เปิดจดหมาย ซีอีโอ “เสียวหมี่” แจกหุ้นให้พนักงาน หลังติดอันดับ Global 500

alivesonline.com : นายเหลย จวิน ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และซีอีโอของ “เสียวหมี่” เผยแพร่จดหมายขอบคุณ หลังจาก “เสียวหมี่” ติดทำเนียบการจัดอันดับใน “Fortune Global 500” ประจำปี 2019 โดย”เสียวหมี่”ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ก่อตั้งเมื่อปี 2553 และได้รับการจัดอันดับใน Global 500 เป็นครั้งแรก ในอันดับที่ 468 และยังเป็นบริษัทที่มีอายุการก่อตั้งและระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุดในบรรดาบริษัทที่ถูกจัดอันดับอีกด้วย

ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญสำหรับ นายเหลย จวิน เจ้าของตำแหน่งนักธุรกิจแห่งปีแต่งตั้งโดย นิตยสารฟอร์บส เมื่อปี 2557 จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “เสียวหมี่”ภายใต้การนำของ นายเหลย จวิน ได้สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาเทคโนโลยีเปี่ยมคุณภาพให้ผู้คนกว่า 80 ประเทศ และภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

สำหรับเนื้อหาในจดหมายขอบคุณของ นายเหลย จวิน มีดังนี้

สวัสดีพี่น้อง “เสียวหมี่” ที่รักทุกท่าน

นิตยสารฟอร์จูน เพิ่งประกาศผลการจัดอันดับ “Fortune Global 500” ประจำปี 2019 ซึ่งปีนี้ “เสียวหมี่” ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก โดยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 468 และยังติดหนึ่งใน 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและการค้าปลีกระดับโลก ในฐานะที่เราเป็นบริษัทที่มีอายุการก่อตั้งและระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุด โดยไม่รวมบริษัทที่เพิ่งควบรวมกิจการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในบรรดาบริษัททั้งหมดที่อยู่ในการจัดอันดับ Global 500 ประจำปีนี้ถือว่าเราได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อ 9 ปีก่อน

เราได้ผ่านการช่วงเวลาของการทำงานที่ยอดเยี่ยมราวปาฎิหาริย์ และการติดอันดับบริษัท “Fortune Global 500” ในครั้งนี้ถือเป็นการสรุปภาพรวมการเดินทางของเราที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยนับตั้งแต่การเริ่มต้นของอุตสาหกรรมโทรศัพท์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกำลังเริ่มเติบโต เราได้นำเสนอรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่โดดเด่นและทรงพลัง รวมถึงยังเป็นผู้นำแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและเหนือความคาดหมายให้กับผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ อีกทั้งยังคงมุ่งมั่นในการสานต่อปณิธานการดำเนินธุรกิจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและนวัตกรรมขั้นสูง ในราคาที่จริงใจและซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภคซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานอันแข็งแกร่งสู่ความสำเร็จที่ผ่านมาทั้งหมดของเรา

“เสียวหมี่” ได้รับข่าวดีถึงสองข่าวในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัท Global 500 และการเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของเราเมื่อไม่นานมานี้ ผมจึงใคร่ขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อมิตรสหายที่รักของเราที่เชื่อมั่นและยืนเคียงข้างเรา รวมถึงคอยให้ความช่วยเหลือและผลักดันให้เราพัฒนายิ่งขึ้นเสมอมา

ประการแรก ผมขอขอบคุณผู้ใช้งานและ Mi Fans หลายร้อยล้านคนทั่วโลกเป็นอย่างมากที่มอบความไว้วางใจและกำลังใจมหาศาลให้กับเราตลอดมา ประการที่สอง ผมขอขอบคุณพันธมิตรทางธุรกิจของเราที่ให้การสนับสนุนเรามาอย่างต่อเนื่อง หากปราศจากการสนับสนุนจากท่าน “เสียวหมี่” ที่เริ่มต้นจากกลุ่มคนเล็ก ๆ เพียง 15 คนคงไม่สามารถขึ้นมาเป็นบริษัท Global 500 ได้อย่างทุกวันนี้ รวมถึงขอขอบคุณผู้ร่วมลงทุนทุกท่านที่เข้าใจและอดทนเฝ้าดูเราเติบโต รวมถึงให้การสนับสนุน ยิ่งไปกว่านั้นเราต้องขอขอบคุณบริษัทที่ร่วมแข่งขันกับเรา ขอบคุณที่เป็นแรงจูงใจและสอนให้เรามองไปข้างหน้า ทุกบริษัทเป็นเสมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของเราจริง ๆ

