปร มูลค่าสูงสุดถึง 22,000 บาท

คุ้ม 5 สิทธิพิเศษจากสถาบันการเงิน บัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม และบัตรเครดิตกรุงศรี แค่ชอปก็รับส่วนลดทันที 3% พร้อมรับเครดิตเงินคืนเพิ่มอีก 2% เมื่อชำระเต็มจำนวน

แคมเปญ  “โฮมโปร ลดกันสนั่นเกาะ” จะจัดขึ้นในวันที่ 7-16 ธันวาคม 2561 เพียง 10 วันเท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.homepro.co.th หรือ โทร 1284

“โฮมโปร” ขานรับนโยบายภาครัฐ ปลุกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม

alivesonline.com : “โฮมโปร” ตอบรับนโยบายภาครัฐ ร่วมรณรงค์สังคมลดการใช้ถุงพลาสติก เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้าให้หันมาใช้ถุงผ้า ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” เพื่อมุ่งเน้นการลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย ทุกวันที่ 4 ของทุก ๆ เดือน พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าคนรักบ้าน ด้วยการเพิ่มคะแนนในบัตรโฮมการ์ด 10 คะแนนทันทีทุกวัน

นางสุรางคนา ฉายประสาท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่าย Customer Experience บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” กล่าวว่า ในการทำงานของโฮมโปร นอกเหนือจากมุ่งหวังสร้างสรรค์สินค้าเรื่องบ้านที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าแล้ว อีกหนึ่งภารกิจที่บริษัทฯ ไม่เคยละเลยคือ การกำกับดูแลกิจการที่ดี ในด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการลดใช้พลังงาน การจัดการขยะ การบริหารจัดการน้ำ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ตลอดจนการคัดสรรสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Product) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยบริษัทฯ ได้สร้างความตระหนักดีให้กับพนักงาน และลูกค้าที่มาซื้อสินค้า และบริการผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ

ล่าสุด “โฮมโปร” ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการภาคเอกชนในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” โดยทุก ๆ วันที่ 4 ของเดือนจะงดมอบถุงพลาสติกให้ลูกค้า “โฮมโปร” ทุกสาขาทั่วประเทศไทย เพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐ และร่วมรณรงค์ให้ลูกค้าหันมาใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกในการซื้อสินค้า โดยลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในวันดังกล่าว หากมีการปฏิเสธรับถุงพลาสติกจะได้รับคะแนนโฮมการ์ดเพิ่มอีก 10 คะแนนในทุกวันและทุกวันที่ 4 ของทุกเดือน

“โฮมโปร มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่และจริงใจในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยหลังจากลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังจะวางแผนเพิ่มสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นให้ลูกค้าที่ไม่รับถุงพลาสติกเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นอีกช่องทางในการรณรงค์ให้คนรักบ้านทุกคนหันมาใช้ถุงผ้าให้มากขึ้น”

นางสุรางคนา กล่าวด้วยว่า “โฮมโปร” ยังมีแคมเปญอื่น ๆ ที่รณรงค์เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการปลูกจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เช่น ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดโครงการ “ลดไฟหน้าร้อน เปลี่ยน…เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ห้า” โดยรณรงค์ให้คนไทยเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED เบอร์ 5 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ลดพลังงานไฟฟ้าลงได้ 15.7 ล้านหน่วยต่อปี ลดค่าไฟฟ้าลงได้ 62 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 8 พันตันต่อปี ทั้งยังร่วมมือกับ กระทรวงพลังงาน รณรงค์ให้ประชาชนร่วมเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 และเปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED 9 ใน “โครงการรวมพลังหารสอง เปลี่ยนใหม่ประหยัดชัวร์”

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “HomePro Go Green ผ่าน 6 สัญลักษณ์รักษ์โลก” เชิญชวนให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้าที่มีมาตรฐานรับรองว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อมาชอปที่ “โฮมโปร” ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิต ตลอดจนบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น

“โครงการ No Bag” งดใช้ถุงพลาสติกตลอดเดือนกรกฎาคม เพื่อลดการสร้างขยะ และลดการผลิตถุงพลาสติกที่จะสร้างมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม โดยสมาชิกโฮมการ์ด รับคะแนนสะสม 10 คะแนน ตั้งแต่บาทแรกที่ใช้จ่ายใน “โฮมโปร” ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน และได้รับผลตอบรับเพิ่มขึ้นทุกปี สามารถลดจำนวนคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้กว่า 128 ตันคาร์บอน เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 1.5 หมื่นต้น

