“เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์” รวมพลังขับเคลื่อนสู่องค์กรแห่งนวัตกรรม

กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จัดงาน “TOWNHALL” ภายใต้ธีม “GENOVATION 2019 : UNLOCK THE FUTURE” รวมพลังนวัตกรรมขับเคลื่อนองค์กร เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ นำทัพโดย 2 CEO หนุ่มไฟแรง ‘เคนนี่ บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ’ และ ‘กรกฤต คำเรืองฤทธิ์’ ร่วมด้วย กนิษฐศรี ทองสมุย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์และสนับสนุนองค์กร (CHCO) เปิดเวทีให้พนักงานทุกคนร่วมแสดงพลังความคิด สร้างสรรค์พัฒนาเจนเนอราลี่ในด้านต่าง ๆ โดยแบ่งกลุ่มพนักงานเป็นกลุ่ม ๆ ร่วมนำเสนอไอเดียกันอย่างเข้มข้นและสนุกสนาน เพื่อหาสุดยอดนวัตกรรมที่จะสามารถพัฒนาให้ “เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์” ก้าวสู่เป้าหมายด้วยความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ถือเป็นมิติใหม่ของการร่วมแสดงพลังความร่วมมือครั้งสำคัญของพนักงาน “เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์” ทุกคน นอกจากนี้ในงานผู้บริหารระดับสูงทั้ง 3 ท่านได้ให้นโยบายและแนวทางการทำงานในปี 2019 พร้อมกับเชิดชูเกียรติพนักงานดีเด่นและพนักงานที่มีอายุงานยาวนาน ณ  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

‘เคนนี่-บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ (ไทยแลนด์) ได้ให้นโยบายและทิศทางในปี 2562 แก่พนักงาน “เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์”

‘กรกฤต คำเรืองฤทธิ์’ (ที่ 2 จากซ้าย) และ ‘เคนนี่ บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ’ (ที่ 3 จากซ้าย) 2 CEO หนุ่มไฟแรง ร่วมด้วย ‘กนิษฐศรี ทองสมุย’ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์และสนับสนุนองค์กร (CHCO) เปิดเวทีให้พนักงานทุกคนร่วมแสดงพลังความคิด สร้างสรรค์พัฒนาในด้านต่าง ๆ

 

“สยามสินธร” ดึง “เคมปินสกี้” เปิดตัวคอนโดฯ หรู

นายชลาลักษณ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสินธร จำกัด จัดงานเปิดตัว โครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้” โดยจับมือพันธมิตรชื่อดังระดับโลก “เคมปินสกี้” สร้างสรรค์ที่พักอาศัย รวมถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว “สินธรเคมปินสกี้” และโรงแรมในเครือคิมป์ตัน ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ “สินธร วิลเลจ” มิกซ์ยูสย่านหลังสวน ทำเลทองชั้นนำของเมืองไทย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ณ สำนักงานขาย เดอะ เรสซิเดนท์ แอท สินธร เคมปินสกี้ ถนนหลังสวน เมื่อเร็ว ๆ นี้

“เฮเฟเล่” เปิดบ้านเชียงใหม่

นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและครัวเรือน พร้อมทั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ คุณภาพมาตรฐานเยอรมนี เปิดบ้านต้อนรับลูกค้า “เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ เชียงใหม่” แหล่งรวมไอเดียและสินค้าเพื่อการตกแต่งบ้านและอาคารที่ทันสมัย สินค้านวัตกรรมล้ำสมัยจากประเทศเยอรมนีสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครัน เติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว มีพื้นที่กว่า 370 ตารางเมตร พร้อมสินค้ามากกว่า 1 พันรายการ ภายใต้แนวคิด “เฮเฟเล่ อุปกรณ์ครบ จบทุกเรื่องงานอาคาร” (Complete Building Solutions) ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ในที่อยู่อาศัยได้ทุกพื้นที่ พร้อมให้คุณใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายไร้ขีดจำกัด ณ “เฮเฟเล่ ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เชียงใหม่” เมื่อเร็ว ๆ นี้

“โอซีซี” จัดเวิร์คชอปเพื่อพนักงานธนาคารกรุงศรีฯ

‘สุวภา ศิริวรรณ’ หัวหน้าหน่วยอบรมการแต่งหน้า และพัฒนาบุคลิกภาพ บมจ.โอซีซี พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ร่วมกับสายงานการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมเวิร์คชอป “พัฒนาบุคลิกภาพ เสริมสร้างความงามในการแต่งหน้า และการดูแลผิวอย่างถูกวิธี” ด้วยเครื่องสำอาง COVERMARK ให้พนักงานสายงานลูกค้าสถาบันการเงิน และกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ณ อาคารกรุงศรีเพลินจิต ทาวเวอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

