“เสียวหมี่” เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Mi MIX 3 5G และ Mi 9

alivesonline.com : “เสียวหมี่” (Xiaomi) ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิด ตัวสมาร์ทโฟน Mi MIX 3 5G ที่รองรับ 5G เป็นตัวแรก พร้อมกับเทคโนโลยี 5G ผ่านแพลตฟอร์ม Qualcomm® Snapdragon™ 855 ด้วยโมเดม Snapdragon X50 ที่จะปลดปล่อยประสบการณ์ 5G ให้แก่ผู้ใช้

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Mi 9 สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกับ AI triple camera และระบบการชาร์จไร้สายที่ดีที่สุด สามารถชาร์จไฟได้ถึง 20W และขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 855 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศแถบยุโรปตะวันตกก่อน เริ่มต้นที่ราคา 449 ยูโร (ประมาณ 16,200 บาท)

Xiaomi กับเส้นทางสู่ 5G

“เสียวหมี่” มองถึงการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้รองรับ 5G ตั้งแต่พฤษภาคม 2559 โดยตั้งทีมที่ลงลึกในเรื่องมาตรฐาน 5G และเริ่มค้นคว้าวิจัยนับแต่นั้นมา “เสียวหมี่” ได้เป็นผู้เข้าร่วมหลักในการทดสอบ 5G ซึ่งจัดโดย China Mobile และประสบความสำเร็จในการทดสอบเชื่อมต่อสัญญาณ n78 ในเดือนกันยายน 2561 และทดสอบคลื่น mmWave (คลื่นมิลลิเมตร) เสร็จเรียบร้อยหนึ่งเดือนหลังจากนั้น โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่เจ้าในโลกเท่านั้นที่สามารถทำได้

ด้วยภารกิจที่มุ่งมั่นจะสร้างสรรค์นวัตกรรม “เสียวหมี่” ได้ริเริ่มพัฒนาความร่วมมือด้านยุทธศาตร์ 5G กับผู้ให้บริการเครือข่ายที่สำคัญทั่วโลก เช่น 3, Sunrise, TIM, Vodafone และอีกหลายราย ซึ่งลำดับต่อไปที่ “เสียวหมี่” ต้องการจะทำคือ สร้างอุปกรณ์ 5G ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ โดยการจะไปให้ถึงจุดนั้นได้ “เสียวหมี่” ได้พยายามอย่างหนักกับทางผู้ให้บริการเหล่านี้ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา Mi MIX 3 5G และวันนี้ที่ได้ประกาศเปิดตัว Mi MIX 3 5G อย่างเป็นทางการ “เสียวหมี่” ได้ กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่สามารถผลิตโทรศัพท์ 5G ออกมาวางจำหน่ายจริงได้ โดยในงานเปิดตัว “เสียวหมี่” ได้ทำการแสดงความพร้อมของ Mi MIX 3 5G ด้วยการโชว์ให้เห็นกันแบบสด ๆ จากเครือข่าย 5G ของ Orange ประเทศสเปน

นายหวัง เสียง รองประธานอาวุโส “เสียวหมี่” กล่าวว่า “เสียวหมี่” ได้ทุ่มเทกำลังความสามารถในการพัฒนาสมาร์ทโฟน 5G และ Mi MIX 3 5G ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสำหรับทุกคน พวกเรามีความยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมทำงานกับเหล่าพาร์ทเนอร์ และทำให้ 5G เป็นจริงได้สำหรับผู้คนอีกมากมายบนโลกนี้

Mi MIX 3 5G – สมาร์ทโฟนทรงประสิทธิภาพที่พร้อมสำหรับเครือข่ายในอนาคต

จากการผสมผสาน Qualcomm® Snapdragon™ X50 โมเดมสำหรับ 5G ทำให้ Mi MIX 3 5G สามารถเชื่อมต่อกับคลื่น sub-6GHz ที่รองรับความเร็วในการดาวน์โหลดระดับ gigabit-class ซึ่งเร็วกว่าเครือข่าย 4G หลายสิบเท่า นอกจากนี้ Mi MIX 3 5G ยังเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเครื่องแรก ๆ ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตอันทรงพลังพลังอย่าง Qualcomm Snapdragon 855 สามารถทำงานหนักได้อย่างยาวนานและมีเสถียรภาพ ด้วยระบบระบายความร้อน Hybrid Cooling System ที่ถูกออกแบบมาใหม่ทั้งหมดเพื่อ Mi MIX 3 5G โดยเฉพาะ