เรื่องน่ารู้ของ “โถปัสสาวะชาย”

สุขภัณฑ์สำหรับผู้ชาย หรือ “โถปัสสาวะชาย” นับว่าเป็นเครื่องใช้ในห้องน้ำที่สำคัญไม่น้อย ด้วยเพราะเป็นเครื่องสุขภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานของผู้ชายโดยเฉพาะ ทั้งมีหลากหลายรูปแบบ ขนาด และรูปทรง เพื่อความเหมาะสมสำหรับทุกสรีระและการใช้งาน แต่รูปแบบต่าง ๆ มีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ สุขภัณฑ์ nahm มีข้อมูลน่ารู้มาฝากกัน

1.โถปัสสาวะชายแบบตั้งพื้น มีลักษณะพิเศษคือ ตัวโถมีขนาดใหญ่ ได้รับความนิยมในการเลือกติดตั้งในห้องน้ำสาธารณะมากกว่าติดตั้งในตัวบ้าน เนื่องจากมีสัดส่วนและความสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานทุกวัยและทุกสรีระ แต่ด้วยวิวัฒนาการปัจจุบัน โถปัสสาวะชายแบบตั้งพื้นในบางรุ่นได้ถูกออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลงและมีรูปทรงให้ดูมีสไตล์มากขึ้น อาทิ โถปัสสาวะชาย nahm รุ่น “AKA” (เอก้า) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของ “กล้วยและไข่” รังสรรค์มาเป็นสุขภัณฑ์ที่สะท้อนรสนิยมของชาวตะวันออกได้อย่างดีเยี่ยม

2.โถปัสสาวะชายแบบแขวนผนัง เป็นแบบที่ได้รับความนิยมนำมาติดตั้งในบ้านพักอาศัย ด้วยเพราะขนาดเล็ก รูปทรงดูทันสมัย น่าใช้งาน ในขณะที่ห้องน้ำสาธารณะ หรือโรงแรมและศูนย์การค้าบางแห่ง มักนำโถปัสสาวะชายรุ่นนี้มาติดตั้งเพื่อเพิ่มความทันสมัยมากยิ่งขึ้น การติดตั้งโถปัสสาวะชายแบบแขวนผนังนี้มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก โดยติดตั้งแบบใช้ตะขอยึดผนังเพื่อแขวนติดตั้งและแบบพุกยึดผนังกับโถปัสสาวะ ระยะความสูงที่นิยมติดตั้งสำหรับการใช้งาน (วัดจากพื้น-ขอบปากเซรามิก) จะอยู่ที่ระยะ 600 mm. ซึ่งสามารถปรับได้ตามความสูงที่เหมาะสมของผู้ใช้งาน

ทั้งนี้ โถปัสสาวะชายแบบแขวนผนัง มีระบบการชำระล้าง ดังนี้

โถปัสสาวะชายแบบแขวนผนัง (ท่อน้ำเข้าด้านบน) โดยทั่วไปโถปัสสาวะชายรูปแบบนี้จะมีขนาดที่พอเหมาะ ไม่ใหญ่เกินไปสำหรับการติดตั้งและการใช้งาน มีฟลัชวาล์วต่อด้านบน เป็นตัวควบคุมการเปิด-ปิดน้ำเพื่อชำระล้าง เหมาะกับห้องน้ำสาธารณะและบ้านพักอาศัย เช่น โถปัสสาวะชาย nahm รุ่น “Orbit” (ออบิท) กับการออกแบบสไตล์ยุโรปเพื่อคนเมืองโดยเฉพาะ ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัดและพื้นผิวที่ทำความสะอาดง่าย เป็นต้น

ทั้งนี้ เราสามารถเลือกปริมาณน้ำที่ใช้ในการชำระล้างได้จากฟลัชวาวล์ โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1 ลิตรเป็นต้นไป โดยดูจากขนาดของโถปัสสาวะและความเหมาะสม ยิ่งโถปัสสาวะมีขนาดเล็กก็จะสามารถเลือกใช้ปริมาณน้ำได้น้อยลง ถือเป็นการประหยัดน้ำได้อีกทางหนึ่ง โดยแต่ละรุ่นจะกำหนดปริมาณการใช้น้ำที่แตกต่างกัน

โถปัสสาวะชาย แบบแขวนผนัง (ท่อน้ำเข้าด้านหลัง) มีลักษณะคล้ายกับแบบท่อน้ำเข้าด้านบน จะแตกต่างกันก็เพียงแต่การใช้งานและการเตรียมพื้นที่หน้างานเพื่อติดตั้ง มี 2 แบบ คือ