สุดท้ายนี้ ผมขอชื่นชมทุกคนที่ทำงานที่ “เสียวหมี่” และสมาชิกในครอบครัวของทุกคนที่ให้การสนับสนุนอย่างดีเยี่ยม การที่เราประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้อาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายร่วมกัน และเพื่อเป็นการแสดงความชื่นชมจากใจ เรามีของขวัญสุดพิเศษที่อยากมอบให้กับเพื่อนผู้ร่วมงานของเราทั้ง 20,538 คน รวมถึงทีมงานหลักจากพันธมิตรของเรา โดยทุกท่านจะได้รับหุ้นของเสียวหมี่จำนวน 1,000 หุ้น โดย 500 หุ้น มอบให้เพื่อฉลองในโอกาสที่ “เสียวหมี่” ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัท Global 500 และอีก 500 หุ้นเป็นของขวัญที่มอบให้กับสมาชิกในครอบครัวและคนรัก และพันธมิตรของเราที่ได้ให้การสนับสนุนการทำงานของพนักงานของเราด้วยดีตลอดมา

ถึงเราจะดีใจและซาบซึ้งมากแค่ไหน แต่เราต้องไม่หยุดและก้าวต่อไปข้างหน้า แม้ว่าการจัดอันดับ Global 500 จะใช้เกณฑ์วัดจากผลประกอบการ และเราได้เติบโตกลายมาเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่เรายังต้องทำเพื่อให้เราพัฒนาให้ธุรกิจก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก โดยตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารูปแบบในการดำเนินธุรกิจของ “เสียวหมี่” มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเพียงใด จนสามารถทำให้เราก้าวไปสู่จุดสูงสุดในการดำเนินธุรกิจได้ ทว่า “เสียวหมี่” ไม่ได้ก่อตั้งมาเพื่อให้พอใจกับคำชื่นชมเพียงอย่างเดียว เราจะยังคงทำงานอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุความเป็นเลิศให้ได้

จากการที่เป็นบริษัทที่มีอายุการก่อตั้งและระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุดที่ได้รับการจัดอันดับ Global 500 ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและเข้มแข็งของเรา โดยได้รับการจัดอันดับร่วมกับบริษัทชั้นนำระดับโลก ฉะนั้น การที่เรายังมีอายุน้อยจึงเป็นการที่เราสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น ด้วยความเชื่อมั่นในสิ่งเดียวกัน ผมขอเชิญชวนให้พนักงานของเราทุกคนเตรียมพร้อมที่จะเผชิญความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุดที่รอคอยพวกเราอยู่ข้างหน้า วิสัยทัศน์ของเราในการเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมตั้งอยู่บนพื้นฐานการประสบความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอน ผ่านยุทธศาสตร์การพัฒนาและความสามารถอันเยี่ยมยอดของพวกเราในการพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

พี่น้องชาวเสียวหมี่ที่รักยิ่งทุกท่าน หนทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบากมักจะนำพาเราไปสู่ปลายทางที่สวยงาม ดังนั้นเราจะต้องทำตามความฝัน และตั้งมั่นในพันธกิจของเราเพื่อสามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมคุณภาพให้ทุกคนบนโลกและทำให้ “เสียวหมี่” เป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดต่อไป

นายเหลย จวิน

ผู้ก่อตั้ง ประธานกรรมการ และซีอีโอ “เสียวหมี่”

ตลาดวัสดุก่อสร้างเริ่มดีขึ้น ครึ่งปีแรก “สมาร์ทคอนกรีต” โกยกำไร 145.79%

alivesonline.com : SMART โชว์ผลประกอบการ ครึ่งปีแรกกวาดรายได้รวม 217.261 ล้านบาท เตรียมจดทะเบียนเพิ่มทุนจาก SMART-W2 จำนวน 92 ล้านหุ้น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต มองครึ่งปีหลังวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาเติบโตดี เหตุนโยบายโครงการภาครัฐหนุน EEC งานโครงการอสังหาฯ ทยอยลงทุนเพิ่ม เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อย ผู้รับเหมา สถาปนิกทั่วประเทศ พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด ชูกลยุทธ์ O2O เผยตลาดต่างประเทศไปได้ดีมียอดสั่งซื้อต่อเนื่องทั้งสปป.ลาว กัมพูชา