Snapdragon 855 และระบบระบายความร้อนขั้นสูง

ภายใน Mi MIX 3 ติดตั้งแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 855 ซึ่งใช้สถาปัตกรรมการผลิตที่ 7 นาโนเมตร มีซีพียู Qualcomm Kryo 485 ที่ประกอบไปด้วยตัวประมวลผล 8 แกน เพื่อความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานซึ่งการประมวลผลแกนเดี่ยว (Single Core) เร็วขึ้นจากรุ่นที่แล้วสูงถึง 45% ตัวประมวลผลกราฟิก Qualcomm Adreno™ 640 ก็ถูกพัฒนาให้ทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 20% และตัวประมวลผลด้าน AI อย่าง Qualcomm AI Engine เจเนอเรชั่นที่ 4 ก็ทำงานได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า

นายคริสเตียโน่ เอม่อน ประธานบริษัท Qualcomm Incorporated กล่าวว่า พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมทำงานกับ “เสียวหมี่” มาอย่างยาวนาน ช่วยกันนำนวัตกรรม 5G ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ผ่านสมาร์ทโฟนเรือธง Mi MIX 5G, Mi MIX 3 5G และ Mi 9 ที่มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Snapdragon 855 นอกจากจะมี Qualcomm AI Engine รุ่นที่ 4 ที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนในมือคุณให้กลายเป็นสุดยอดผู้ช่วยส่วนตัวแล้ว ยังมีตัวประมวลผล สัญญาณภาพ Qualcomm Spectra Computer Vision ISP ที่จะช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้ระดับเดียวกับการถ่ายหนัง ภาพยนตร์ และ Snapdragon Elite Gaming จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนในมือให้กลายเป็นเครื่องเล่นเกมสุดแรงไปในทันที

เพื่อรองรับเหล่าแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลระดับสูงและทำงานเป็นระยะเวลานาน เช่น เกมออนไลน์มัลติเพลเยอร์ในปัจจุบัน “เสียวหมี่” ได้พัฒนาระบบระบายความร้อน Hybrid Cooling System สำหรับ Mi MIX 3 5G ขึ้นมาโดยเฉพาะ มีการนำเอาวัสดุนำความร้อนอย่าง Rogers® HeatSORB™ ซึ่งใช้วิธี Phase Change Effect ในการควบคุมอุณหภูมิ สามารถจับความร้อนที่เกิดขึ้นจากตัวประมวลผล และชะลอการเพิ่มของอุณหภูมิออกไปได้อีก และด้วย Passive Heat Pipe ซึ่งประกอบไปด้วย แกรไฟต์ 6 ชั้น ช่วยกระจายความร้อนออกไปได้เร็วกว่าแผ่นแกรไฟต์คู่ที่ใช้กันทั่วไปได้ถึง 3 เท่าอีกด้วย

คุณภาพการถ่ายภาพระดับโลก

Mi MIX 3 5G ได้สืบทอดกล้องคู่ AI ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลจาก Mi MIX 3 ซึ่งได้รับคะแนนด้านภาพถ่ายจาก DxOMark สูงถึง 108 และด้วยฟีเจอร์ทางด้าน AI ที่ล้ำหน้าและการถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ช้าถึง 960fps ทำให้ผู้ใช้เริ่มเกิดความคาดหวังและเชื่อมั่นในกล้องของกล้องจาก Xiaomi ส่วนการเซลฟีนั้น Mi MIX 3 5G มาพร้อมกับกล้องหน้าคู่ ความละเอียด 24+2 ล้านพิกเซล ใช้สุดยอดเซนเซอร์ Sony IMX576 ในการจับภาพได้ความละเอียดที่เหนือกว่า ซึ่งการประมวลภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกจัดการโดย Qualcomm Spectra™ 380 ISP ทำให้ประมวลผลภาพถ่าย แต่ละรูปออกมาได้อย่างรวดเร็ว ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า สามารถถ่ายรูปได้มากขึ้นกว่าเดิมต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

สไลด์ดีไซน์ เปิดประสบการณ์แสดงผลแบบเต็มหน้าจอ

Mi MIX 3 5G ใช้กลไกการเลื่อนสไลด์ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ “เสียวหมี่” ให้ประสบการณ์สัมผัสที่ดีเยี่ยมและปรับแต่งได้หลากหลาย ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้การสไลด์เป็นการเรียกใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของโทรศัพท์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับสายเรียกเข้า หรือเปิดแอปฯ กล้องขึ้นมา และด้วยสไลด์ดีไซน์นี้ทำให้ขอบข้างของเครื่อง มีความบางมากเป็นพิเศษ และมีสัดส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่อง (Screen-To-Body Ratio) ที่ใหญ่มากเกินกว่าใคร สิ่งที่จะเห็นด้านหน้าจะมีเพียงหน้าจอที่สวยงามของ Samsung AMOLED ซึ่งมีขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 FHD+ ที่สัดส่วน 19.5:9