  • แบบปุ่มกดน้ำ เมื่อเรากดปุ่มชำระล้าง ตัวควบคุมทางน้ำเข้า (ที่อยู่ด้านหลังกำแพง) จะปล่อยน้ำดีออกมาตามท่อ โดยจะถูกต่อเข้าด้านหลังของโถปัสสาวะออกมาชำระล้าง ส่วนน้ำเสียจะไหลลงสู่ท่อน้ำทิ้งต่อไป ทั้งปัจจุบันยังมีการเพิ่มการออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ชาวกรุงมากยิ่งขึ้น เช่น โถปัสสาวะชาย nahm รุ่น “Faye” (เฟย์)
  • แบบระบบเซ็นเซอร์ เป็นระบบรังสีอินฟาเรดตรวจจับสัญญาณเมื่อมีผู้เข้ามาใช้งาน สามารถทำงานได้จากไฟบ้านปกติที่ต่อเข้ากับ Adaptor ของโถปัสสาวะชาย สามารถทำงานได้ใน 3 ลักษณะ ได้แก่ การชำระล้างสำหรับการใช้งานปกติ การชำระล้างสำหรับการใช้งานติดต่อกันแบบเร่งด่วน และการชำระล้างภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อทำความสะอาดคราบไคลต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและป้องกันกลิ่นรบกวนจากการใช้งาน เช่น โถปัสสาวะชาย nahm รุ่น “Faye” (เฟย์) ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยหน้าโถขนาดกว้าง ช่วยลดการกระเซ็นจากการใช้งานและทำความสะอาดง่าย

ใครที่กำลังมองหาโถปัสสาวะชายสำหรับห้องน้ำในบ้าน ในอาคารสำนักงาน หรือในพื้นที่ชุมชน การเลือกซื้อโถปัสสาวะชายในครั้งต่อไปก็จะไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไปแล้ว หรือหากใครที่กำลังสงสัยและมีข้อมูลที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถาม หรือเยี่ยมชมโชว์รูม nahm ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nahm-sanitaryware.com เฟซบุ๊ก: nahmsanitaryware

พลาดไม่ได้ “Gift Festival” สินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ดังจากฮ่องกง

HKTDC DG Studio รับเทศกาลปีใหม่ ขนทัพสินค้าไลฟ์สไตล์หลากหลายแบรนด์ดังจากฮ่องกงมาให้ขาชอปเลือกซื้อเป็นของขวัญสำหรับคนที่รักหรือจะให้ตัวเองก็ได้ไม่ว่ากัน ในงาน “Gift Festival” ทั้ง 3 แห่งที่ เอ็มควอเทียร์ โซนควอเทียร์ แกลเลอรี่ ชั้น M ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2561 – 6 มกราคม 2562 อัมรินทร์ พลาซ่า วันที่ 18 ธันวาคม 2561 – 7 มกราคม 2562 และ สยามพารากอน โซนแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 วันที่ 24 ธันวาคม 2561 – 5 มกราคม 2562

งานนี้รู้มาว่ามีของดีไซน์เก๋ ๆ คุณภาพดีเพียบ อาทิ นาฬิกาสุดเท่ Infantry สำหรับคุณผู้ชาย, แก้วกันล้ม Artiart, ชุดตัวต่อจิ๊กซอร์ไม้ Team Green, กระเป๋าซิลิโคน SiliBAG และอื่น ๆ อีกมากมาย พิเศษสุด ! ชอปทุกๆ 1,000 บาท รับกระเป๋า goodie bag ฟรี หรือถ้าควงเพื่อนอีกคนมาชอปในเวลาเดียวกัน ลด 5% สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่หน้างาน

นอกจากนี้ ยังเตรียมพบแขกรับเชิญคุณแม่ยังสาว พอลล่า เทเลอร์ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในฮ่องกงและแรงบันดาลใจในการเลือกซื้อของขวัญให้เพื่อนและครอบครัว ในวันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561 ช่วงเวลา 14.00-15.00 น. ณ ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ โซนควอเทียร์ แกลเลอรี่ ชั้น M

“แมคโดนัลด์” ส่งความสุขรับปีใหม่ แจกฟรี! “สติ๊กเกอร์ ไดร์ฟ ทรู” พร้อมสิทธิพิเศษอัดแน่นตลอดทั้งปี

 

“แมคโดนัลด์” ร่วมส่งความสุขอิ่มอร่อยแบบไม่ต้องลงจากรถ แจกฟรี “สติ๊กเกอร์ ไดร์ฟ ทรู” โฉมใหม่ พร้อมสิทธิพิเศษอัดแน่นตลอดทั้งปี เมื่อซื้อสินค้าผ่านช่องทาง “ไดร์ฟ ทรู” ลูกค้าสามารถแลกซื้อกาแฟร้อนเฟรชบรูได้ในราคาเพียง 9 บาท หรือกาแฟเย็นเฟรชบรู เพียง 19 บาท ตั้งแต่เวลา 05.00–11.00 น.

