กระตุ้นเอกชนพัทยาเร่งสร้างมาตรฐาน TMVS รับ “ไมซ์ EEC”

alivesonline.com : ภายใต้กรอบการจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตามแผนยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยกำหนดให้จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ สุขภาพ การแพทย์ นันทนาการ และไมซ์ชั้นนำนั้น

 

ในฐานะที่ “เมืองพัทยา” เป็นหนึ่งในห้าพื้นที่ซึ่ง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ได้ศึกษาและยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนาและการแข่งขันเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็น “ไมซ์ ซิตี้” (MICE City) อย่างเป็นรูปธรรมนั้น “เมืองพัทยา” จึงกำหนดแผนยุทธศาสตร์เมืองพัทยา 4 ปี (2561-2564) ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ พัฒนาสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระดับโลกและมหานครศูนย์กลางภูมิภาคพัฒนา หรือ Innovation โดยมีแนวทางการพัฒนาและกลยุทธ์สำคัญ คือเร่งรัดการพัฒนาเมืองพัทยาสู่การเป็น Smart City สร้างพลวัตรกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ประสบการณ์แปลกใหม่หลากหลาย รวมถึงส่งเสริมการจัดกิจกรรมนันทนาการและกีฬาทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์เมืองพัทยาในฐานะแหล่งท่องเที่ยว สถานที่รองรับการจัดประชุมสัมมนา ที่พักอาศัย ศูนย์กลางด้านการแพทย์ หรือแหล่งลงทุนระดับ World Class พร้อมทั้งสื่อสารสาธารณะสู่สังคมไทย เพื่อสร้างทัศนคติที่ถูกต้องของความสำคัญของเมืองพัทยา

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมืองพัทยา มีการทำงานร่วมกับ TCEB มานานมากกว่า 9 ปีในการพัฒนาเมืองพัทยาเพื่อยกระดับให้เป็น “ไมซ์ ซิตี้” อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากแต่ละปีเมืองพัทยามีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ล่าสุดในปี 2560 มีทั้งสิ้นประมาณ 14 ล้านคน คิดเป็นชาวไทย 5 ล้านคนและต่างชาติ 9 ล้านคน มีรายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยวประมาณ 2.3 แสนล้านบาท ส่วนโรงแรมที่พักมีประมาณ  2 พันแห่ง คิดเป็นจำนวนประมาณ 2 แสนห้อง ซึ่งยังคงเพียงพอต่อความต้องการทั้งของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่มไมซ์

พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทันสมัย หลากหลาย ทั้งยังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกและประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานประกอบการ โรงแรม ศูนย์การค้าที่มีศักยภาพในการรองรับการประชุมสัมมนาขนาดใหญ่

“ล่าสุด เมืองพัทยา ร่วมกับ กรมเจ้าท่า ดำเนินงานเปลี่ยนภาพลักษณ์ชายหาดให้เป็นพื้นที่ปราศจากขยะ พร้อมปรับภูมิทัศน์ให้สอดรับกับโครงการ EEC สู่เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมยุคใหม่ตามแนวนโยบายที่กำหนดไว้ โดยใช้งบประมาณ 400 ล้านบาทในการเสริมทรายบริเวณชายหาดให้มีความกว้าง 35 เมตร ตั้งแต่พัทยาเหนือ-พัทยาใต้ ระยะทางประมาณ 2.85 กิโลเมตร  เหมือนเมื่อครั้งที่เคยเป็นเมื่อปี 2514 หรือ 47 ปีมาแล้ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมจัดกิจกรรมแรกคือเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 22 พ.ย.ศกนี้ จากนั้นจะดำเนินงานในเฟสต่อไปคือบริเวณหาดจอมเทียม รวมระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร”

นายปรเมศวร์ กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า การดำเนินงานดังกล่าวเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวและนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่จะมาเยือนเมืองพัทยาและได้รับความประทับใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการจำเป็นต้องเร่งพัฒนาสถานประกอบการให้ได้รับ มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standards (TMVS) ตามที่ TCEB กำหนด เพื่อให้พัทยาเป็นเมืองในพื้นที่โครงการ EEC ที่มีศักยภาพสูงที่จะพัฒนาให้เป็น “ไมซ์ซิตี้” และสามารถสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่จะมาใช้บริการและเลือก “เมืองพัทยา” เป็นสถานที่จัดงานในทุกระดับมากขึ้นด้วย