Mi MIX 3 5G ราคาเริ่มต้นที่ 599 ยูโร (ประมาณ 21,600 บาท) มี 2 สีให้เลือกได้แก่ Onyx Black และ Sapphire Blue

Mi 9 – สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกล้อง AI Triple Camera

Mi 9 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตัวแรกจาก “เสียวหมี่” ที่มาพร้อมกับกล้องหลัง AI Triple Camera ซึ่งมีกล้องหลักที่ใช้เซนเซอร์ถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ของ Sony IMX586 ด้วยขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ ½” ผู้ใช้สามารถเลือกถ่ายภาพ ที่ความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล หรือปรับเปลี่ยนให้ถ่ายภาพได้สวยใสและสว่างขึ้นในสภาพแสงน้อยได้ โดย Mi 9 จะรวมพิกเซลจาก 4 เป็น 1 เพื่อเพิ่มขนาดพิกเซลต่อจุดให้ใหญ่ขึ้นเป็น 1.6 μm ซึ่งจะรับแสงได้ไวกว่าเดิม โดยตัว AI Triple Camera นี้จะประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องเทเลซูม 12 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ผ่านการทดสอบจาก DxOMark เว็บไซต์ชื่อดังด้านการทดสอบอุปกรณ์ถ่ายภาพว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องดีที่สุดที่มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งทำคะแนนไปได้ถึง 107 คะแนน นอกจากนี้ ยังทำคะแนนด้านการถ่ายวิดีโอมากถึง 99 คะแนน ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับของ DxOMark อีกด้วย

การออกแบบดีไซน์ใน Mi 9

Mi 9 มีดีไซน์ฝาหลังแบบโค้งมนรอบด้าน ทำให้สามารถจับถือได้ถนัดและสบาย ใช้กระบวนการขั้นสูงในการลงสีให้ฝาหลัง จนได้สีรุ้งแบบ Holographic ระยิบระยับสะกดตา แตกต่างในทุกครั้งที่หยิบจับขึ้นมามอง โดยดีไซน์แบบโค้งมนรอบด้านนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจากสถาปนิกชื่อดัง Antoni Gaudi และได้รับการรับรองจากสถาบัน The Gaudi Academia of Knowledge ขณะที่ด้านหน้าของ Mi 9 ได้เลือกใช้การแสดงผลของ Samsung AMOLED Dot Drop ที่มีขนาดหน้าจอ 6.39 นิ้ว สัดส่วน 19.5:9 และภายใต้หน้าจอนี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาเพิ่มเติมให้สามารถปลดล็อกได้รวดเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 25%

Mi 9 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศยุโรป ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 449 ยูโร (ประมาณ 16,200 บาท) สำหรับรุ่น 6GB+64GB และราคา 499 ยูโร (ประมาณ 18,000 บาท) สำหรับรุ่น 6GB+128GB มี 3 สีให้เลือก ได้แต่ สีดำ Piano Black, น้ำเงิน Ocean Blue, และม่วง Lavender Violet

Mi LED หลอดไฟอัจฉริยะ

“เสียวหมี่” ยังมีการเปิดตัวหลอดไฟอัจฉริยะ Mi LED เพิ่มเติมระหว่างการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สามารถปรับเปลี่ยนสีได้มากถึง 16 ล้านสี เพิ่มลดอุณหภูมิและความสว่างของแสง ได้โดยการควบคุมผ่านแอป Mi Home ซึ่งทำงานร่วมกับ Google Assistant และ Amazon Alexa ได้ และเตรียมรองรับ Apple Home Kit ภายในไตรมาสที่สองของปี 2019 อีกด้วย โดยหลอดไฟ Mi LED ได้เปิดวางจำหน่ายแล้วในยุโรปที่ราคา 19.9 ยูโร (ประมาณ 720 บาท).

 

“กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ทุ่มงบโปรโมชั่นกระตุ้นเที่ยวไทย


‘อธิศ รุจิรวัฒน์’ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับ ‘ดร.กฤตย์ พัตรปาล’ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ  บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด จัดแคมเปญ “งานเดียว เที่ยวคุ้ม ด้วยบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์” ในงาน “ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 50” ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2562 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มอบสิทธิพิเศษถึง 4 คุ้มคือ คุ้ม 1 ส่วนลดเพิ่มสูงสุด 35% สำหรับแพ็กเกจโรงแรมและร้านค้าที่ร่วมรายการ คุ้ม 2 ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15,000 บาท (ลงทะเบียนก่อนทำรายการ) คุ้ม 3 แลกรับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 10,790 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบตามเงื่อนไข พิเศษ ผู้มียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรสูงสุด 2 ท่านต่อวัน รับบัตรกำนัลห้องพักรวมมูลค่า 516,000 บาท คุ้ม 4 ทุกการใช้จ่าย 1,000 บาท รับคูปองชิงโชคลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบิน, แพ็กเกจท่องเที่ยว หรือบัตรรับประทานอาหาร รวมมูลค่า 272,640 บาท

