ชวนนักลงทุนไทยเปิดวิสัยทัศน์ จับจังหวะลงทุนหุ้นอเมริกา

“จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม” (GKFX Prime) บริษัทผู้นำด้านการลงทุนระดับโลก ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี จัดงานสัมมนา ‘เปิดโลกการลงทุนในหุ้นอเมริกา’ ชวนนักลงทุนไทยเปิดวิสัยทัศน์ จับจังหวะลงทุนหุ้นอเมริกาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ทั้งสงครามการค้า การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุน การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ตลอดจนการเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีการสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก หยง-ธำรงชัย เอกอมรวงศ์ เซียนนักลงทุนชื่อดังผู้มากประสบการณ์ ได้รับการยอมรับจากแวดวงนักลงทุนอย่างกว้างขวางที่จะมาวิเคราะห์เจาะลึกสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกาอันเป็นประโยชน์ต่อการลงทุน พร้อมด้วย ทู้งช์ อาคยู้ทช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจีเคกรุ๊ป (GK Group) ที่บินตรงสู่ประเทศไทย เพื่อร่วมเปิดวิสัยทัศน์การค้าการลงทุนในอีกหลายประเทศที่น่าสนใจ และ อนามิกา สินธนนพคุณ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค จีเคเอฟเอ็กซ์ ไพร์ม หญิงแกร่งแห่งโลกการลงทุนที่จะมาแนะนำ CFDs เครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนหุ้นต่างประเทศได้ง่ายขึ้น

งานสัมมนา “เปิดโลกการลงทุนในหุ้นอเมริกา” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขการเข้าร่วมได้ที่ https://www.gkfxprime.com/TH

“Myanmar Insight 2019” สัมมนาแห่งปีที่ไม่ควรพลาด !

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมาร์ จัดสัมมนาธุรกิจ“เมียนมา อินไซต์ 2019” (Myanmar Insight 2019) เจาะลึกทุกศักยภาพการค้าและการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทยที่สนใจจะเข้าไปทำธุรกิจ รวมถึงผู้ที่มีธุรกิจอยู่ในประเทศเมียนมาอยู่แล้วประสงค์ที่จะอัปเดทกฎระเบียบ ข้อบังคับในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ความเข้าใจต่อกฎหมาย ระบบภาษีใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์และเอื้อต่อการลงทุน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และข้อคิดจากนักลงทุนไทยที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจกับเมียนมาแบบเจาะลึก

สำหรับหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ อาทิ โอกาสการลงทุนในเมียนมาของนักลงทุนไทย,การทำธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม, แผนพัฒนาอย่างยั่งยืนของเมียนมา (Myanmar Sustainable Development Plan) และโครงการพัฒนาประเทศ Project Bank พลาดไม่ได้ สำหรับท่านที่สนใจกฎหมายใหม่ที่เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งจะส่งผลดีอย่างไรให้แก่ SMEs ไทย และถึงเวลาหรือยังที่จะขยายฐานการผลิตมายังประเทศเมียนมา จากผู้กำหนดนโยบายจากกระทรวงหลัก ๆ เช่น กระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์เศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม ธนาคารกลางแห่งเมียนมา เป็นต้น

งานสัมมนาธุรกิจ“เมียนมา อินไซต์ 2019” จัดขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 เวลา 08.00–17.30 น. ณ ห้องเวิลด์บอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล เวิลด์ ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมสัมมนาฯสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/Nob97egMmTLCFyec8 อัตราค่าลงทะเบียนท่านละ 2,500 บาท สำหรับสมาชิกสมาคมนักธุรกิจไทยในเมียนมา และราคา 3,500 บาท สำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนทั่วไป ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ myanmarinsight2019@gmail.com รับจำนวนจำกัด (สัมมนาเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทย สำหรับช่วงภาษาอังกฤษ จะมีอุปกรณ์แปลภาษาไทยสำหรับผู้เข้าร่วมงานที่ต้องการ)

เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Index 2019 สามปีซ้อน

บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ติดอันดับ ดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่สามติดต่อกัน จากการจัดอันดับ ดัชนี FTSE4Good Index โดย “ฟุซซี่ รัสเซล” (FTSE Russell) ซึ่งเป็นการจัดอันดับดัชนีระดับโลก เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ดัชนี FTSE4Good เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2544 เพื่อวัดผลการดำเนินงานของบริษัทต่าง ๆ ที่มีผลการดำเนินการอันโดดเด่นด้านความยั่งยืน อันประกอบด้วยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยดัชนี FTSE4Good ได้เริ่มนำมาใช้สำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กว่า 20 บริษัททั่วโลกตั้งแต่ปี 2559 ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาความยั่งยืนของ “เดลต้า” ได้ขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)

อนึ่ง การจัดอันดับด้านความยั่งยืน (ESG Rating) โดย FTSE Russell ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group: LSEG) เป็นการวัดผลงานและการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในหลายมิติ ประกอบด้วยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล นักลงทุนสามารถใช้ดัชนี FTSE4Good เป็นเครื่องมือสำหรับพิจารณาการลงทุนอย่างยั่งยืนและกรอบการทำงานสำหรับการมีส่วนร่วมและการดูแลเอาใจใส่ขององค์กร

ชอปสินค้าตรา “ปลาทอง” ราคาพิเศษที่ “แม็คโคร” ทุกสาขา

เครือเฮอริเทจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ต้อนรับเทศกาลสารทจีน ชวนคนไทยเชื้อสายจีนชอปสินค้า ตราปลาทอง ในราคาพิเศษ อาทิ เห็ดหอมแห้ง ขนาด 500 กรัม จากราคาปกติ 249 บาท ลดเหลือ 239 บาท, เห็ดหูหนูขาว ขนาด 300 กรัม จากราคาปกติ 158 ลดเหลือ 149 บาท, สาหร่ายเกรดเอ ขนาด 200 กรัม จากราคาปกติ 124 บาท ลดเหลือ 116 บาท, ฟองเต้าหู้ ขนาด 65 กรัม จากราคาปกติ 93 บาท ลดเหลือ 87 บาท และอีกหลากหลายรายการ

ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 สิงหาคม 2562 ที่แม็คโครทุกสาขา สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2813 0954-5 หรือติดตามกิจกรรมของเครือเฮอริเทจได้ที่ www.heritagethailand.com และ www.facebook.com/Heritagegroupth

คอนโดฯ หรู “ทากะ เฮาส์” พร้อมโอน 16–18 ส.ค.62

นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ นายชินจิ สึยามะ ผู้จัดการทั่วไปและตัวแทนในประเทศไทย บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) พร้อมด้วย ผู้บริหารจาก บริษัท คอนสตรัคชั่น ไลนส์ จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม “ทากะ เฮาส์” และ บริษัท ดิ พรอมิส คอนสตรัคชัน คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้บริหารการก่อสร้างโครงการฯ ร่วมตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการฯ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง “แสนสิริ” และ “โตคิว คอร์ปอเรชั่น” มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Stay Unique, Stay Diverse” ตอบการใช้ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งในแบบที่เป็นคุณ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนห้องเพียง 269 ยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างและหลากหลายทั้งคนไทยและต่างชาติ ปัจจุบันโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยเตรียมการจัดกิจกรรมโอนในวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2562

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมส่งมอบบริการ “แสนสิริ เซอร์วิส” สร้างประสบการณ์ด้านบริการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบอย่างครบวงจร โดย “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ทีมงานมืออาชีพที่จะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการและบริหารจัดการความต้องการให้กับลูกบ้านแสนสิริทั้งก่อนและหลังการอยู่อาศัยอย่างครบวงจร ทั้งการขาย ปล่อยเช่า ซื้อเพิ่ม หรืออยู่อาศัยเอง รวมถึงการดูแลบริหารโครงการและส่วนกลางในทุกรูปแบบด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี

เตรียมชมและเชียร์ MAMA CUP GO INTERNATIONAL CHAMPIONSHIP 2019

เพราะอยากส่งเสริมให้เยาวชนไทยและคนที่ชื่นชอบกีฬาหมากล้อม…ได้มีโอกาสประลองฝีมือแข่งขันกับนักกีฬาจากต่างชาติ งานนี้ ชัยลดา ตันติเวชกุล แห่งสหพัฒน์ฯ เลยขอเป็นแม่งานจัดงาน MAMA CUP GO INTERNATIONAL CHAMPIONSHIP 2019 ครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง โดยในปีนี้ได้ระดมนักกีฬากว่า 800 คน จาก 12 ประเทศ มาลุยแข่งขันกันอย่างเนืองแน่นครบทุกประเภท ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 สิงหาคม 2562 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 เตรียมตัวเชียร์กันได้เลย

“พฤกษา” โตสวนตลาด ยืนเป้ายอดขาย 5 หมื่นล้านบาท

alivesonline.com : “พฤกษา” โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกยังเติบโตแม้ในสภาวะตลาดชะลอตัว สร้างรายได้รวม 19,662 ล้านบาท เติบโต 3% ทำกำไรได้ 2,618 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อน เผยยอดขายไตรมาสสองเติบโต พร้อมตุนยอด Backlog ไว้รอรับรู้รายได้ในปีนี้รวม 17,435 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.60 บาท/หุ้น

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในครึ่งปีแรกว่า บริษัทฯ สามารถทำรายได้รวม 19,662 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 3% ทำกำไรได้ 2,618 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายอยู่ที่ 23,368 ล้านบาท ซึ่งจากรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นว่า “พฤกษา” ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 36,938 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 17,435 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานที่ยังเติบโตในช่วงครึ่งปีแรก “พฤกษา” จึงได้มีการพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2562 ให้ผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท

ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา “พฤกษา” ได้สร้างบรรยากาศการขายให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเปิดขาย “บ้านพฤกษา สุขุมวิท – บางปูเพียง 2 วัน สามารถทำยอดขายกว่า 810 ล้านบาท ทุบสถิติยอดขายบ้านแนวราบของพฤกษา และนับเป็นยอดขายสูงสุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบในไตรมาสที่ 2 รวมไปถึงการเปิดขายคอนโดมิเนียมริมน้ำ แชปเตอร์ เจริญนคร – ริเวอร์ไซด์” ในรอบ Open House เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เป็นจำนวนมาก จนสามารถปิดการขาย SOLD OUT ทั้งโครงการ รวมมูลค่ากว่า 4,800 ล้านบาท ได้อย่างรวดเร็ว

นางสุพัตรา กล่าวด้วยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลครึ่งปีแรกมีมูลค่า 200,650 ล้านบาท เติบโตลดลงจากปีก่อนถึง 13% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือน เม.ย – พ.ค. ที่ผ่านมามียอดโอนอยู่ที่ 41,906 ล้านบาท ลดลงถึง 24% ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดเกิดการชะลอตัวลง สำหรับแผนการดำเนินงานของ “พฤกษา” ในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนปรับกลยุทธ์ให้แข็งแกร่งเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดและสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง 26 โครงการ มูลค่า 26,952 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านการขายเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น Real Demand ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ผนวกกับการใช้กลยุทธ์การขายแบบครบวงจรผ่าน Sales Excellence อีกทั้งได้มีการวิเคราะห์ จัดการฐานข้อมูลลูกค้าและผู้ที่สนใจซื้อบ้าน (AI Machine Learning) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ยังได้มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยให้บริษัทฯ บรรลุตามเป้าหมายที่ยอดขาย 50,000 ล้านบาท และรายได้ 45,000 ล้านบาท ตามที่ตั้งไว้