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีตจำกัด (มหาชน) หรือ SMART ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2562 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 110.063 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 86.598 ล้านบาท จำนวน 23.465 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.10% มีกำไรสุทธิ 5.714 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 10.353  ล้านบาท จำนวน 16.067 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 155.19%

ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 217.261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 175.045 ล้านบาท จำนวน 42.216 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.12% และมีกำไรสุทธิ 8.431 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 18.411 ล้านบาท จำนวน 26.842 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 145.79%

ผลประกอบการของบริษัทฯ มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนเพิ่ม ทำให้ปริมาณการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบาและอิฐมวลเบาประเภทตกแต่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาจำหน่ายอิฐมวลเบาปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 35.01 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.17% หรือเพิ่มขึ้น 31.531 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 906.04% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 3.480 ล้านบาท

นายรังสี กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ได้เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นที่ 2 (SMART-W2) มีการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 92,000,048 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 460,000,240 บาทเป็น 552,000,288 บาท สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร พัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาระบบงานต่าง ๆ เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการผลิต ระบบบริหารคลังสินค้า และระบบจัดส่งสินค้า ซื้อแหล่งวัตถุดิบ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการแข่งขันและรองรับคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจว่าจะมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะงานส่งออกในประเทศเพื่อนบ้าน

ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยจากความต้องการวัสดุก่อสร้างนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ งานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ที่เริ่มดำเนินโครงการต่อเนื่อง และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่มากขึ้น อาทิ งานอาคารสูง ห้างสรรพสินค้า และที่พักอาศัยแนวราบ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น

“ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนขยายฐานลูกค้ารายย่อย ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีการกระจายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำในทุกภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายในไทวัสดุจำนวน 48 สาขา โกลบอลเฮ้าส์ 17 สาขา อีกทั้งยังมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ O2O หรือ Online to Offline สร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้างผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อกระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วย โดยที่ผ่านมาได้ตอบรับที่ดีมากส่งผลให้มีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ”

นายรังสี กล่าวอีกว่า ส่วนตลาดในกลุ่มประเทศ AEC บริษัทฯ ได้เน้นตลาดประเทศ สปป.ลาวมากขึ้น โดยมีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ เนื่องจากความต้องการใช้งานในสปป.ลาวมีการขยายตัวค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีออเดอร์สินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดในประเทศกัมพูชา ยังเติบโตดีมีปริมาณคำสั่งซื้อต่อเนื่อง คาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 %

“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักและผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางการจำหน่าย โดยในส่วนของโครงการภาครัฐ-เอกชนขนาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่” นายรังสี กล่าวในที่สุด

เนื้อปลาบดปรุงรส (โอเด้ง) ตรา “คานิ แฟมิลี่” รุกตลาด RTE

บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัด (LUF) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง จากเนื้อปลาบด กระตุ้นตลาดอาหารพร้อมรับประทาน Ready to Eat ภายใต้แบรนด์ “คานิ แฟมิลี่” โดย ‘สุรเดช ชินสกุลเจริญ’ (กลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ลัคกี้ ยูเนี่ยน ฟู้ดส์ จำกัดนำทีมผู้บริหารชูผลิตภัณฑ์รุกอาหาร ด้วย “โอเด้ง” (เนื้อปลาบดปรุงรส) ตรา “คานิ แฟมิลี่” ภายใต้แนวคิด Ready to Eat สามารถรับประทานได้ทันที แหล่งโปรตีนจากเนื้อปลา พร้อมน้ำซุปแบบสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย เพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มอาหารรองท้องและอาหารทดแทนมื้อหลัก โดยการผลิตสินค้ามีการผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ได้รับมาตรฐานสากลและบรรจุภัณฑ์สินค้าเป็นแบบถ้วยกระดาษสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อน

สินค้าชนิดนี้ประกอบไปด้วยและน้ำซุปต้นตำรับรสชาติญี่ปุ่น ประกอบด้วย เนื้อปลาบดปรุงรสหลากหลายชนิด อาทิ เส้นปลา นารูโตะ คากูเต็น มารูเต็น เต้าหู้ปลา เป็นต้น และผักต่าง ๆ ได้แก่ หัวไชเท้า แครอท สาหร่าย