ราชสกุลจิตรพงศ์ยื่นฟ้องศาลปกครองกรณี คชก. กทม.

alivesonline.com : ตามที่ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) มีมติเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA Report) ของโครงการอาคารชุดที่ตั้งอยู่ติดประชิดกับพระตำหนักปลายเนินซึ่งเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรมของประเทศ นั้น

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธุ์ 2562 เวลา 13.00 น. ผู้ฟ้องคดีจำนวน 19 ราย นำโดยผู้ฟ้องคดีจำนวน 19 ราย นำโดยหม่อมราชวงศ์จักรรถ จิตรพงศ์ (ที่ 2 จากซ้าย) หม่อมราชวงศ์ กัลยา ติงศภัทิย์ (ที่ 2 จากขวา) หม่อมหลวงสุธานิธิ จิตรพงศ์ (ขวาสุด) และนางอภิรดี พิชัยศรทัต (ซ้ายสุด) ตัวแทนราชสกุลจิตรพงศ์ พระทายาทในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางกรณีที่ คชก.กทม. โดยผู้ฟ้องคดีได้พิจารณาแล้วเห็นว่า มติของ คชก.กทม. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีข้อบกพร่องอย่างร้ายแรงและผิดพลาดในการพิจารณา มติดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อพระตำหนักปลายเนินอันเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรมของประเทศได้

พระตำหนักปลายเนินเป็นอดีตที่ประทับในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ผู้ทรงสร้างสรรค์ผลงานทั้งสถาปัตยกรรม ทัศนศิลป์ วิจิตรศิลป์ นาฏศิลป์ ไว้มากมายจนทรงได้รับการเชิดชูพระเกียรติยศโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะบุคคลสำคัญของโลกเมื่อปี 2506 โดยทรงเป็นคนไทยคนที่สองที่ได้รับการยกย่องในระดับสากลเช่นนี้

ในบริเวณพระตำหนักปลายเนินมีสถาปัตยกรรมสำคัญ ๆ รวมทั้งผลงานศิลปะมากมายหลายชิ้นล้วนที่แต่มีความสำคัญต่อประเทศไทย ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของมูลนิธินริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อมอบ “รางวัลนริศ” เพื่อให้เป็นเกียรติและสนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่นิสิต นักศึกษาและนักเรียนจากทั่วประเทศ ในการศึกษา เรียนรู้ และวิจัยศิลปไทยทุกแขนงมาเป็นเวลามากกว่า 50 ปี เพื่อส่งเสริมศิลปินที่มีความรู้ความสามารถให้สืบสานงานศิลป์คู่กับแผ่นดินไทย

พระทายาทในสมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ หรือสมเด็จครูวางผังแม่บทอนาคตของบ้านปลายเนินด้วยการจัดทำทะเบียนภาพแบบร่างฝีพระหัตถ์ ศิลปวัตถุโบราณที่ทรงสะสม และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันส่วนพระองค์ อีกทั้งเตรียมการซ่อมแซมและอนุรักษ์อาคารสำคัญภายในบริเวณทั้งหมด ได้แก่ ตำหนักไทย ตำหนักตึก เรือนคุณย่า และเรือนละคร ด้วยความตั้งใจว่าจะได้อนุรักษ์เพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ศูนย์เรียนรู้ และสถานที่อบรมที่สาธารณชนทั่วไปสามารถเข้าชมและศึกษาได้ในวันข้างหน้า

 

“คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” จากไอเดียสู่แนวปฏิบัติ

alivesonline.com : บริษัท ซีพีแรม จำกัด ร่วมกับ สาขามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมดำเนินโครงการการประกวดคลิปวิดีโอภายใต้หัวข้อ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องลดความสูญเปล่าของอาหารในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนสำคัญในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในการลดความสูญเปล่าของอาหาร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม โดยการแชร์ไอเดีย สร้างพลังผ่านวิดีโอคลิปความยาว 3 นาที ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษา ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการกว่า 259 ผลงาน