อร่อยสุดคุ้มกับเฟรนช์ฟรายส์ลดราคา 50% ทุกวันศุกร์ หรือไอศกรีมซันเด ในราคาเพียง 19 บาท ทุกวันอาทิตย์ และพายข้าวโพด หรือพายสับปะรด ในราคาเพียง 19 บาท ทุกวัน ตลอดเดือน ม.ค.-เม.ย.62 พร้อมอิ่มอร่อยเบา ๆ กับแมคนักเก็ต ลดราคา 50% ทุกวัน ตลอดเดือน พ.ค.-ส.ค.62 หรื ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแมคคาเฟ่ไม่ว่าจะร้อน เย็น ปั่น ก็ลด 50% ทุกวัน ตลอดเดือน ก.ย.–ธ.ค.62

ขอรับ “สติ๊กเกอร์ไดร์ฟ ทรู” โฉมใหม่ที่อัดแน่นด้วยโปรโมชั่นพิเศษตลอดทั้งปี 2562 ได้ที่ร้านแมคโดนัลด์ทุกสาขาที่ให้บริการ “ไดร์ฟ ทรู” เพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/McThai

 

ชุดกระเช้าของขวัญ “นมอัลมอนด์ บรีซ” ต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีมอบสุขภาพที่ดีเพื่อคนที่คุณรัก

“บลูไดมอนด์โกรเวอร์ส” สหกรณ์ผู้ผลิตอัลมอนด์จากเมืองซาคราเมนโตรัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกา ขอแนะนำชุดกระเช้าของขวัญ “นมอัลมอนด์ บรีซ” ที่คัดสรรนมอัลมอนด์คุณภาพระดับพรีเมียมจากแคลิฟอร์เนีย อุดมด้วยแคลเซียมและวิตามินอี มีแคลอรี่และไขมันต่ำ ปราศจากแลคโตสและถั่วเหลือง เหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบให้เป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก ภายในประกอบด้วย บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ 6 รสชาติ (คละรสชาติ) ได้แก่ รสออริจินัล, สูตรไม่เติม, รสวานิลลา, รสช็อกโกแลต, รสมัทฉะ และรสลาเต้ มาพร้อมแก้วบลูไดมอนด์ จำนวน 1 ใบและตุ๊กตา “อัลมอนด์ บรีซ” สุดน่ารัก จำนวน 1 ตัว ในราคาเพียง 1,490 บาท

สั่งซื้อชุดกระเช้าของขวัญ “นมอัลมอนด์ บรีซ” เพื่อส่งมอบความสุขให้คนที่คุณรักได้แล้ววันนี้ถึง 15 มกราคม 2562 ณ แม็คโคร, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โฮมเฟรชมาร์ท, วิลล่า มาร์เก็ต และเทสโก้ โลตัสทุกสาขา หรือสั่งซื้อได้ที่ โทร.08 0619 1212 และ 08 0619 0990 และติดตามข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ www.facebook.com/Bluediamondthailand และ IG:Bluediamondthailand

“ทิวลิป” จัดแคมเปญ “Year End Sale 2018” ส่งท้ายปี

ชุดเครื่องนอนทิวลิป โดย บริษัท ที แอล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการมอบสัมผัสประสบการณ์การนอนที่เหนือระดับ เปิดคลังสินค้าทิวลิปจัดโปรโมชั่นลดสูงสุด 80 % ฉลองเทศกาลส่งท้ายปี จัดแคมเปญ  “Year End Sale 2018” เปิดโรงงานให้ได้ชอปแบบจุใจ พร้อมคืนกำไรให้ลูกค้าให้ได้ฟินแบบเต็มที่กับชุดเครื่องนอนมากกว่า 100 ลาย และยังมีสินค้ามากมายอีกหลายรายการ

ร่วมชอปส่งท้ายปีได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 ธ.ค. 61 ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น. ณ โรงงานชุดเครื่องนอนทิวลิป (ซอยประชาอุทิศ 21) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 2427 9854 www.tulip.co.th หรือ https://www.facebook.com/TulipBed