TCEB นำคณะสื่อชมพื้นที่สถานที่จัดงานเมืองพัทยา

ในโอกาสดังกล่าว TCEB จึงได้นำคณะสื่อมวลชนร่วมชมสถานประกอบการ 3 แห่งซึ่งได้รับมาตรฐาน TMVS ได้แก่ โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา ซึ่งได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย ประเภทห้องประชุม ศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา (Pattaya Exhibition And Convention Hall : PEACH) ซึ่งได้รับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย ประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า และ ศูนย์ประชุมนานาชาตินงนุช พัทยา (Nongnooch Pattaya International Convention And Exhibition Center : NICE) ซึ่งยื่นขอรับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย ประเภทห้องประชุม สถานที่จัดงานแสดงสินค้า และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ

นางอรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ TCEB กล่าวว่า มาตรฐาน TMVS ได้รับการพัฒนาโดยอ้างอิงจากมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ์ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมและยกระดับการให้บริการตลอดจนคุณภาพของสถานที่จัดงานไมซ์ในประเทศไทย โดย TCEB จะมีการประเมินสถานประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ทุก 3 ปี

สำหรับในภาคตะวันออก พัทยาถือเป็นเมืองที่มีผู้ประกอบการ ผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS มากที่สุดจำนวน 26 แห่ง แบ่งเป็นประเภทห้องประชุม 25 แห่ง และประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า 1 แห่ง สามารถใช้เป็นจุดขายในการดึงการจัดงานไมซ์นานาชาติจากทั่วโลก เมื่อผนวกกับเทคโนโลยีและบริการที่น่าประทับใจของไทย ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมให้การจัดงานไมซ์มีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

พัทยาถือเป็นเมืองไมซ์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีสถานประกอบการด้านไมซ์ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์ประชุมเกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น TCEB จึงต้องเร่งผลักดันการสร้างมาตรฐานสถานที่จัดงานไมซ์ควบคู่ไปกับการพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้สถานประกอบการมีมาตรฐานในการรองรับการจัดงานไมซ์ได้อย่างมีคุณภาพทั้งในประเภทห้องประชุม ประเภทสถานที่จัดงานแสดงสินค้า และประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ

TCEB ยังจะสานต่อการอบรมให้ความรู้ด้านการตรวจประเมินมาตรฐาน TMVS กับกลุ่มผู้ประกอบการ ไมซ์ในเมืองพัทยาและสำหรับสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS แล้วจะดำเนินการยกระดับการพัฒนาบุคลากรให้เกิดความเชี่ยวชาญด้านการบริหารสถานที่จัดงานโดยมีหลักสูตร Venue Management Course หรือ VMC) ซึ่งได้ทำการจัดอบรมรุ่นที่ 1 ไปแล้ว มีผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรนี้ทั้งหมด 30 คนในเมืองพัทยา และจะมีการจัดอบรมอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565 เพื่อให้เมืองพัทยามีบุคลากรที่มีคุณภาพในการบริหารสถานที่การจัดงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”

นางอรชร กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานเพื่อช่วยส่งเสริมการตลาดให้กับสถานประกอบการไมซ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TMVS นั้น ได้จัดทำหนังสือ (Directory) รวบรวมรายชื่อสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเพื่อสื่อสารไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อนำหนังสือรายชื่อนี้ไปทำการตลาดในต่างประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำป้ายตราสัญลักษณ์มาตรฐาน TMVS โดยได้จัดให้มีพิธีมอบตราสัญลักษณ์แก่สถานประกอบการที่ผ่านการรับรอง เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ การส่งเสริมการตลาด และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สถานประกอบการในเมืองพัทยาด้วยเช่นกัน

 

สำหรับปี 2562 TCEB ยังคงวางแผนการพัฒนาเมืองไมซ์พัทยาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับ EEC ในการขับเคลื่อนไมซ์ผ่าน 6 โครงการไฮไลท์ ประกอบด้วย

1.โครงการพัฒนาความพร้อมของพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ สามารถรองรับอุตสาหกรรมไมซ์แห่งใหม่ของประเทศไทย หรือ Eastern MICE Corridor

2.โครงการส่งเสริมการดึงงานประชุม สัมมนา งานแสดงนิทรรศการ และงานมหกรรมนานาชาติเข้ามาจัดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ Thailand 4.0

3.โครงการจัดตั้งสถาบันไมซ์แห่งอาเซียน เพื่อเป็นศูนย์ประเมินมาตรฐานอุตสาหกรรมไมซ์ ศูนย์กระจายองค์ความรู้ และศูนย์ทดสอบฝีมือแรงงานไมซ์

4.โครงการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ อันประกอบด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษา

5.โครงการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมไมซ์

6.โครงการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยนำแหล่งท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ของชุมชนมารองรับอุตสาหกรรมไมซ์