‘วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด

โครงการดังกล่าวยังได้มีการดำเนินกิจกรรมสร้างความตระหนักในเรื่องลดความสูญเปล่าของอาหาร หรือ Food Waste ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศกว่า 20 แห่ง รวมถึงได้จัดงานประกาศรางวัลการประกวดคลิปวิดีโอภายใต้หัวข้อ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” ณ โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยภายในงานดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ‘วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด และ ‘ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์’ ประธานสาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบรางวัล

‘ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์’ ประธานสาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

สำหรับผลการประกาศรางวัลคลิปวิดีโอภายใต้หัวข้อ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” ระดับมัธยมศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม ABSTRACT จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ชื่อเรื่อง “Eat Time Trash” (รับประทาน กาลเวลา อนาคต) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม HOT MONEY จากโรงเรียนสตรีวิทยา ชื่อเรื่อง “PLEDGE” และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม Inspiration จากโรงเรียนสภาราชินี จ.ตรัง ชื่อเรื่อง “พ้นภัยต่อ Food Waste” พร้อมด้วยรางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ ทีม Work จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เรื่อง WFoodWar” กับทีม Hazel Digital จาก โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม เรื่อง “Vision”

ทีม ABSTRACT จากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน

ส่วนผลการประกาศรางวัล ระดับอุดมศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม ทำไมไม่กินข้าวหลามในตู้เย็น จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ชื่อเรื่อง “ทิ้งกันไป ใครเจ็บสุด” รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม G-Noon Film จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ชื่อเรื่อง “อ้าวเดือน” รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม 3511 จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ชื่อเรื่อง “ME” พร้อมด้วยรางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ ทีม Satuboon Production (สาธุบุญ โปรดักชั่น) จาก มหาวิทยาลัยรังสิต เรื่อง “ขาหมู ไม่ใช่เพลงแต่เป็นข้าว” กับทีม ตาปรือ โปรดักชั่น จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เรื่อง “The Value”

ทีม ทำไมไม่กินข้าวหลามในตู้เย็น จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์, คงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับภาพยนตร์, คมกฤษ ตรีวิมล ผู้กำกับภาพยนตร์ และสุปราณี ชนะชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพีแรม จำกัด ร่วมเสวนาในหัวข้อ “สถานการณ์ Food Waste กับการเปลี่ยนแปลง” โดยมี วีรยุทธ ล้อทองพานิชย์ Executive Producer ร่วมสร้างแรงบันดาลใจในหัวข้อ “เทคนิคการทำหนังสั้นสร้างสรรค์สังคมในยุคดิจิทัล” อีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์, คงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับภาพยนตร์, คมกฤษ ตรีวิมล ผู้กำกับภาพยนตร์ และสุปราณี ชนะชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพีแรม จำกัด ร่วมเสวนาในหัวข้อ “สถานการณ์ Food Waste กับการเปลี่ยนแปลง”

วีรยุทธ ล้อทองพานิชย์ Executive Producer ร่วมสร้างแรงบันดาลใจในหัวข้อ “เทคนิคการทำหนังสั้นสร้างสรรค์สังคมในยุคดิจิทัล”

ทั้งนี้ “ซีพีแรม” ดำเนินธุรกิจเคียงข้างสังคมอย่างเกื้อกูล ยังคงเดินหน้าสร้างความตระหนักในการลดความสูญเปล่าของอาหาร ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ลุยปลูกฝังสังคมลดการกินทิ้งขว้าง เพื่อยกระดับสู่ความยั่งยืนทางอาหาร โดย “ซีพีแรม” ยังคงใช้รายได้ 1% ของยอดขายหรือปีละ 150-200 ล้านบาท เดินหน้าวิจัยเพื่อให้เกิดนวัตกรรมอาหารรากฐานแห่งความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารและร่วมส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีให้ผู้บริโภคทุกคน

 

“ต๋อย ไตรภพ” เปิดตัวพ็อคเก็ตบุ๊ก “ครัวคุณต๋อย ไม่กิน…ถือว่าผิด 20 จังหวัดภาคกลาง”


alivesonline.com :
 
“ต๋อย ไตรภพ” ปลื้ม เทศกาลอาหาร “AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4” ยังได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ คาดมีผู้ร่วมงานประมาณ 5 แสนคน สร้างเงินหมุนเวียนภายในงานประมาณ 300-500 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊ก “ครัวคุณต๋อย ไม่กิน…ถือว่าผิด 20 จังหวัดภาคกลาง” สร้างประสบการณ์ด้านอาหารให้แฟนรายการประทับใจเต็มอิ่ม