พบกับโอเด้ง (เนื้อปลาบดปรุงรส) ตรา “คานิ แฟมิลี่” ในราคาเพียง 35 บาท ได้ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.youtube.com/watch?v=_s0N6BflLrM หรือhttps://www.facebook.com/KaniFamilyThailand/ และ https://www.instagram.com/kanifamily/

 

KMA LOVEING MOM 2019 ลด 50%

 

เครื่องสำอางเคเอ็มเอ (KMA) ขอมอบความสวยสุดพิเศษให้คนพิเศษที่สุด เนื่องในโอกาส “วันแม่” กับโปรโมชัน ”KMA LOVEING MOM 2019” เพียงชอปสินค้า KMA Power C+ Cushion หรือ KMA PLAYFUL MINI LIP SET ลดสูงสุด 50 % ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562 เฉพาะ KMA COSMETICS SHOP ที่ร่วมรายการ

สัมผัสความสว่างที่แตกต่างจาก “หลอดไฟเฮเฟเล่”

“เฮเฟเล่” ขอเสนอนวัตกรรมความสว่างที่จะมาช่วยเติมเต็มบรรยากาศในบ้านให้อบอวลไปด้วยความสุขในยามราตรีจาก “หลอดไฟเฮเฟเล่” ที่สุดแห่งนวัตกรรม LED Lighting Solutions ระบบไฟส่องสว่าง LED เต็มเติมความสะดวกสบายให้ทุกคนในครอบครัว ด้วยการสานต่อฟังก์ชันระบบไฟส่องสว่างให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สร้างเป็นระบบไฟที่มีความสามารถในการประหยัดพลังงานสูง ผลิตจากวัสดุ LED และกรอบพลาสติกเกรดอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มความทนทานของหลอดไฟให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ลดการใช้พลังงานให้น้อยลง ประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับบ้าน จากดีไซน์หลอดไฟที่ทันสมัย กลมกลืนทุกการตกแต่ง สร้างความสวยงามสะดุดตาทุกครั้งที่ส่องสว่าง อาทิ

หลอดไฟ LED FULL SET T5 หลอดไฟแบบยาวรูปทรงกะทัดรัดติดตั้งง่าย เชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นถึง 15 เมตรในเส้นเดียว ประหยัดไฟมากกว่า 50% เลือกใช้งานได้หลากหลาย จากความยาวตั้งแต่ 300-1,200 มิลลิเมตร

โคมไฟ ROUND LED DOWNLIGHT โคมดาวน์ไลท์ทรงกลม ทรงบางผสานกับเนื้อเฟอร์นิเจอร์เสมือนชิ้นเดียวกัน มีคุณสมบัติแสงไฟและค่าความเที่ยงตรงของแสงสูง เติมเต็มเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครให้ทุกการตกแต่ง ดีไซน์วัสดุด้วยสีเงินเข้ากับแสงไฟ ทำให้ใช้ได้กับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบ

 

 

โคมไฟ SQUARE LED DOWNLIGHT โคมดาวน์ไลท์ทรงเหลี่ยม เนื้อบางติดตั้งง่าย นำไปใช้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย ให้ค่าความชัดเจนสูงและให้แสงที่มีคุณภาพ ไม่มีการแทรกจากจุดแสงแอลอีดี ดีไซน์วัสดุด้วยสีเงินเคล้าไปกับแสงไฟ ยกระดับความสวยงามที่มากกว่าให้ทุกงานออกแบบ

เป็นเจ้าของแสงสว่างที่แตกต่างจาก “หลอดไฟเฮเฟเล่” ได้แล้ววันนี้ที่ “เฮเฟเล่” ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0 2741 7171 หรือ www.hafelethailand.com

“วัตสัน TRY ME LOVE ME” ชอบครบ 500 บาท รับฟรี! เสื้อยืดสุดเก๋

“วัตสัน” ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย จัดกิจกรรม ภายใต้แคมเปญ “TRY ME LOVE ME” ลองแล้วจะเลิฟ โดยมีนักแสดงหนุ่มหล่อ “ออกัส วชิรวิชญ์” มาร่วมเดินนำขบวนในกิจกรรมนี้ พร้อมเชิญชวนแฟน ๆ ให้เข้ามาลองใช้สินค้าตรา “วัตสัน” ณ ร้านวัตสัน สาขา ซี.พี. ทาวเวอร์ สีลม เมื่อเร็ว ๆ นี้

พิเศษ ! เมื่อซื้อสินค้าตรา “วัตสัน” ทางวัตสันออนไลน์ครบ 500 บาท รับฟรี! เสื้อยืด TRY ME LOVE ME ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 สิงหาคม 2562 หรือจนกว่าของจะหมด สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อ ณ จุดขาย Official Line WatsonsTH เว็บไซต์ www.watsons.co.th และแอปพลิเคชัน WatsonsTH ทั้ง PlayStore และ AppStore หรือติดต่อสอบถามข้อมูลที่ Watsons call center โทร.0 2017 8899 (ทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น.)