“ไบโอฟาร์ม” เร่งสร้างแบรนด์บุกตลาดโลก

alivesonline.com : “ไบโอฟาร์ม” ฉลองครบรอบ 45 ปี เปิดแนวทางการดำเนินธุรกิจ ชูกลยุทธ์มุ่งสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกิดการยอมรับแบรนด์สินค้าไทย พร้อมลุยตลาด CLMV ต่อเนื่อง แย้มแผนจับมือพันธมิตรทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้ 

นายวีระพัฒน์ ถกลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในโอกาสครบรอบ 45 ปี ว่า บริษัทฯ มีแนวทางในการทำตลาดที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์มุ่งสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งซึ่งปัจจุบันนับว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในสินค้าของ “ไบโอฟาร์ม” มากขึ้น สามารถทำตลาดได้ดีและเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ

“ไบโอฟาร์ม” เน้นการสร้างนวัตกรรมสินค้าที่มีคุณภาพจากงานวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดการยอมรับในด้านคุณภาพและประสิทธิผลเป็นสำคัญ หากมองในภาพรวมซึ่ง “ไบโอฟาร์ม” ไม่ได้ทำตลาดเพียงแค่ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว โดยจำเป็นต้องมองในเรื่องของการส่งออกเพื่อขยายตลาดในต่างประเทศด้วย อุตสาหกรรมของประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง Thailand Brand หรือตราสัญลักษณ์สินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับ โดยจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ที่มีจุดแข็งและจุดขายแบบ Thailand Brand เพื่อผู้บริโภคและคู่ค้าในระดับนานาชาติเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าที่ผลิตโดยคนไทยมากขึ้น

ปัจจุบัน “ไบโอฟาร์ม” มีการทำตลาดผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.Carbapenem 2.Thermal sterile  3.ยาเม็ด 4.ยาน้ำ 5.Cephalosporin 6.ยาฮอร์โมน 7.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยมีช่องทางการขายในส่วนของโรงพยาบาลเป็นตัวชูโรง ซึ่งส่วนที่เหลือเป็นช่องทางร้านของยา โมเดิร์นเทรด และอีคอมเมิร์ซโดยมีหลักการบริหารงานที่ต้องการผลักดันให้สัดส่วนตลาดในแต่ละช่องทางใกล้เคียงกันให้ได้มากที่สุด

“ในปี 2562 บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด และบริษัท ไบโอแลป จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตจะมีการลงทุนด้านการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาด และให้ผู้บริโภคคนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพโดยใช้ผลการวิจัยและพัฒนาที่ถูกต้องน่าเชื่อถือเป็นหลัก”

นายวีระพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีการทำตลาดสินค้าใน 15 ประเทศ โดยอาเซียนถือเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพ จากจุดแข็งด้านคุณภาพและมาตรฐานการผลิต โดยที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการเข้าไปทำตลาดผ่านตัวแทนการค้าประเทศต่าง ๆ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีผลิตภัณฑ์ที่นำไปเป็นตัวชูโรงในการบุกตลาดคือ ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร Belcid Suspension และ ยาสามัญประจำบ้าน Belcid Forte ผลิตภัณฑ์กลุ่มแคลเซียม Calvin เวชภัณฑ์ในกลุ่มยาปฏิชีวนะ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีตลาดเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง ภูฏาน ศรีลังกา มองโกเลีย รวมทั้งตลาดแอฟริกา และตะวันออกกลางในบางประเทศ เช่น ไนจีเรีย เยเมน โดยบริษัท ฯ ยังคงเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายต่อไปของบริษัทฯ คือ การก้าวสู่ผู้นำในตลาดระดับภูมิภาค โดยมองว่าประเทศอินโดนีเซีย เป็นตลาดที่น่าสนใจและมีความท้าทายในการเข้าไปเปิดตลาดเป็นอย่างมาก

“สำหรับภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยังคงมีโอกาสท่ามกลางการแข่งขันค่อนข้างสูง อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยเต็มรูปแบบในอีก 2 ปีข้างหน้า การที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลที่มีผลต่อช่องทางการทำตลาดและการสร้างการรับรู้ในตัวสินค้ามากขึ้น โดยมูลค่าของตลาดในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 5–7%” นายวีระพัฒน์ กล่าวในตอนท้าย

 

เชิญ “กูรูลอจิสติกส์” ระดับโลกเปิดเวทีสัมมนา “Symposuim 2019”

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดย สำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ เตรียมจัดงานสัมมนาระดับนานาชาติ “Symposium 2019” ภายใต้แนวคิด “Transform and Collaborate towards Greater Success” เชิญกูรูด้านลอจิสติกส์จากองค์กรชั้นนำระดับโลกร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์และทิศทางของลอจิสติกส์ ตั้งเป้าเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology)  

Symposium เป็นงานสัมมนาระดับนานาชาติที่จัดขึ้นภายในงานแสดงสินค้าลอจิสติกส์ (TILOG-LOGISTIX) อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านธุรกิจบริการลอจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศ ระหว่างวิทยากรผู้มีความรู้ ประสบการณ์และมีบทบาทสำคัญในวงการลอจิสติกส์การค้าจากประเทศต่าง ๆ ที่มาร่วมแบ่งปันข้อมูลกับผู้ให้บริการลอจิสติกส์ ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมธุรกิจบริการของไทย

แนวคิดการจัดงาน Symposium ในปี 2562 คือ “Transform and Collaborate towards Greater Success” โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการลอจิสติกส์สมัยใหม่มาร่วมบรรยายให้ความรู้ ประกอบด้วย“นายเอ็ดวิน ฟาน โพเอลเจอร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานสารสนเทศ ลินฟอกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป ผู้ให้บริการลอจิสติกส์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย นายคัทสึฮิโกะ อุเมะทสึ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ยามาโตะโฮลดิ้ง และประธาน ยามาโตะ โกลบอล ลอจิสติกส์ ผู้ให้บริการจัดส่งอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ผู้สร้างโลโก้ Kuroneko (แมวดำ) นายดิกสัน โยว ที่ปรึกษาอาวุโสด้านลอจิสติกส์ สวิสล็อก เซาต์อีสต์ เอเชีย ผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบอัตโนมัติชั้นนำของโลก นายฌอน คูลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และนายมาร์ค มิลลาร์ วิทยากรชั้นแนวหน้าของเอเชียทางด้านกลยุทธ์การจัดการลอจิสติกส์และซัพพลายเชน

Symposium 2019 จะจัดขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ณ ห้องประชุมภิรัชฮอลล์ 3 ไบเทค บางนา ผู้ให้บริการลอจิสติกส์ ผู้ประกอบการค้าระหว่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมธุรกิจบริการที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมสัมมนาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ www.tilog-logistix.com หรืออีเมล tilogsymposium2019@gmail.com ภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2562

ภิรัชบุรีเตรียมเปิดตัว “SUNNY at Summer Lasalle”  

alivesonline.com : กลุ่มบริษัทภิรัชบุรี ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ระดับคุณภาพ เตรียมเปิดตัวคอมมิวนิตี้มอลล์ภายใต้ชื่อ “SUNNY at Summer Lasalle” ด้วยแนวคิด “Urban Eco-Living Community” บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 5,500 ตารางเมตร โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ “Summer Lasalle” ออฟฟิศแคมปัสเต็มรูปแบบแห่งแรกในย่านสุขุมวิท-บางนา ต่อยอดพื้นที่สร้างสุขให้กับพนักงานในโครงการและคนในย่านนี้ โดยภายในโครงการมีทั้งสวนสาธารณะ พื้นที่ชุมชน ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงศูนย์อาหาร ร้านอาหารและร้านค้าแบรนด์ดังกว่า 40 ร้าน