 นายไตรภพ ลิมปพัทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์น โปรเจค จำกัด และ ประธานกรรมการ บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด ผู้ผลิตและดำเนินรายการโทรทัศน์ประเภทแนะนำอาหารแบบปกิณกะบันเทิง “ครัวคุณต๋อย” ในฐานะผู้จัดงาน “AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4” ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ยังคงเอกลักษณ์ด้วยการออกบูทของร้านอาหารดังต้นตำรับ เฉพาะร้านอาหารที่เคยมาออกรายการ “ครัวคุณต๋อย” ประมาณ 200 บูท รวมถึงร้านอาหารนานาชาติซึ่งได้รับเชิญให้มาร่วมงานเป็นครั้งแรกหลังจากที่มีแฟน ๆ รายการเรียกร้องเป็นจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานประมาณ 5 แสนคน สร้างเงินหมุนเวียนภายในงานประมาณ 300-500 ล้านบาท

การจัดงานครั้งนี้ยังเพิ่มเติม Live Exhibition ที่จะทำให้ผู้ร่วมงานได้ซึมซับเนื้อหาอย่างใกล้ชิด ในรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่เกี่ยวกับอาหารไทยที่ตกทอดและส่งต่อภูมิปัญญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงแนวทางสานต่อสู่อนาคต ตลอดจนเมนูหายากและวัตถุดิบสุดพิเศษ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารนานาชาติที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ รวมไปถึงการพัฒนาเมนูในอดีตสู่เมนูใหม่ในสไตล์ฟิวชั่นอย่างลงตัว โดยคาดว่าจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงาน

“ความพิเศษและแตกต่างจริง ๆ ของ ครัวคุณต๋อย EXPO คือมีร้านในงานจำนวนมากจากทั่วประเทศที่ไม่เคยไปออกงานที่ไหนมาก่อน จึงอยากให้แฟน ๆ ได้มาชมและชิม เรียกได้ว่ามางานนี้งานเดียวเหมือนได้ไปร้านอาหารทั่วประเทศ ขณะที่เมนูหายาก ๆ ก็มีให้ชิมกันจุใจ เช่น ขนมหวานโบราณที่ต้องใช้เวลาทำกัน 3-4 วัน น้ำพริก หรือแกงที่หากินแทบไม่ได้แล้วในปัจจุบัน หรือแม้แต่เมนูธรรมดา ๆ แต่มีรสชาติที่แตกต่างและโดดเด่นจากที่เคยชิมมาก่อน รวมถึงร้านอาหารนานาชาติที่เราคัดมาเป็นพิเศษ”

นายไตรภพ กล่าวด้วยว่า สำหรับพิธีเปิดงาน “AOVA Presents ครัวคุณต๋อย EXPO SEASON 4” อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี โดยมีดารานำจากละครเรื่อง “กลลวงทวงหนี้รัก” สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 คือ “อ้วน รังสิต ศิรนานนท์” “เม นิศาชล ต้วมสูงเนิน” ร่วมงานพร้อมพูดคุย นอกจากนั้น ยังมีเซอร์ไพรส์สำหรับแฟน ๆ ด้วยการเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊ก “ครัวคุณต๋อย ไม่กิน…ถือว่าผิด 20 จังหวัดภาคกลาง Presented by อัมพวา กะทิ 100%” ณ บูท ครัวคุณต๋อย Shop โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารบริษัท เอเชียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด ร่วมในพิธี

 พ็อคเก็ตบุ๊ก “ครัวคุณต๋อย ไม่กิน…ถือว่าผิด 20 จังหวัดภาคกลาง” มีจำนวน 260 หน้า เป็นการรวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจของร้านอาหารระดับตำนาน 20 จังหวัดภาคกลางที่เคยออกรายการ “ครัวคุณต๋อย” และเคยตีพิมพ์ในนิตยสาร “ครัวคุณต๋อย” โดยเป็นการคัดเลือกร้านเด็ดร้านดังร้านดีโซนภาคกลางตามมาตรฐานของ “ครัวคุณต๋อย” พร้อมเจาะลึกถึงทุก ๆ เรื่องราวของเมนูแสนอร่อย ความเป็นมาของร้านและเมนู รวมถึงช่องทางการติดต่อร้านและการเดินทางไปยังร้าน เพื่อให้ผู้อ่านได้รับทั้งประโยชน์และความสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ

 

 

โคลนพอกหน้า “PATAPEE Clay Mask” พร้อมเปิดตัวในงาน “ASEANbeauty 2019”