 

“เคป ดารา รีสอร์ท” รับกลุ่มลูกค้าไมซ์ 70%

น.ส.อรวิลาสินี สืบจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขาย โรงแรมเคป ดารา รีสอร์ท พัทยา กล่าวว่า การได้รับมาตรฐาน TMVS สามารถยืนยันได้ว่า ห้องประชุมสัมมนานั้นมีความเหมาะสมตามมาตรฐานการจัดงานในระดับสากล เป็นการเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของผู้ประกอบธุรกิจไมซ์ในไทยให้กลุ่มนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มขยายตลาดการจัดประชุมและการท่องเที่ยว เน้นตลาด เอเชีย ยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย ตามลำดับ ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะเป็นจุดหมายของการจัดงานไมซ์ ทั้งในระดับประเทศและในระดับพื้นที่

 

“เคป ดารา รีสอร์ท มีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการตรวจสอบคัดเลือกและผ่านการรับรองตรา TMVS เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลไทยในการดึงกลุ่มนักเดินทางไมซ์จากตลาดต่างประเทศมายังประเทศไทย สำหรับห้องประชุมที่ เคป ดารา รีสอร์ท พัทยา สามารถให้การบริการอย่างเต็มรูปแบบ มีห้องประชุมที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่ 10–700 คน มีอุปกรณ์ครบครันที่ใช้สำหรับสัมมนาแก่ผู้ร่วมงาน ทั้งระบบเสียง อุปกรณ์ รวมถึงทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพไว้คอยให้บริการ

 

น.ส.อรวิลาสินี กล่าวในตอนท้ายว่า จุดเด่นของห้องประชุม “เคป ดารา รีสอร์ท”คือห้อง Vela Grand Ballroom มีขนาดห้องกว้างถึง 577 ตารางเมตร และ เพดานสูงถึง 7.2 เมตร เป็นห้องประชุมแบบ Day Light ซึ่งจะได้รับแสงธรรมชาติและวิวทะเลที่สวยงามของอ่าวไทยในขณะที่ได้มาประชุมสัมมนา รวมถึงการเดินทางมาสัมมนาจากทั้งในและประเทศเพื่อนบ้านก็สะดวกสบายมากขึ้น เพราะมีเที่ยวบินที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองต่าง ๆ ในประเทศไทยไปยังไมซ์ซิตี้ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา (อู่ตะเภา) อีกด้วย

หลังจากที่ “เคป ดารา รีสอร์ท พัทยา” ได้รับตราสัญลักษณ์ TMVS แล้ว จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ และกลุ่มนักธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ เข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มไมซ์ประมาณ 70% ส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชน 80% ภาครัฐ 20% ส่วนอีก 30% เป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป ต่อปีมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 80% แสดงให้เห็นว่าตราสัญลักษณ์ TMVS เป็นองค์ประกอบในการสร้างความมั่นใจและมีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการของลูกค้ามากขึ้น

PEACH เตรียมความพร้อมรับการจัดงานรูปแบบใหม่

น.ส.มาลิสา ลุทซี ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป และศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา (PEACH) กล่าวว่า PEACH ถือเป็นศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่โดดเด่นและสำคัญที่สุดนอกเขตกรุงเทพฯ มีพื้นที่ 2.35 หมื่นตารางเมตร เพดานสูงถึง 9.5 เมตร ไม่มีเสา ความสูง 6 ชั้น สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้มากกว่า 1 หมื่นราย โดยมีห้องประชุมที่หลากหลาย ตั้งแต่ห้องโถงขนาดใหญ่ไปจนถึงห้องประชุมขนาดย่อม 18 ห้อง ที่ได้รับการออกแบบพิเศษสำหรับการจัดงานที่หลากหลาย เช่น งานแต่งงาน งานแสดงคอนเสิร์ต งานแสดงสินค้า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดนิทรรศการ การประชุมนานาชาติ และอื่น ๆ อีกมากมาย

“หลังจากที่เมืองพัทยาได้รับการส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ของ 3 จังหวัดในโครงการ EEC เนื่องจากตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียน ทำให้เรามีการพัฒนาไปพร้อม ๆ กันแบบเต็มรูปแบบกับธุรกิจทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นทางด้านขนส่ง คมนาคม อาหาร สายการบิน ที่พัก บุคลากร และอื่น ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างรูปแบบการจัดงานใหม่ ๆ ที่น่าประทับใจและดึงดูดนักธุรกิจกลุ่มไมซ์ที่จะเดินทางมาเมืองพัทยาในอนาคต”