PPS คว้า Best Company Performance Awards

นายธัช ธงภักดิ์ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS รับรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม (Best Company Performance Awards) สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยรับเกียรติจาก ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ (ซ้าย) ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบรางวัล ภายในงาน SET Awards 2018 ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้

พบผลสำรวจนักเดินทางไทยให้ความสำคัญเรื่องงบประมาณ

alivesonline.com : ถึงแม้ว่าผู้เดินทางส่วนใหญ่อยากจะมีงบประมาณไม่จำกัดสำหรับการท่องเที่ยว “ทริปในฝัน” แต่ความฝันกับความจริงอาจสวนทางกัน

Booking.com ผู้นำระดับโลกด้านการเชื่อมโยงผู้เดินทางกับตัวเลือกที่พักน่าทึ่งหลากหลายประเภท เผยผลสำรวจจากผู้เดินทาง 21,500 คนจาก 29 ประเทศ

โดยพบว่า 79% ของผู้เดินทางชาวไทยตั้งใจที่จะใช้จ่ายอย่างรอบคอบโดยการตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า ในขณะที่เกินครึ่ง (58%) ไม่ได้เคร่งครัดกับงบประมาณที่ตั้งไว้เท่าใดนักและสุดท้ายก็ใช้จ่ายไปมากกว่าที่คิดไว้ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยถึงสิ่งที่ผู้เดินทางชาวไทยให้ความสำคัญในเรื่องการจัดสรรงบประมาณสำหรับทริปเดินทางปีหน้าอีกด้วย

ในปี 2562 เหล่านักเดินทางจะใช้เงินมากขึ้นเพื่อสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ โดยมากกว่าครึ่ง (55%) ของผู้เดินทางชาวไทยวางแผนจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในปีหน้าเพื่อแลกกับประสบการณ์ ความบันเทิง และสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยมีมากถึง 68% เผยว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าการได้ครอบครองสิ่งของ นอกจากนี้ในปี 2562 ผู้เดินทางชาวไทยยังมีแนวโน้มสูงที่จะใช้จ่ายมากขึ้นไปกับกิจกรรม ความบันเทิง และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในย่านยอดนิยม

แต่ที่น่าประหลาดใจคือ เทรนด์ท่องเที่ยวนี้ไม่ได้ฮิตเฉพาะในกลุ่มมิลเลนเนียล (67%) เท่านั้น เพราะเมื่อแยกตามอายุของผู้เดินทางแล้วก็มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (68% สำหรับอายุ 35-44 ปี และ 74% สำหรับอายุ 45 ปีขึ้นไป) ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าการเดินทางที่เน้นประสบการณ์กำลังจะกลายเป็นกระแสหลักอย่างแท้จริงในปี 2562

สำหรับวิธีการวางแผนจัดสรรงบสำหรับประสบการณ์นั้น ผลสำรวจของ Booking.com เผยว่านักเดินทางชาวไทยเต็มใจที่จะยอมเสียสละบางอย่างเพื่อแลกกับประสบการณ์ที่ต้องการ โดยมากถึงสามในสี่ (76%) กล่าวว่าพวกเขาวางแผนใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับทริปปี 2562 เพื่อที่จะมีเงินพอสำหรับทริปอื่น ๆ และสัมผัสประสบการณ์มากกว่าปี 2561 ยกตัวอย่างเช่น ผู้เดินทางชาวไทยส่วนใหญ่ (58%) บอกว่าตนเต็มใจที่จะข้ามสถานที่ท่องเที่ยวที่ใค รๆ ไปกันหากมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป

นอกจากนี้ ยังมีเทรนด์ท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่งที่จะส่งผลกับการจัดการงบเดินทางปี 2562 คือ หน่วยงานที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวจะสนับสนุนให้ผู้คนออกเดินทางในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว หรือออกไปสำรวจนอกบริเวณอื่นที่ยังไม่ได้รับความนิยมนัก โดยผลสำรวจของ Booking.com เผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ตอบรับไอเดียนี้เป็นอย่างดี โดยเต็มใจที่จะพักในที่พักนอกย่านใจกลางเมือง (57%) หรือเดินทางนอกดูกาลท่องเที่ยว (62%) และแชร์แผนการเดินทางกับองค์กรด้านการท่องเที่ยวเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะเป็นการเฉพาะสำหรับทริปของตน (63%)

การเลือกเดินทางไปยังจุดหมายที่ยังมีคนไปไม่มากนักจึงถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เดินทางและหน่วยงานด้านการเดินทาง โดยคาดว่าในปี 2562 ก็จะมีผู้เดินทางจำนวนมากขึ้นที่คว้าโอกาสนี้ไว้

ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวจัดทำโดย Booking.com และดำเนินการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งได้เดินทางในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาและวางแผนที่จะเดินทางในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยผู้ตอบแบบสอบถามมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 21,500 คน (ประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 1,000 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี จีน บราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย อินโดนีเซีย โคลอมเบีย และเกาหลีใต้ ส่วนประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 500 คน ได้แก่ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ไทย อาร์เจนตินา เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฮ่องกง โครเอเชีย ไต้หวัน เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สิงคโปร์ และอิสราเอล) โดยผู้ตอบได้ทำแบบสอบถามออนไลน์ระหว่างวันที่ 10-30 สิงหาคม 2561

วิตกปัญหาขยะพลาสติกสะสมเกิน 2 ล้านตัน รัฐ-เอกชนเร่งรณรงค์สร้างแนวทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

alivesonline.com : ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เมลามีนรายใหญ่ “ศรีไทยซุปเปอร์แวร์” ร่วมโครงการ “รณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ” มอบปิ่นโตเมลามีน 500 เถา ให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งผ่าน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระจายใช้ในสถานที่ท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ หวังลดปัญหาขยะพลาสติกสะสมปีละกว่า 2 ล้านตัน พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ภาครัฐและภาคเอกชนมีความร่วมมือกันรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว เกิดความรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการสร้างภาระขยะในแหล่งท่องเที่ยว จึงได้จัดตั้ง “โครงการรณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ” เพื่อรณรงค์และเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมในการอนุกรักษ์อย่างยั่งยืนต่อไป

ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ ในกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมเป็นอย่างดี เช่น การร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขับเคลื่อนกลยุทธ์สร้างสรรค์กิจกรรมโครงการ “เที่ยวไทยเท่ ไม่สร้างขยะ ลดโลกเลอะ” เพื่อลดการใช้พลาสติกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ลดลงร้อยละ 50 ภายในปี 2563 พร้อม ๆ กับการมุ่งประชาสัมพันธ์ให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้นักท่องเที่ยวและเจ้าของพื้นที่ได้ตระหนักรู้ถึงปัญหาขยะของแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากการทำกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ซึ่งมีการให้คำแนะนำในการลดการสร้างขยะ หรือ “พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง” (Single-use plastics) และการใช้วัสดุสำหรับทดแทนพลาสติก เช่น การใช้ถุงผ้า, ขวดน้ำพกพา, กล่องข้าวพกพา, หลอดดูดน้ำจากวัสดุธรรมชาติ การใช้ผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น

ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบปิ่นโตเมลามีนซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เมลามีนสำหรับใช้ใส่อาหารและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่จำนวน 500 เถา จาก นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งต่อให้แก่ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกระจายนำไปใช้ยังสถานที่ท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศได้ประกาศงดการนำโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ Single Use Plastic เข้าไปในเขตอุทยานฯ เนื่องจากโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกก่อให้เกิดปริมาณขยะพลาสติกและโฟมมากกว่าปีละ 2 ล้านตัน ขณะที่ขยะพลาสติกถุงหูหิ้วใช้ครั้งเดียวทิ้งมีปริมาณถึง 1.2 ล้านตันต่อปี

“ขยะพลาสติกแหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าและสัตว์ป่า ดังนั้น โครงการรณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปริมาณขยะพลาสติกและลดการเสียชีวิตของสิ่งมีชีวิตในเขตอุทยานแห่งชาติ และรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานเพื่อรักษาระบบนิเวศป่าและชีวิตสัตว์ป่าต่อไป” นายวีระศักดิ์ กล่าวในตอนท้าย

ด้าน พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีพันธกิจหลักในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ควบคุมการจัดสรร และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างคุณค่าที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ดำเนินการโดยการประสานกับเครือข่ายภาคีและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เมื่อกล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยทั่วไปในช่วงเวลานี้ ประชาชนมักจะให้ความสนใจและความสำคัญกับการเข้าไปท่องเที่ยวและพักผ่อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ

อุทยานแห่งชาติเป็นรูปแบบหนึ่งของพื้นที่คุ้มครองที่ประกาศจัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ ระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในพื้นที่ ให้คงสภาพดั้งเดิมไว้ เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้าวิจัยทางวิชาการ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน มีทั้งสิ้น 154 แห่ง แบ่งเป็นทางบก 128 แห่ง และทางทะเล 26 แห่ง โดยมีการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2505 จนถึงปัจจุบันได้มีการประกาศอุทยานแห่งชาติแล้ว จำนวน 132 แห่ง และยังมีพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติอีก 22 แห่ง รวมเป็นพื้นที่มากกว่า 7 หมื่นตารางกิโลเมตร