งาน “ASEANbeauty 2019” ที่สุดแห่งงานแสดงสินค้าความงามและสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ศูนย์กลางธุรกิจความงามสำหรับทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีจนถึงธุรกิจไซส์ L ภายในงานพบกับผลิตภัณฑ์ความงาม สุขภาพ และบริการที่หลากหลายจากทั้งไทยและต่างประเทศ พบแบรนด์ชั้นนำ พร้อมนักธุรกิจ ผู้ซื้อ ผู้ร่วมชมงาน จาก 60 ประเทศทั่วโลก เชิญร่วมสัมผัสความลับสุดมหัศจรรย์จากแร่ธรรมชาติ สู่ 3 เนื้อสัมผัสแห่งปฐพี “PATAPEE Clay Mask” (ปฐพี เคลย์ มาส์ก) โคลนพอกหน้าเกรดพรีเมียม ด้วยการเดินทางกว่า 200 ล้านปี เปลี่ยนเถ้าภูเขาไฟทับถมสู่แร่ Bentonite เนื้อบริสุทธิ์ สู่เนื้อครีมเนียนนุ่มที่ทำให้การมาส์กหน้าเป็นมากกว่าการฟื้นบำรุง ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย จากอนุภาคของแร่ Bentonite เนื้อละเอียด กระจายตัวสู่ชั้นเซลล์ผิว ดูแลผิวหน้าให้เนียน นุ่ม กระชับ คงความชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน ไร้ริ้วรอย ทำให้ผิวดูสุขภาพดีอ่อนกว่าวัย ผสานกับที่สุดแห่งคุณค่า ด้วยส่วนผสมสำคัญจากธรรมชาติและแร่ธาตุบริสุทธิ์นานาชนิด ทั้ง ซิลิกา ควอตซ์ แคลไซต์ และเฟลด์สปาร์ ต่อต้านแบคทีเรียในชั้นเซลล์ผิว ดูดซับสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน กระชับรูขุมขน ลดการเกิดสิว ฝ้า กระ ให้ริ้วรอยดูตื้นและจางลง ฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมากระจ่างใส สร้างเสน่ห์ความงามอันน่าหลงใหลจากธรรมชาติที่แท้จริง

รับรู้ความมหัศจรรย์ พร้อมไขความลับแห่งปฐพีกับ “PATAPEE Clay Mask” โคลนพอกหน้าเกรดพรีเมียม ด้วยตัวคุณเองได้ที่งาน ASEANbeauty 2019 วันที่ 2-4 พฤษภาคม 2562 ณ ไบเทค บางนา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0 2036 0500

“เดอร์มาลิงค์” เปิดตัว นวัตกรรมการสลายไขมันเฉพาะจุดด้วยความเย็น

‘นภันต์ แพร่ภัทร’ (ที่ 3 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดอร์มาลิงค์ จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพของเมืองไทย  เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “Cryo-v & Cryo-Fit” นวัตกรรมการสลายไขมันเฉพาะจุดด้วยความเย็น เทคโนโลยี CRYOLIPOLYSIS (ไครโอไลโปซิส) ที่มีความปลอดภัยสูง ทุกขั้นตอนล้วนผ่านการทดลองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำงานด้วยการส่งคลื่นอุณหภูมิติดลบ แทรกผ่านผิวหนังสู่ชั้นไขมันจากแรงดูดที่เหมาะสม เกิดความเย็นระดับ -3 ถึง -9 องศาเซลเซียส สลายเซลล์ไขมันอย่างเป็นธรรมชาติ ถูกออกแบบตัวเครื่องด้วยแนวทางการแพทย์สมัยใหม่ สร้างรูปลักษณ์เฉพาะตัว น้ำหนักเบา ตอบทุกโจทย์การใช้งาน สไตล์ FREEZ YOUR FAT OFF เย็นติดลบ จุดจบทุกไขมัน โดยมี ‘ซอ จียอน’ (ที่ 3 จากซ้าย) ให้เกียรติร่วมงาน ณ โรงแรม บางกอก แมริออท เมื่อเร็ว ๆ นี้

แป้งผสมรองพื้น เนื้อเนียนละเอียด KMA Bright Up

เครื่องสำอาง KMA (เค เอ็ม เอ) จากค่าย OCC Group แนะนำ KMA Bright Up Powder Cake SPF 30 PA++  แป้งผสมรองพื้น เนื้อเนียนละเอียด มาพร้อมเทคโนโลยี Pinkish Bright ที่มีอนุภาคประกายมุก มอบความสว่างกระจ่างใส อำพรางริ้วรอย และช่วยปรับสีผิวให้แลดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ  พร้อมทั้งควบคุมความมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ติดทนนาน  ในราคาเพียง 169 บาท วางจำหน่ายแล้ว ณ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ

โอซีซีสานพลังประชารัฐ พัฒนาความรู้ สู่เส้นทางสายอาชีพ


‘ธรรมรัตน์ จังศิริวัฒนา’
ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรการบิน มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ให้การต้อนรับ ‘สุวภา ศิริวรรณ’หัวหน้าหน่วยอบรมการแต่งหน้าและพัฒนาบุคลิกภาพ บมจ.โอซีซี ในโอกาสนำทีมผู้เชี่ยวชาญมอบความรู้ด้านการดูแลผิวและการแต่งหน้าให้เหมาะสมกับวัยและกาลเทศะ เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี ให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สถาบันพัฒนาบุคลากรการบิน ตามนโนบายโครงการ “โอซีซีสานพลังประชารัฐ พัฒนาความรู้ สู่เส้นทางสายอาชีพ” ณ ห้องประชุมเกษมสันนิบาต อาคารเกษมนครา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เมื่อเร็ว ๆ นี้

“พรูซูเปอร์ ลิงค์” เจาะกลุ่มคนที่ไม่ชอบประกัน

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “พรูซูเปอร์ ลิงค์” แผนความคุ้มครองชีวิตควบการลงทุนสุดคุ้ม ซึ่งพัฒนามาจากผลการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าในแคมเปญ “ประกัน…สำหรับคนไม่ชอบประกัน”

แคมเปญ “ประกัน…สำหรับคนไม่ชอบประกัน” ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นที่แท้จริงจากลูกค้าชาวไทยที่มีต่อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ทั้งยังช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อการประกันชีวิตอีกด้วย สำหรับแคมเปญออนไลน์รายการนี้ ได้เริ่มจัดทำตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นถึง 3,000 คน และมีผู้รับชมวิดีโอผ่าน YouTube และ Facebook ตลอดแคมเปญรวม 3,623,422 ครั้ง

นายอามัน คาพัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารลูกค้าและการตลาด “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย” กล่าวว่า “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานโดยยึดลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมนำเสนอและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ โดย “พรูซูเปอร์ ลิงค์” นับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอกย้ำว่า เราพร้อมที่จะรับฟังและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าและยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าอยู่เสมอ เราเชื่อว่า “พรูซูเปอร์ ลิงค์” แผนความคุ้มครองชีวิตควบการลงทุนสุดคุ้มนี้ จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่ไม่ชอบประกัน”

“พรูซูเปอร์ ลิงค์” เป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถปรับเลือกความคุ้มครองชีวิตและวางแผนการออมได้ด้วยตนเอง รวมถึงมอบความยืดหยุ่นให้สามารถเลือกหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย ถอนเงินจากกรมธรรม์ และสับเปลี่ยนกองทุนรวมได้ฟรีทุกเมื่อที่ต้องการ ทั้งยังสามารถเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติม เช่น สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หรือสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรง เพื่อรวมไว้ในกรมธรรม์ฉบับเดียวกัน ซึ่งจะช่วยมอบสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม แม้ว่าจะหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัย การมีวินัยในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ลูกค้าสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ในระยะยาว ในขณะเดียวกันนั้นลูกค้ายังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมอันหลากหลายที่มีนโยบายการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านการดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ นอกเหนือจากความยืดหยุ่นของแผนความคุ้มครองแล้ว ยังคงมีสิทธิประโยชน์จากการได้รับโบนัสพิเศษรวดเร็วขึ้น ซึ่งลูกค้าจะได้รับโบนัสพิเศษ 0.5% ต่อปีของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน สำหรับเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง เริ่มตั้งแต่ปีที่สองของกรมธรรม์เป็นต้นไป (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

นายวิชัย ชีวศรีรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องทางตัวแทน “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย” กล่าวว่า พรูซูเปอร์ ลิงค์” เป็นแผนความคุ้มครองประกันชีวิตควบการลงทุน หรือยูนิตลิงค์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย” นำเสนอผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ผ่านช่องทางตัวแทนซึ่งต้องขอขอบคุณทุกความคิดเห็นจากลูกค้าที่ยินดีมอบข้อมูลดังกล่าวมาให้เรา เพื่อนำมาพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านความคุ้มครอง การออม หรือการลงทุน ซึ่งตัวแทนขายที่ได้รับใบอนุญาตให้นำเสนอขายผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์ของเรามีความพร้อมและรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสแนะนำผลิตภัณฑ์นี้แก่ลูกค้าที่มีความสนใจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ “พรูซูเปอร์ ลิงค์” ผ่านช่องทางตัวแทน สำหรับผู้ที่สนใจแบบประกันยูนิตลิงค์แบบอื่น ๆ สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารพันธมิตรของบริษัทฯ ได้แก่ ธนาคารยูโอบี ธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคารไทยพาณิชย์

ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “พรูซูเปอร์ ลิงค์” ได้ที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ  www.prudential.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้า โทร. 1621