น.ส.มาลิสา กล่าวอีกว่า มาตรฐาน TMVS ถือเป็นสัญลักษณ์ที่การันตีสถานที่จัดงานว่าได้มาตรฐานสากล เหมาะสมกับการจัดงานประเภทต่าง ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจไมซ์ให้ประสบความสำเร็จก้าวไกลในระยะยาวและเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก การที่ PEACH ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ จึงแสดงถึงมาตรฐานและการบริการที่โดดเด่นของศูนย์ประชุม รวมถึงการเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ยอดนิยมในการจัดการประชุมชั้นนำระดับโลก ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีมงานทุกคนที่เป็นมืออาชีพในการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และครบครัน ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพระดับสากลของศูนย์ประชุมมากยิ่งขึ้นเมื่อได้มีการรับรองด้วยมาตรฐาน TMVS

“สวนนงนุช” ยื่นขอรับมาตรฐาน 3 ด้าน

น.ส.มยุรี สมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป “สวนนงนุช” ฝ่ายธุรกิจไมซ์ กล่าวว่า “นงนุช เทรดดิชั่น เซ็นเตอร์” (Noongnooch Tradition Hall : NTH) เป็นอาคาร 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 7.5 พันตารางเมตร โถงนิทรรศการมีพื้นที่ใช้สอยรวม 3,168 ตารางเมตร เพดานสูง 8 เมตร สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้มากกว่า 5 พันคน สามารถแบ่งห้องประชุมย่อยได้จำนวน 5 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยห้องละ 144 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน และทันสมัย ประกอบด้วยห้องสำหรับจัดเลี้ยง ห้องประชุมที่รองรับการจัดงานทุกประเภท ทั้งในระดับชาติ รวมถึงระดับนานาชาติ ออกแบบให้มีความสะดวกสบายทันสมัย ถ่ายถอดออกมาสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ลานจอดรถสามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้มากกว่า 600 คัน ทั้งยังสามารถดัดแปลงเพื่อสร้างสรรค์รูปแบบกิจกรรมกลางแจ้งลักษณะอื่น ๆ ได้อีกด้วย

“NTH ได้รับมาตรฐาน TMVS เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพร้อม ๆ กับการเปิดใช้งานในช่วงปลายปี 2560 จากสถิติการมาใช้บริการหลังจากที่ได้รับมาตรฐาน TMVS แสดงให้เห็นว่ามีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากครึ่งปีแรก โดยมีจำนวนงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 จนถึงปัจจุบัน”

น.ส.มยุรี กล่าวอีกว่า สำหรับศูนย์ประชุมนานาชาตินงนุชพัทยา หรือ NICE เป็นหนึ่งในศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1.8 หมื่นตารางเมตร สามารถรองรับรูปแบบการจัดงานทุกประเภท ทั้งระดับชาติและนานาชาติ ตัวอาคารมีขนาดใหญ่ใช้สำหรับการประชุม และแสดงสินค้า อาคารศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าเป็นอาคาร 3 ชั้นขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็น 3 ส่วนคือ โถงนิทรรศการ มีพื้นที่ใช้สอย รวมกว่า 5,760 ตารางเมตร รองรับผู้ร่วมงานได้มากถึง 1 หมื่นคน นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม A, B มีพื้นที่ใช้สอยห้องละ 240 ตารางเมตร และห้องประชุมชั้นใต้ดิน (ห้องประชุม C, D) ที่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย

NICE ถูกออกแบบให้มีความสะดวกสบาย ทันสมัย ผสานความโมเดิร์น ถ่ายทอดรูปแบบอาคารออกมาในสไตล์ลอท์ฟได้อย่างสวยงามและมีความลงตัว ลานจอดรถสามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้มากกว่า 1 พันคัน ทั้งยังสามารถดัดแปลงพื้นที่เพื่อสร้างสรรค์รูปแบบการจัดกิจกรรมกลางแจ้งลักษณะต่างๆ ได้ด้วย

“ในปี 2561 NICE ได้ยื่นขอมาตรฐาน TMVS พร้อมกันทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทห้องประชุม สถานที่จัดงานแสดงสินค้า และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ แสดงให้เห็นว่าต้องมีความพร้อมในทุกด้านจึงจะทำได้ ประกอบกับการวางนโยบายแผนงานในอนาคต ตลอดจนพนักงานของ NICE สามารถดำเนินการตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้จนประสบความสำเร็จ”