“รักแม่…พาแม่มาจองบ้าน” 10-12 ส.ค.นี้ “ธนาสิริ” จัดให้ส่วนลดพิเศษ

“ธนาสิริ” นำโครงการบ้านคุณภาพในเครือธนาสิริ กรุ๊ปมาจัดรายการเพื่อตอบแทนคนรักแม่ ในงาน Forever MOM “รักแม่…พาแม่มาจองบ้าน” 10-12 สิงหาคม 2562

พบโปรโมชั่นพิเศษสุดหรูสำหรับคุณแม่กับกระเป๋าถือ Chanel Classic 10 นิ้ว มูลค่ากว่า 200,000 บาท หรือเพียงลงทะเบียนแวะเยี่ยมชมโครงการ พร้อมยื่นเอกสารประเมินสินเชื่อครบถ้วน รับฟรี! CHANEL N5 L’Eau On Hand Cream มูลค่า 2,250 บาทและของสมนาคุณอื่น ๆ อีกรวมมูลค่าสูงสุด 2 ล้านบาท เมื่อจองพร้อมทำสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์ตามกำหนด เพียงลงทะเบียนและนัดหมายเข้าชมในแต่ละโครงการทางออนไลน์

สำหรับโครงการบ้านคุณภาพในเครือธนาสิริ กรุ๊ปที่นำมาร่วมรายการได้แก่

1.“ธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร” บ้านเดี่ยวหรูเหนือระดับ สไตล์ Double Courtyard สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ รายล้อมด้วยบรรยากาศสีเขียว ร่มรื่น ซึ่งได้รับรางวัลอสังหาริมทรัพย์เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น จาก สมาคมสถาปนิกสยามฯ Exclusive Living เพียง 95 หลัง ดีไซน์ใหม่ทันสมัย แฝงกลิ่นอายธรรมชาติ เน้นความโปร่งโล่ง น่าอยู่ บ้านหน้ากว้างพิเศษ เพื่อให้ทุกพื้นที่ได้สัมผัสธรรมชาติ โอ่อ่า สง่างามภูมิฐาน มีห้องนอนล่างขนาดใหญ่ รองรับผู้สูงอายุ หรือแขกผู้มาเยือนได้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว มีระบบ Home Automation, สุขภัณฑ์อัตโนมัติ, สัญญาณกันขโมย ห้องน้ำแยกส่วนเปียก/แห้ง และช่องแสงระบายอากาศภายนอกเพื่อสุขอนามัย ใกล้ทางด่วนศรีรัช เดินทางสะดวกเพียง 15 นาที ถึงจตุจักร ทำเลศักยภาพ ใกล้สถานศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำ เริ่ม 9.9-14.5 ล้านบาท

2.“ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์” ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 6-8 เมตร เริ่ม 2.99 ล้านบาท

3.“ธนาคลัสเตอร์ เวสต์เกต” บ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้น เริ่ม 3.59 ล้านบาท

4.“ธนาซิโอ รัตนาธิเบศร์” ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 6 เมตร เริ่ม 2.59 ล้านบาท เมื่อเยี่ยมชม ยื่น Pre Approve รับบัตรกำนัลสตาร์บัคส์ มูลค่า 500 บาทและเมื่อจองในวันดังกล่าว รับของสมนาคุณเครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน หรือฟรี คาใช้จ่ายวันโอน (ตามที่โครงการกำหนด)

สอบถามเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ในแต่ละโครงการได้ที่ โทร.0 2005 8888 หรือ ลงทะเบียนแวะเยี่ยมชมโครงการ https://goo.gl/e2okWc