“อุทยานแห่งชาติเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงามและโดดเด่น จึงเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศที่รัฐบาลนำไปส่งเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง เมื่อพิจารณาจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวแล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นมาโดยตลอด โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 19 ล้านคน เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว พักแรม หรือประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ก็ย่อมหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมาจากการท่องเที่ยวไม่ได้นั่นคือ ปัญหาขยะมูลฝอย”

พลเอกสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการตามโรดแมปการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายที่ผ่านความเห็นชอบจา กคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งมีแนวทางและมาตรการต่าง ๆ ในการลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป การลดและคัดแยกขยะมูลฝอยที่ต้นทาง การจัดการขยะมูลฝอยแบบศูนย์รวม และกำจัดโดยเทคโนโลยีที่เหมาะสมแบบผสมผสานเน้นการแปรรูปเป็นพลังงาน หรือทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งสร้างวินัยของคนในชาติสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทางจนถึงการกำจัดขั้นสุดท้าย

“สำหรับในพื้นที่อุทยานแห่งชาติยังมีการรณรงค์ในเรื่องการจัดการขยะมูลฝอยมาโดยตลอด โดยในปี 2558 เริ่มมีการดำเนินการโครงการอุทยานแห่งชาติสีเขียว หรือ Green National Park ที่กระตุ้นให้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ ในการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ให้มีการกำหนดนโยบายในการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน มีการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ไม่กระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ ให้มีการดูแลจัดการเรื่องน้ำเสียและขยะมูลฝอยและพบว่าปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดจากนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง”

พลเอกสุรศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า พลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมใช้เพราะสะดวกในชีวิตประจำวัน แต่เนื่องจากเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ยาก ทำให้มีปริมาณขยะประเภทถุงพลาสติกสะสมและตกค้างเป็นจำนวนมาก โดยพบว่า ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมามีขยะพลาสติกเกิดขึ้นประมาณ 12% ของปริมาณขยะ หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน แต่สามารถนำขยะพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์เฉลี่ยเพียงปีละประมาณ 0.5 ล้านตัน เพราะส่วนใหญ่ 1.5 ล้านตัน เป็นเศษขยะถุงพลาสติกที่ปนเปื้อน อาทิ ถุงร้อน ถุงเย็นบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% หรือ ประมาณ 1.2 ล้านตัน

ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ดำเนินตามโครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” ตามแนวคิด 3 Rs คือ การใช้น้อย ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ (Reduce Reuse Recycle : 3Rs) พร้อมทั้งจัดรณรงค์ลดบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้ว ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร ขวดน้ำที่มีพลาสติกหุ้มฝาขวด หลอด และช้อน-ส้อม ที่ทำจากพลาสติก ซึ่งเริ่มดำเนินการในวันที่ 12 สิงหาคม 2561 พร้อมกันในอุทยานแห่งชาติ 154 แห่งทั่วประเทศ

อุทยานแห่งชาติทุกแห่งยังได้นำหลักการจัดการขยะแบบเหลือศูนย์มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้การจัดการขยะในอุทยานแห่งชาติได้รับการจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นต้นแบบในการจัดการขยะ โดยได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการบริเวณภายนอกเขตอุทยานแห่งชาติ ทั้งชุมชน ร้านค้า ตลาด และท่าเทียบเรือ รอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ในการร่วมโครงการฯ โดยได้สั่งการให้ทุกอุทยานแห่งชาติจัดกิจกรรมโครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” พร้อมกำหนดเป้าหมายรณรงค์ไม่นำกล่องโฟมบรรจุอาหารเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติและการณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร ขวดน้ำที่มีพลาสติกหุ้มฝาขวด หลอด และช้อน-ส้อมที่ทำจากพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างน้อย 3 ล้านใบ/ชิ้น พร้อมผู้เข้าร่วมโครงการ อย่างน้อย 10 ล้านคน

“กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการจัดกิจกรรมให้ยืมถุงผ้าหรือบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ไว้คอยให้บริการ และจัดกิจกรรมโครงการรณรงค์นำขยะคืนถิ่น / มัดจำขยะ การจัดกิจกรรมเก็บขยะชายหาดและขยะใต้ทะเล ทั้งทางทะเลและแหล่งน้ำ อีกทั้งยังขอความอนุเคราะห์ให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการลดราคาเครื่องดื่ม เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวหวังให้ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร ขวดน้ำที่มีพลาสติกหุ้มฝาขวด หลอด และช้อน-ส้อม ที่ทำจากพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างน้อย 3 ล้านใบ/ชิ้น โดยเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการร้านค้า เยาวชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมโครงการฯ อย่างน้อย 10 ล้านคน ในปี 2561” นายธัญญา กล่าวในตอนท้าย

ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตภาชนะเมลามีน 100% กล่าวว่า บริษัทฯ เข้าร่วม “โครงการรณรงค์การใช้ภาชนะหมุนเวียนในเขตอุทยานแห่งชาติ” ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์ปิ่นโตเมลามีน จำนวน 500 ใบซึ่งเป็นภาชนะสำหรับใส่อาหารที่มีความปลอดภัยและมีความทนทาน สามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้หลายๆ ปี ให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งมอบต่อไปยัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำไปใช้ยังสถานที่ท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ เพราะตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าและสัตว์ป่า จึงต้องการมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะพลาสติกและลดการเสียชีวิตของสิ่งมีชีวิตในเขตอุทยานแห่งชาติ ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อไป

 

“ซีพี ออลล์” ปั้นทายาทธุรกิจเอสเอ็มอี ติวเข้มเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการยุค 4.0

alivesonline.com : “ซีพี ออลล์” ผู้ก่อตั้งร้าน “เซเว่น อีเลฟเว่น” ในประเทศไทย เปิดหลักสูตรติวเข้ม “ซีพี ออลล์ ปั้นทายาทธุรกิจเอสเอ็มอี” เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้ทายาทธุรกิจเอสเอ็มอี รุ่นใหม่ ๆ ได้นำไปต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจที่ดำเนินมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เพราะแม้ว่าธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็ก แต่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนี้จะช่วยกระจายรายได้จากกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจไปสู่กลุ่มภาคการผลิตต่าง ๆ ทำให้เกิดการจ้างงานและประชาชนมีรายได้ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีจึงเป็นพื้นฐานของภาคธุรกิจ เพราะเมื่อกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศแข็งแรงก็จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมในระดับมหภาคแข็งแรงด้วย

การบรรยายครั้งนี้มีหัวข้อน่าสนใจจากวิทยากรหลากสาขา อาทิ “ทายาทธุรกิจกับการสร้างความสำเร็จในอนาคต” โดย ‘รวิศ หาญอุตสาหะ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด, “ทำไมต้อง Marketing 4.0” โดย ‘ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด, “การสร้างแบรนด์ธุรกิจเอสเอ็มอีบนโลกออนไลน์” โดย ‘ปฤณ จำเริญพานิช’ กรรมการ บริษัท อินดัสเตรียล รีโวลูชั่น จำกัด และ “Packaging Design สวยงาม เพิ่มมูลค่าสินค้าได้อย่างไร?” โดย ‘พีรวงศ์ จาตุรงคกุล’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์

‘สุวิทย์ กิ่งแก้ว’ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวถึงเหตุผลในการจัดอบรมติวเข้มให้ทายาทธุรกิจเอสเอ็มอีครั้งนี้ว่า ต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันและช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับทายาทและผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีรุ่นใหม่สามารถสืบทอดและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงต่อไป ตามปณิธานขององค์กร “ร่วมสร้่างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”

“ซีพี ออลล์” เป็นสะพานเชื่อมระหว่างธุรกิจเอสเอ็มอีกับผู้บริโภคมาตลอด โดยปัจจุบันธุรกิจเอสเอ็มอีทั้งประเทศมีประมาณ 3.5 ล้านราย แต่มีเพียงจำนวนหนึ่งที่มีโอกาสส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคผ่านร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ และผ่านช่องทางของ “ทเวนตี้โฟร์ ช็อปปิ้ง” โดยได้จัดจำหน่ายสินค้าธุรกิจเอสเอ็มอี รวมกว่า 1.3 หมื่นรายการ

“การเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้เร็วมากเพราะเทคโนโลยี ธุรกิจเอสเอ็มอีจึงต้องติดตามเหตุการณ์และพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและตอบสนองให้ทันความต้องการของผู้บริโภค ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้เพื่อต่อยอดธุรกิจเอสเอ็มอีให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชนและเกษตรกร ตลอดจนช่วยเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง”

ด้าน รวิศ หาญอุตสาหะ’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาธุรกิจของ “ศรีจันทร์” คือการเปลี่ยนแปลงองค์กร เพราะช่วงที่เข้ามารับช่วงจากคุณปู่นั้น ธุรกิจศรีจันทร์เล็กมาก ไม่มีแนวโน้มที่จะเติบโต เพราะไม่สามารถขายเป็นโมเดิร์นเทรดได้ จึงมีเพียงสองทางคือเลิก หรือทำต่อเท่านั้น และเมื่อตัดสินใจไปต่อ การเปลี่ยนแปลงสำคัญมาก และทุกวันนี้ก็ยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