“ศรีมหาสมุทร” เรือสำเภาจีนหลงยุค ฉลอง 250 ปีกรุงธนบุรี

alivesonline.com : ตื่นใจและตระการตาไม่แพ้การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “ไอคอนสยาม” อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำครั้งแรกในประเทศไทย “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” สัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองที่มากับสายน้ำ ซึ่ง “ไอคอนสยาม” จัดสร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวาระครบรอบ 250 ปีแห่งการสถาปนา “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”

“เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” จอดเทียบท่าเรือบริเวณ “ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม” ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมและศึกษาประวัติศาสตร์ ตลอดจนขุมอารยธรรมอันล้ำค่าในสมัยกรุงธนบุรีผ่านเทคนิคการจัดแสดงที่หลากหลาย ระหว่างวันที่ 14 พ.ย.61-13 ม.ค.62 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.วันละประมาณ 25 รอบ แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 30 นาที รองรับผู้เข้าชมได้ปราณ 30 ท่าน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

พิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก จาก ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมผู้บริหารไอคอนสยาม สปอนเซอร์ และนักแสดงชื่อดัง อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และ นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี

พิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” ถูกเนรมิตขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากเรือสำเภาสินค้าที่ชาวแต้จิ๋วเรียกว่า “อั้ง เถ้า จุ้ง” แปลว่า “เรือสำเภาหัวแดง” โดยผู้ชมจะได้พบการจัดพื้นที่การแสดง 3 ส่วนคือ

1.ห้องกัปตัน ผู้ชมจะได้พบกับ “จุ๊นจู๊” นายเรือผู้เดินทางค้าขายไปทั่วโลก โดยผู้ชมจะได้พบกับเหตุการณ์สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ พร้อมกับย้อนมิติเวลากลับไปพบกับความรุ่งเรืองแห่งกรุงธนบุรีอีกครั้ง

2.ห้องพักลูกเรือ ผู้ชมจะได้รู้จักกับวิถีชีวิตของลูกเรือว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่อย่างไร ผ่านการจำลองพื้นที่และเทคนิค Shadow Play ซึ่งมีความน่าสนใจและติดตามเป็นอย่างยิ่ง

3.คลังอารยธรรมใต้ท้องเรือ แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

มหาราชยอดนักรบ : นำเสนอช่วงเวลาการการทำสงครามของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในการรวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น ด้วยเทคนิค Projection Mapping ที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถด้านการรบที่เป็นเลิศของพระองค์ที่ตลอดรัชสมัยมีการปราบปรามชุมนุมต่าง ๆ และทำศึกสงครามเพื่อรวบรวมแผ่นดินอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอพระราชประวัติของพระองค์บนจอแบบทัชสกรีน ตั้งแต่ครั้งที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์จวบจนได้รับการเทิดทูนและยกย่องให้เป็น “มหาราช” พระองค์แรกของไทย

ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติทดลองใช้เทคนิค เทคนิค Interactive Mirrorสวมเครื่องแต่งกายชนชาติต่าง ๆ สมัยกรุงธนบุรีในวันพิธีเปิด “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา

ฟื้นฟูครบด้วยพระปรีชา : พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทั้งด้านการปกครอง สังคม ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ที่ต้องเร่งฟื้นฟูเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ราษฎร นิทรรศการในห้องนี้จะนำเสนอผ่านรูปแบบการจัดแสดงที่หลากหลาย อาทิ วัตถุจำลองพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง “รามเกียรติ์” พระไตรปิฎก บอร์ดเนื้อหา รวมถึงเทคนิค Interactive Mirror สามารถให้ผู้ชมสวมบทบาทเป็นชนชาติต่าง ๆ ที่อาศัยในกรุงธนบุรีได้

สานสัมพันธ์การค้าให้ธนบุรี : ในโซนนี้จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงส่งเรือสำเภาออกไปติดต่อต่างชาติให้เข้ามาค้าขายกับสยามหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจีน เพื่อให้เศรษฐกิจการค้าของบ้านเมืองฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ผ่านการฉายภาพยนตร์บน Interactive Scrim ขนาดมหึมา

ผู้ชมยังจะได้พบกับสินค้าจำลองที่มีการค้าขายระหว่างกรุงธนบุรีและนานาประเทศ นอกเหนือจากนี้ ยังมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรือสำเภา จุดกำเนิดและพัฒนาการของเรือบนโลก เส้นทางเดินเรือสินค้า การใช้เครื่องทุ่นแรงบนเรือ เช่น รอก ขณะที่บริเวณดาดฟ้าเรือยังมีร้านอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มรสเลิศจัดเตรียมไว้จำหน่ายให้ผู้ชม พร้อมกับจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม

นายณรงค์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด

“ไอคอนสยาม” แหล่งรวมสิ่งที่ดีที่สุดของไทยและสิ่งที่ดีที่สุดของโลก

นายณรงค์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ปี 2560 เป็นวาระครบรอบ 250 ปีแห่งการสถาปนา “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร” บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด จึงได้ร่วมกับบริษัท ดิ ไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด พร้อมด้วย บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด และ ธนาคารออมสิน ในการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” ให้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเชิดชูคุณค่าและความสำคัญของกรุงธนบุรีซึ่งถือเป็นยุคแห่งความรุ่งโรจน์ทางการค้าบนเรือสำเภาจากคริสต์ศตวรรษ 18 หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองท่าการค้าที่สำคัญแห่งเส้นทางการค้านานาชาติ เพื่อให้ประชาชนคนไทยและผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ถึงช่วงเวลาสำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์ประเทศไทย

จุดชมวิวและจำหน่ายอาหารบริเวณดาดฟ้าเรือ

พิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” จึงถือเป็นส่วนหนึ่งตามความตั้งใจของ “ไอคอนสยาม” ในการรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของไทยและสิ่งที่ดีที่สุดของโลกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย และช่วยกันสืบทอดความงดงามของความเป็นไทยสู่ชนรุ่นหลัง อีกทั้งให้คนทั่วโลกที่มาเยือนรู้สึกหลงรักและประทับใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

รูปปั้นจำลองการใช้ชีวิตของลูกเรือ

รอกขนถ่ายสินค้าบนเรือที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทดลองใช้งานได้จริง

 

ตัวอย่างสินค้าที่มีการค้าขายในสมัยกรุงธนบุรี

 

GARMIN เปิด GARMIN Pay จ่ายเงินผ่านนาฬิกา

 

alivesonline.com : GARMIN จับมือผู้นำทางการเงิน KBank, KTC, SCB และบัตร MasterCard และ VISA เปิดตัว GARMIN Pay การชำระเงินรูปแบบใหม่บนนาฬิกาข้อมือสมาร์ตวอทช์ GARMIN มุ่งตอบสนองความต้องการกลุ่มคนรักสุขภาพยุคดิจิทัล ให้สามารถใช้ชีวิต Active Lifestyle ได้แบบไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์

นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์นาฬิกาสมาร์ตวอทช์ GARMIN ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ซึ่งปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนในเรื่องนี้คือ การใช้นวัตกรรมเพื่อนำเสนอฟังก์ชันการจ่ายเงินแบบไร้เงินสดให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน โดยเน้นที่อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้มากที่สุด

ล่าสุด GARMIN ได้ร่วมมือกับ 3 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบัตรกรุงไทย (เคทีซี) พร้อมทั้งเครือข่ายบัตรเครดิตระดับโลก 2  รายได้แก่ “มาสเตอร์การ์ด” และ “วีซ่าการ์ด” พัฒนาบริการ GARMIN Pay ซึ่งเป็นการชำระเงินรูปแบบใหม่บนนาฬิกาสมาร์ตวอทช์ โดยผูกกับบัตรเครดิตเพื่อตอบไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย และมองหาความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ ในสังคมไร้เงินสดที่สามารถซื้อสินค้าและบริการได้ไม่จำกัดช่วงเวลาและกิจกรรม

(จากซ้ายไปขวา) “สุริพงษ์ ตันติยานนท์” ผู้จัดการ “วีซ่า” ประจำประเทศไทย “พิทยา วรปัญญาสกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) “อมร สุวจิตตานนท์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย “ไกรรพ เหลืองอุทัย” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด “สีหนาท ล่ำซำ” ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย Payments Product Development and Solutions ธนาคารไทยพาณิชย์ และ “ไอลีน ชูว” ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาตลาด ประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ “มาสเตอร์การ์ด”

“บริการ GARMIN Pay เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด เพียงลูกค้ามีนาฬิกาสมาร์ตวอทช์ GARMIN รุ่นที่รองรับและบัตรเครดิตพันธมิตร ลูกค้าก็สามารถเชื่อมต่อบัตรเครดิตกับนาฬิกาสมาร์ตวอทช์ GARMIN เพื่อสร้าง GARMIN Pay Wallet พร้อมตั้งรหัสผ่าน จากนั้นสามารถจ่ายเงินง่าย ๆ โดยแตะหน้าปัดนาฬิกากับเครื่องอ่านที่รองรับ เพื่อซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้า โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในความปลอดภัยในการใช้งาน GARMIN Pay ได้เพราะเป็นเทคโนโลยี Tokenization ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล สามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญจากการขโมยข้อมูลหรือไวรัสต่าง ๆ ปัจจุบัน GARMIN Pay ได้มีการใช้งานแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาและอีก 21 ประเทศทั่วโลก”