5.“สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต” บ้านหรูสไตล์รีสอร์ทบนสังคมเหนือระดับ ปลอดภัยถึง 5 ชั้น สะดวกทุกการเดินทาง เริ่มเพียง 2.59 ล้านบาท พิเศษ! ลงทะเบียนแวะเยี่ยมชมโครงการ รับฟรี! บัตรกำนัล After you มูลค่า 200 บาท (จำนวนจำกัด) โทร.0 4221 9881 หรือคลิก  https://goo.gl/qQKJsX

 

 

“อิออน” อัดโปรโมชั่นแรงกลางปี ในงาน “มหกรรมทางการเงินโคราช ครั้งที่ 13”

บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มอบความสุขตอบแทนลูกค้าภาคอีสาน จัดโปรโมชั่นพิเศษอัดแน่นกลางปีที่ไม่ควรพลาด พร้อมรับของสมนาคุณสุดคุ้มและรับสิทธิพิเศษอีกมากมายที่ตอบทุกโจทย์ทุกความต้องการโดยขนเอาผลิตภัณฑ์และบริการ มาไว้ภายในงาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 13” อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อยัวร์แคช (Your Cash), บริการเบิกถอนเงินสด, การรับสมัครบัตรสมาชิก

นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นผ่อนทองดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 6 เดือน และทันทีที่ทำธุรกรรมกับ “อิออน” จะได้สิทธิ์ลุ้นรับ iPhone XS 64GB มูลค่า 39,900 บาท หรือสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 20,770 บาท บัตรกำนัลบิ๊กซีมูลค่า 800 บาท, หมอนมือซุก AEON KANEKKO และกระเป๋าเดินทาง Anello suitcase เป็นต้น

งาน “มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 13” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 11 สิงหาคม 2562 ณ MCC Hall ชั้น 3 เดอะมอลล์ นครราชสีมา โดยในวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ที่บูธ “อิออน” ยังจะมีมินิคอนเสิร์ตจาก นักร้อง นักแสดงมากความสามารถ “แกงส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ” มาร่วมงานด้วย

ผู้สนใจสามารถติดตามรับข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ได้ทาง www.aeon.co.th

“EPP – IRPC” จัดทำแผ่นพลาสติกให้มูลนิธิขาเทียมฯ

บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) ร่วมกับ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) จัดทำแผ่นพลาสติกมอบให้แก่มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดย EPP ได้รับเม็ดพลาสติกจาก IRPC จำนวน 28 ตัน นำมาใช้ผลิตเป็นแผ่นพลาสติกเพื่อส่งมอบให้แก่มูลนิธิขาเทียมฯ ใช้ขึ้นรูปทำเป็นขาเทียมให้แก่ผู้พิการ ความร่วมมือดังกล่าวดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดย ‘ธีระวัฒน์ วิทูรปกรณ์’ (ที่ 5 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการอาวุโส EPP และ ‘พงษ์ศักดิ์ วัฒนการุณวงศ์’ (กลาง) ผู้จัดการฝ่ายขายธุรกิจ ปิโตรเคมี IRPC ร่วมเป็นผู้ส่งมอบแผ่นพลาสติก เมื่อเร็ว ๆ  นี้

“ฟิลลิป มอร์ริส” วางแผนออกจากธุรกิจบุหรี่

alivesonline.com : “ฟิลลิป มอร์ริส”เผยแผนยุติการผลิตและจำหน่ายบุหรี่แบบดั้งเดิม หลังพบคนไทยยังสูบบุหรี่มากถึง 11 ล้านคน หวังเดินหน้าสร้างประเทศไทยเป็น “สังคมที่ไร้ควันพิษจากบุหรี่” ผ่านการพัฒนานวัตกรรม “ผลิตภัณฑ์ไร้ควัน” เตรียมนำเสนอผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์และแนวทางเกี่ยวกับการลดอันตรายจากบุหรี่ ตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติของประเทศไทย ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่เหลือเพียง 16.7% ในปี 62

นายเจอรัลด์ มาร์โกลิส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบจากต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ตรงกันกับรัฐบาลไทยในภารกิจลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ โดยเชื่อว่าการไม่เริ่มสูบบุหรี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีผู้สูบบุหรี่ประมาณ 11 ล้านคนที่เลือกจะสูบบุหรี่ต่อไป สังคมไทยจึงต้องหานวัตกรรรมใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อช่วยลดอันตรายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ซึ่งแม้ผลิตภัณฑ์ไร้ควันจะไม่ได้ปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง แต่ก็เป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการสูบบุหรี่และผู้สูบบุหรี่ควรมีสิทธิได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติของประเทศไทย ตั้งเป้าลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ให้เหลือเพียง 16.7% ภายในปี 2562 อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2560 พบว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยลดลงจาก 19.9% ในปี 2558 เหลือ 19.1% ในปี 2560 ซึ่งนับว่าเป็นการลดลงที่น้อยมาก แม้ว่าจะมีมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ที่เข้มงวด เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ไร้ควันจึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผู้สูบบุหรี่ รวมทั้งจะเข้ามาเป็นคำตอบของนวัตกรรมเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างสังคมไร้ควัน