“การเปลี่ยนแปลงเหมือนถนนที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะต้องสร้างไปเรื่อย ๆ ทั้งยังมีการรีแบรนด์แทบทุกปี โดยทรัพยากรที่สำคัญที่สุดคือคนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามคนเก่งไม่ค่อยอยากทำงานกับบริษัทเล็ก เงินเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่จะดึงดูดคนเก่งมาทำงานกับเราได้ เราต้องรู้ว่าสิ่งที่ดึงดูดคนเก่งได้จริง ๆ คือเป้าหมายในการทำงาน การได้เรียนรู้ การมีส่วนร่วม การได้รับการยอมรับ คือสิ่งที่คนเก่งสนใจ การเลือกทีมจึงสำคัญมากต่อความก้าวหน้าขององค์กร”

“ในส่วนวิธีการทำงานนั้นสิ่งที่ทำให้ผมรักษาองค์กรและคนไว้ได้คือการให้ฟีดแบ็คทุก 6 อาทิตย์ ทำให้ทุกโปรเจคปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญแผนธุรกิจต้องเริ่มจากลูกค้า ไม่ใช่เริ่มจากห้องประชุม แล้วเอาความเห็นลูกค้ามาปรับปรุง อยากขายใครให้ถามคนนั้น สำรวจให้ถูกและทำให้เร็ว การเริ่มจากลูกค้าจะมีโอกาสสำเร็จสูงมาก หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรก็ได้ให้รู้ว่าลูกค้าอยากได้อะไรจริงๆ และทำในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ในผลิตภัณฑ์ของเรา”

‘ปฤณ จำเริญพานิช’ กรรมการ บริษัท อินดัสเตรียล รีโวลูชั่น จำกัด กล่าวว่า โซเชียลมีเดียในออนไลน์นั้นทำหน้าที่เป็นโทรโข่ง เพราะแต่ละเครื่องมือมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน นอกจากนี้ นี่คือยุคสมัยที่ลูกค้าไม่เชื่อในสิ่งที่เจ้าของธุรกิจพูด แต่จะเชื่อในสิ่งที่ลูกค้าด้วยกันบอกต่อ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือจะต้องใช้โซเชียลมีเดียทำให้ลูกค้ารักและบอกต่อแทนเรา

“คนไทยอยู่บนอินเทอร์เน็ตวันละ 9.38 ชั่วโมง ไม่รวมเวลานอน ความสนใจของคนอยู่บนออนไลน์ แต่ให้ลูกค้ารู้จักสินค้าจากออนไลน์ยังไม่พอ ต้องทำให้อยากได้สินค้าตั้งแต่โลกออนไลน์ การทำแบรนด์ดิ้งและการตลาดบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือจึงสำคัญมากที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งในที่สุดแล้วคนจะยอมจ่ายเงินให้สินค้าที่เขาคิดว่าสามารถมาเติมเต็ม หรือแก้ปัญหาให้เขาได้ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ที่สำคัญการสร้างแบรนด์ในโลกออนไลน์ไม่ใช่การซื้อโฆษณา แต่คือการสร้างความเชื่อและความรักเพื่อให้ลูกค้าบอกต่อ ซึ่งข้อดีของออนไลน์มาร์เก็ตติ้งคือการวัดผลได้อย่างทันทีว่าคุ้มหรือไม่และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว”

ขณะที่ ‘พรรษนันท์ พลสว่าง’ สาวน้อยวัย 19 ปี ทายาทธุรกิจเอสเอ็มอี จาก บริษัท ทูบี อินเตอร์ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขาไก่ภายใต้แบรนด์ MOOZA” ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หนึ่งในผู้เข้าร่วมหลักสูตร เปิดเผยว่า ได้เริ่มเข้ามาช่วยครอบครัวดูแลกิจการอย่างเต็มตัวมาประมาณ 1 ปี โดยเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย ในขณะที่ “ซีพี ออลล์” มีส่วนช่วยเหลืออย่างมากในการเติบโตของธุรกิจ

“คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจว่าจะนำสินค้าเข้ามาขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ช่วงแรกขายในบางสาขา แต่หลังจากจดทะเบียนบริษัทในปี 2557 ก็ขยายไปทั่วประเทศ ปัจจุบันนอกจากขนมขาไก่รสออริจินัลแล้ว ยังมีสามรส และกำลังจะทำขาไก่จัมโบ้ นอกจากนี้ยังมีมะม่วงหยีคลุกบ๊วยด้วย โดยส่วนตัวจะดูแลเรื่องแพคเกจจิ้งและการตลาด ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ยอดขายเติบโตตลอด ส่วนหนึ่งมาจากคำแนะนำของซีพี ออลล์ไม่ว่าจะเป็นการปรับแพคเกจจิ้ง เรื่องกฎหมายต่างๆ โดยการเติบโตของเราก็ส่งผลดีกับธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเราด้วย ทั้งทางด้านเบเกอรี่ และเกษตรกรรายย่อย”