สำหรับนาฬิกาสมาร์ตวอทช์ GARMIN รุ่นที่รองรับบริการ GARMIN Pay ได้แก่ vivoactive 3 series, forerunner 645 series, fenix 5 plus series อย่างไรก็ตาม รุ่นใหม่ๆที่รองรับบริการนี้จะออกมาอีกในอนาคต สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GARMIN Pay ได้ที่ Garmin.co.th/Garmin-Pay

โฟตอน เดมเลอร์ รุ่น “ออแมน อีเอสที 400” รถหัวลากทางเลือกใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าไทย

alivesonline.com : “โฟตอน” ปักหมุดลุยตลาดยานยนต์พาณิชย์ไทย เปิดตัว “โฟตอน เดมเลอร์” รุ่น “ออแมน อีเอสที 400” (FOTON AUMAN EST 400) รถหัวลากคุณภาพที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีจากเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และจีน ให้ประสิทธิภาพการขับขี่เป็นเยี่ยม ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าชาวไทยและเป็นทางเลือกใหม่สำหรับตลาดโลจิสติกส์

นาย กาว หมิง ประธานกรรมการ บริษัท โฟตอน ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด

 นาย กาว หมิง ประธานกรรมการ บริษัท โฟตอน ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการแนะนำรถรุ่นใหม่ว่า เมื่อปลายปี 2560 บริษัทฯ ได้เปิดตัวรถหัวลาก “โฟตอน เดมเลอร์” ที่เป็นผลงานชิ้นโบแดง ได้แก่ รุ่น “ออแมน อีเอสที เอ” (AUMAN EST-A) พร้อมกับรุ่น “อีเอสที 380” (EST 380) และ “อีเอสที 430” (EST 430) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ารวมถึงหน่วยงานด้านการขนส่งต่าง ๆ ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดงาน FOTON EXPO DAY 2018 เพื่อแนะนำรถหัวลากรุ่นใหม่ล่าสุด “AUMAN EST 400” และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกจำหน่ายในช่วงปี 2561 ได้แก่รถบรรทุกหกล้อ “อีเอสที เอ็ม” (EST M) และรถไมโครบัส “โฟตอน เอยูวี” (Foton AUV) รวมทั้งเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและผู้จำหน่ายได้ทดลองขับรถหัวลากทั้งรุ่น “EST 400” และรุ่น “EST-A”

AUMAN EST 400” เป็นรถหัวลากที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่น EST-A และ EST 430 แต่เน้นให้สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยถูกปรับให้เหมาะสมกับรูปแบบใช้งานในเมืองไทย สามารถรองรับการขนส่งระยะไกล เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการขนส่งในประเทศ มาพร้อมเครื่องยนต์ CUMMINS ISGe3 400 แรงม้า ที่ 1,900 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 2,000 นิวตันเมตร ที่ 1,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ ZF มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 16 เกียร์เดินหน้า และรุ่นเกียร์อัตโนมัติ AMT 12 เกียร์เดินหน้า

“โฟตอน เดมเลอร์” ได้พัฒนา “AUMAN EST 400″ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับและความสะดวกสบายในการขับขี่ ทัศนวิสัยที่เป็นเยี่ยม พร้อมการออกแบบใหม่ที่สำคัญคือการลดส่วนสูงของหลังคาลง 93 เซนติเมตร น้ำหนักตัวรถลดลง 600 กิโลกรัม เป็นแบบ Low Roof ที่นอนเดี่ยว เบาะด้านหลังกว้างขวางให้ความสบายในการนอนพักผ่อน พวงมาลัยมีระบบมัลติฟังก์ชัน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ให้ความปลอดภัยด้วยระบบเอนจิ้นเบรค “ไอ เบรค” (I-BREAK) ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ “โฟตอน เดมเลอร์” ลิขสิทธิ์เฉพาะของ “คัมมินส์” แบ่งเป็น 3 ระดับ สามารถช่วยชะลอความเร็วของรถได้อย่างนุ่มนวล ทั้งยังช่วยลดความร้อนของระบบเบรก รวมทั้งลดการสึกหรอของผ้าเบรค ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยไร้กังวล เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างโดดเด่น ยกระดับทุกคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้แนะนำ โฟตอน ออแมน อีเอสที เอ็ม (FOTON AUMAN EST M) รถบรรทุกหกล้อ ใหม่ล่าสุดที่มีช่วงล้อยาว เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่งสินค้าต่าง ๆ หลายประเภทและหลายรูปแบบการบรรทุก และ “โฟตอน เอ ยู วี ไมโครบัส (FOTON AUV MICRO BUS) รถไมโครบัสขนาด 7.3 เมตร จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร 20 ที่นั่งที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดทดแทนในส่วนของรถตู้โดยสารประจำทางรองรับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายใหม่