นายปิติภัทร บุรี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทภิรัชบุรี กล่าวว่า โครงการ “SUNNY at Summer Lasalle” ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ท้าทายของกลุ่มบริษัทภิรัชบุรี ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสุขและความสะดวกสบายให้กับคนในย่านลาซาลและบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราส่งเสริมให้เกิดขึ้นตลอดกับทุกโครงการของเรา โดยเราตั้งใจให้คอมมิวนิตี้มอลล์แห่งนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นที่พบปะเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างกัน โดยมีกิจกรรมที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางสร้างสุขนี้ได้โดยเท่าเทียมกัน

“SUNNY at Summer Lasalle” เป็นโครงการใหม่ล่าสุดของกลุ่มบริษัทภิรัชบุรีที่ให้ความสำคัญตั้งแต่แนวคิด การออกแบบ และขั้นตอนการก่อสร้าง จนถึงการคัดสรรร้านที่จะเข้ามาให้บริการในคอมมิวนิตี้มอลล์แห่งนี้ ภายใต้แนวคิด “Urban Eco-Living Community” ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย เน้นพื้นที่สีเขียว ความสุข และความยั่งยืน โครงการจึงออกแบบให้ดูเรียบง่ายและเป็นกันเอง โดยเน้นการใช้พื้นที่รับแสงธรรมชาติ สอดคล้องกับชื่อของ SUNNY ได้เป็นอย่างดี

 

นายจีรศักดิ์ นูขุนทศ สถาปนิก บริษัท แทนเดม อาร์คิเท็ค (2001) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรม กล่าวว่า เดิมทีพื้นที่ของโครงการเป็นนาข้าวมาก่อน เราจึงเลือกใช้วัสดุอย่างโครงเหล็ก แผ่นสังกะสี และไม้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรงนาสมัยก่อน แล้วเลือกใช้เหล็กรูปพรรณและกระจกในการเพิ่มกลิ่นอายของความโมเดิร์นให้เหมาะกับยุคสมัย โดยแนวทางการออกแบบโครงการ SUNNY จะคำนึงถึงเรื่องแสงแดดและทิศทางลมธรรมชาติ เพื่อลดการใช้พลังงานและการออกแบบภูมิทัศน์ยังเน้นการนำพรรณไม้ที่ให้ร่มเงา อีกทั้งยังเป็นการช่วยฟอกอากาศและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนอีกด้วย

ด้าน นายกิตติ วัชรรัตนกุล มัณฑนากร บริษัท พีไอเอ อินทีเรีย จำกัด บริษัทออกแบบตกแต่งภายในชื่อดังที่สร้างผลงานคุณภาพมาแล้วมากมายหนึ่งในผู้ดูแลการออกแบบภายในโครงการ SUNNY กล่าวว่า โครงการ SUNNY เป็นส่วนที่เชื่อมโยงและสนับสนุนโครงการหลัก “Summer Lasalle” โดยตั้งใจให้พื้นที่ทั้งหมดถูกออกแบบให้มีการเชื่อมต่อกันทั้งในแนวราบและแนวตั้งเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ อันเป็นแกนหลักที่ส่งเสริมโครงการให้มีความยั่งยืน ซึ่งแนวคิดในการออกแบบของเรายังเน้นการออกแบบแบบ Inclusive Design ที่ตั้งใจให้ทุกมุมของโครงการเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เพื่อตอบโจทย์เรื่องความเท่าเทียมตามวิสัยทัศน์ของภิรัชบุรี ในการเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาใช้พื้นที่ในโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โครงการ SUNNY at Summer Lasalle มีแผนเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 โดยรวบรวมร้านค้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านเพื่อสุขภาพ ร้านหนังสือและอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Summer Lasalle” อาคารสำนักงานออฟฟิศแคมปัสเต็มรูปแบบแห่งแรกในย่านสุขุมวิท-บางนา ตั้งอยู่บนถนนลาซาล เชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท เทพรัตนและแบริ่ง ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ในอนาคต ใกล้กับศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค รถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีบางนาและแบริ่ง) ทางด่วน และใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และย่านใจกลางกรุงเทพฯ