ส่วน วีรภัทร์ ลิไพบูลย์’ อายุ 35 ปี ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีรุ่นใหม่จากบริษัท Jim’s Group Co.,Ltdอีกหนึ่งทายาทธุรกิจเอสเอ็มอีที่ร่วมงาน เผยถึงผลิตภัณฑ์ซุปผง “เลดี้ แอนนา” ที่จำหน่ายผ่านช่องทาง “ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง” ว่าแต่เดิมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่ายในต่างประเทศ เริ่มจากประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา ยุโรป ไต้หวัน แล้วถึงกลับมาขายในประเทศไทย โดยมีจุดเด่นคือเป็นเฮลท์ตี้ซุป ควบคุมเรื่องคลอเลสเตอรอล ไม่มีผงชูรส แคลอรี่ต่ำ และมีปริมาณเกลือที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับซุปโดยทั่วไป เหมาะกับเทรนด์อาหารสุขภาพ โดยช่องทางการจำหน่ายสำคัญก็คือ “ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง” ทั้งนิตยสารและเว็บไซต์ โดยเริ่มจำหน่ายได้ประมาณ 2 ปีแล้ว

“ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศ ทำให้มียอดขายค่อนข้างดี แต่เราก็พัฒนามาตลอด โดยส่วนหนึ่งของการพัฒนามาจากการแนะนำของ ซีพี ออลล์ ทั้งเรื่องรสชาติและโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งที่นี่เป็นที่เดียวที่เราทำโปรโมชั่นของแถมตามคำแนะนำและสามารถช่วยเรื่องยอดขายได้มาก”

 

โซลูชั่นการชาร์จไฟ ฟิล์มกระจกปกป้องหน้าจอ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อใหม่ล่าสุดจาก “เบลคิน”

“เบลคิน” ผู้นำระดับโลกด้านอุปกรณ์เสริมคุณภาพเกรดพรีเมียมสำหรับสมาร์ทโฟน ภูมิใจนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริมเกรดพรีเมียมประจำปี 2561 ครอบคลุมทั้งสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ไอทีทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Andriod เพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมระบบอีโคซิสเต็มรูปแบบใหม่และรูปลักษณ์ที่สวยงามทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน

 

รองรับการใช้งานกับ iPhone ได้อย่างลงตัว

 

  • ฟิล์มกระจกปกป้องหน้าจอสำหรับ iPhone ทุกรุ่น

ฟิล์มกระจกเกรดพรีเมียม 3 รุ่นใหม่จากเบลคิน เพื่อการสัมผัสทัชสกรีนที่ลื่นไหลอย่างแตกต่าง มีให้เลือกตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่น ScreenForce® TemperedGlass ที่มอบความแข็งแรงทนทานเป็นเลิศ, รุ่น ScreenForce® InvisiGlass™ Ultra มอบการปกป้องระดับอัลตร้าพร้อมความชัดใสดุจแก้วคริสตัล, และรุ่น ScreenForce® TemperedCurve กับดีไซน์โค้งสอดรับกับขอบหน้าจอโค้งเพื่อการปกป้องสมาร์ทโฟนได้ในทุกองศา พร้อมบริการติดตั้งด้วยเครื่องมือไฮเทค Belkin TrueClear® Pro Advanced Screen Care™ (TCP) ซึ่งเป็นโซลูชั่นติดฟิล์มกระจกที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและคว้ารางวัลชั้นนำมาแล้วมากมาย พร้อมให้บริการภายในศูนย์บริการที่ดำเนินการโดยช่างผู้ชำนาญซึ่งผ่านการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะ และสามารถติดตั้งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที เพื่อมอบผลลัพธ์การติดฟิล์มกระจกที่เนียนเรียบ เที่ยงตรงแบบมืออาชีพ พร้อมการรับประกันนานถึง 2 ปี

 

  • โซลูชั่นการชาร์จไร้สายที่รวดเร็ว

โซลูชั่นการชาร์จไร้สายช่วยให้คุณสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนพร้อมการประจุไฟได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือสำนักงาน เลือกได้ทั้งแบบวางนอน BOOST↑UP™ Bold Wireless Charging Pad และ แบบวางตั้งจากรุ่น BOOST↑UP™ Wireless Charging Stand ซึ่งทั้งสองรุ่นออกแบบให้รองรับเทคโนโลยีการชาร์จมาตรฐาน Qi พร้อม

ดีไซน์สวยหรูหราทันสมัย รูปทรงเพรียวบาง น้ำหนักเบา ให้คุณพกพาไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสบาย และมอบประสิทธิภาพชาร์จไวทันใจเพียงวางสมาร์ทโฟนลงบนแท่น ทั้งยังช่วยขจัดปัญหาสายชาร์จที่พันกันยุ่งเหยิงไม่ให้กวนใจผู้ใช้งานอีกต่อไป พร้อมการรับประกันนานถึง 3 ปีเมื่อลงทะเบียนผ่าน www.belkin.com