นายเจอรัลด์ กล่าวด้วยว่า บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย มีแผนที่จะยุติการผลิตและจำหน่ายบุหรี่แบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง เพื่อเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้สูบบุหรี่ให้เร็วที่สุด ล่าสุด องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันของ “ฟิลลิป มอร์ริส” เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เหมาะสมในการปกป้องสุขภาพของประชาชนและอนุญาตให้จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาได้ คำยืนยันดังกล่าวจึงถือเป็นหมุดหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทางประวัติศาสตร์

‘เจอรัลด์ มาร์โกลิส’ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) และ ‘พงศธร อังศุสิงห์’ (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์

ด้าน นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยเเลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยกว่า 70% ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนิโคตินและควันบุหรี่ ความจริงแล้วนิโคตินคือหนึ่งในสาเหตุที่คนเลือกสูบบุหรี่ นอกเหนือไปจากพฤติกรรมการติด โดยผู้สูบบุหรี่ต้องการได้รับนิโคติน แต่ปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ใช่นิโคติน แต่เป็นควันบุหรี่ แม้ว่านิโคตินจะเป็นสารที่ทำให้เสพติดและไม่ได้ปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุหลักของโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่จากการเผาไหม้ยาสูบต่างหากที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงที่สุด ดังนั้น หากเราสามารถตัดขั้นตอนการเผาไหม้ออกจากกระบวนการจุดบุหรี่ได้ก็จะเป็นการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้สูบบุหรี่และนั่นคือหลักการพื้นฐานของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันของเรา

“องค์กรด้านสุขภาพระดับนานาชาติหลายแห่ง เช่น ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งลอนดอน Public Health England และสถาบันแห่งชาติเพื่อการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมประเทศเนธอร์แลนด์ ได้ทำการศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระ พบว่าผลิตภัณฑ์ไร้ควันสามารถลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ในประเทศที่มีความก้าวหน้าและเปิดกว้างด้านวิทยาศาสตร์และสาธารณสุข เช่น สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับผู้ที่ยังคงจะสูบบุหรี่ต่อไป ควบคู่ไปกับการกำหนดมาตรการเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนจากผลิตภัณฑ์ยาสูบและการป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ”

“ฟิลลิป มอร์ริส” วอนให้ผู้กำหนดนโยบายด้านสุขภาพ ภาครัฐ หน่วยงานด้านสาธารณสุข และภาคสังคม ร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยเหลือผู้สูบบุหรี่ชาวไทยร่วม 11 ล้านคนที่ยังตัดสินใจสูบบุหรี่อยู่ โดยปัจจุบันผู้สูบบุหรี่ชาวไทยพลาดโอกาสที่จะเข้าถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควันอย่างน่าเสียดาย “ฟิลลิป มอร์ริส” จึงอยากเชิญให้ภาครัฐเปิดโอกาสเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลบนพื้นฐานของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการหาแนวทางเพื่อลดการสูบบุหรี่ในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดย “ฟิลลิป มอร์ริส” ยังส่งเสริมให้ผู้ที่มีอำนาจกำหนดนโยบายพิจารณาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์ไร้ควันเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่และจะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพสำหรับผู้สูบที่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ไร้ควัน ซึ่งการอนุญาตให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไร้ควัน โดยมีกฎหมายควบคุมอย่างเหมาะสมจะช่วยเสริมมาตรการสาธารณสุขที่มีอยู่ในปัจจุบันและรักษาชีวิตคนไทยให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่ได้

ภาพบรรยากาศในห้องทดลองผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน

#นายเจอรัลด์ มาร์โกลิส #บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด #ฟิลลิป มอร์ริส #ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน #ธุรกิจบุหรี่และยาสูบ #จำนวนคนไทยสูบบุหรี่