  • เชื่อมต่อเสียงได้อย่างง่ายดาย

นอกจาก Lightning Audio + Charge RockStar™ และ 3.5 mm Audio + Charge RockStar™ ที่สามารถต่อกับไอโฟนพร้อมชาร์จะและฟังเพลง/รับสายพร้อมกันได้ ยังมีสายต่อเครื่องเสียงจากเบลคิน รุ่น 3.5 mm Audio Cable With Lightning Connector ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อไอโฟนเพื่อฟังเพลงโปรดจากเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดายให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา

 

  • ชาร์จไฟได้ทุกที่ด้วยเพาเวอร์แบงก์พกพาคุณภาพสูง

เพาเวอร์แบงก์รุ่นใหม่จาก “เบลคิน” มีขนาดกะทัดรัด ง่ายต่อการพกพาและติดตัวไปกับคุณได้ทุกที่ ช่วยให้คุณใช้งานสมาร์ทโฟนได้ตลอดวัน มีให้เลือกได้หลากหลายตามการใช้งานไม่ว่าจะเป็นรุ่น Pocket Power Bank (กำลังไฟ 5K, 10K, 15K) สำหรับการใช้งานกับพอร์ต USB-A ทั่วไป และรุ่น BOOST↑ CHARGE™ Power Bank (กำลังไฟ 5K, 10K) สำหรับผู้ใช้งานไอโฟน ทุกรุ่นติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ตรวจสอบการจ่ายไฟและกำลังไฟที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความร้อนสะสมมากเกินและมอบความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการใช้งาน

 

โซลูชั่นที่ดีเยี่ยมที่สุดเพื่อสมาร์ทโฟน Andriod

“เบลคิน” นำเสนอเทคโนโลยีอันทรงประสิทธิภาพและการใช้งานระดับพรีเมียมแบบเดียวกันเพื่อผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Andriod รองรับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงชั้นนำหลายรุ่น อาทิ Samsung Galaxy Note9, Samsung Galaxy S9, 9+ และอีกมากมาย

  • ฟิล์มกระจกเพื่อการปกป้องระดับพรีเมียม

“เบลคิน”นำเสนอฟิล์มกระจกคุณภาพสูงรุ่น ScreenForce® Tempered Curve สำหรับสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นทั้ง Samsung Galaxy Note9, Samsung Galaxy S9, 9+ ที่ให้ความใสและการสัมผัสที่ดีพร้อมบริการติดตั้งด้วยเครื่องมือไฮเทค Belkin TrueClear® Pro Advanced Screen Care™ (TCP) และการรับประกันนานถึง 2 ปี

 

 

  • โซลูชั่นการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi

แท่นชาร์จไร้สายรุ่น BOOST↑UP™ Qi™ Wireless Charging Pad รองรับมาตรฐานการชาร์จ Qi มอบความสะดวกสบายทั้งเมื่ออยู่ที่บ้านและที่ทำงาน ด้วยดีไซน์ที่เพรียวบางพกพาสะดวก จึงสามารถนำติดตัวเดินทางไปได้ทุกที่และติดตั้งใช้งานได้ทันทีในทุกจุดหมายปลายทาง ให้คุณชาร์จไฟได้รวดเร็วทันใจด้วยระบบ Fast charge พร้อมจ่ายกำลังไฟสูงถึง 10W ปลอดภัยด้วยระบบตรวจสอบวัตถุแปลกปลอมที่วางบนแท่นชาร์จ เพื่อป้องกันการปล่อยกระแสไฟ หรือการเกิดความร้อนสะสมมากเกิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อแท่นชาร์จ สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่ไวต่อความร้อนได้

 

 

  • เพาเวอร์แบงก์ขนาดพกพาเพื่อการประจุพลังสมาร์ทโฟนได้ทุกที่

เพาเวอร์แบงก์รุ่น Pocket Power Bank (กำลังไฟ 5K, 10K, 15K) พร้อมเติมพลังให้สมาร์ทโฟนของคุณ หมดกังวลเรื่องการต้องมองหาปลั๊กไฟให้วุ่นวาย ให้คุณใช้งานสมาร์ทโฟนได้ยาวนานตลอดวันและสนุกกับไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวคุณได้อย่างไร้ขีดจำกัด

กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทั้งสำหรับ iPhone และ Android แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ “เบลคิน”ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชั่นที่ใช้งานง่าย รองรับอุปกรณ์ทั้งระบบ iOS และ Android ให้อุปกรณ์ของคุณสามารถประจุพลัง ใช้งานได้อย่างเต็มที่ พร้อมการปกป้องขั้นสูง และตอบสนองความต้องการได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างสมบูรณ์แบบ.