การทดสอบรถในงาน “FOTON EXPO DAY 2018” เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ มีสถานีทดสอบต่าง ๆ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของตัวรถ ทั้ง ระบบเบรกและความปลอดภัย, ระบบการทรงตัว, ระบบการสั่นสะเทือน, และการขับขี่แบบประหยัด รวมถึงมีการแนะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารของหัวรถลากรุ่น EST-A และ EST 400 ที่เน้นความปลอดภัยสะดวกสบายของผู้ขับ ทั้งยังมีการสาธิตโดยทีมขับมืออาชีพ คอยอธิบายเกี่ยวกับสนามทดสอบและการขับขี่ผ่านสถานีต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องต้น

นายกาว หมิง กล่าวด้วยว่า หลังจากงาน FOTON EXPO DAY 2018 “โฟตอน” วางแผนจัดกิจกรรมโรดโชว์เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงนวัตกรรมของหัวรถลาก AUMAN EST ในช่วงเดือนมกราคม 2562 อีก 3 จังหวัดคือ ชลบุรี นครสวรรค์ และสระบุรี โดยการทำกิจกรรมทั้งหมดนี้จะมุ่งเน้นให้สมรรถนะของ “โฟตอน เดมเลอร์” ให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งทำให้เราได้ใกล้ชิดกับลูกค้า ได้รับรู้ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ คอยขับเคลื่อนให้วงการยานยนต์พัฒนาอย่างก้าวกระโดดต่อไป

ข้อมูลบริษัทและผลิตภัณฑ์

  • โฟตอน เดมเลอร์ Foton Daimler Automotive (FDA)

หลอมรวมจุดแข็งด้านการผลิต เทคโนโลยี และการบริหาร

Foton Daimler Automotive (FDA) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง “โฟตอน” และ “เดมเลอร์” ที่ได้จับมือกันพัฒนานวัตกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์เมื่อปี 2555 ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ “FOTON DAIMLER” ในระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา โฟตอนได้หลอมรวมมาตรฐานการผลิตเข้ากับจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและการบริหารงานของ “เดมเลอร์” อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในหัวใจหลักอย่างการพัฒนานวัตกรรม, ปรับปรุงระบบซัปพลายเออร์, จัดหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดระบบการผลิตสู่ระดับสากล รวมถึงจัดหาการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการรถบรรทุก (TOS) ช่วยในการส่งเสริมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี การร่วมมือกันของทั้งสองฝ่าย ทำให้บริษัทอย่าง FDA ติดปีกทะยานสู่แถวหน้าของวงการยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทำยอดขายรถรวม 5.4 แสนคันทั่วโลก ณ เดือนสิงหาคม 2561 อีกทั้งยังก่อให้เกิดงานวิจัยสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย อาทิ รถบรรทุกหัวลาก FOTON AUMAN EST-A โดยใช้ระบบควบคุมและระบบไฟฟ้ากำลังชั้นนำระดับโลก เช่น Cummins, ZF, WABCO ซึ่งมีระบบไฟฟ้ากำลังอัจฉริยะ ระบบช่วยการขับขี่ และระบบติดตามการขนส่ง ทั้งยังผ่านการทดสอบบนถนนจริงเป็นระยะทาง 10 ล้านกิโลเมตร สามารถตอบสนองลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงได้เป็นอย่างดี

  • “ออแมน อีเอสที และออแมน อีเอสที เอ” (AUMAN EST & AUMAN ESTA)

  • รถหัวลากที่ออกแบบใหม่โดย “โฟตอน เดมเลอร์” เพื่อให้เหมาะสมกับการขนส่งระยะไกล อำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ขับ ช่วยให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย ใช้เครื่องยนต์คัมมินส์ ดีเซลคอมมอนเรล 6 สูบ 11,800 ซีซี กำลังสูงสุด 430 แรงม้า ที่ 1,900 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 2200 นิวตันเมตร ที่ 1,000 รอบต่อนาที มีทั้งเกียร์ธรรมดาเดินหน้า 16 จังหวะ และในรุ่น EST-A เป็นเกียร์อัตโนมัติ AMT เดินหน้า 12 จังหวะ โดดเด่นด้วยระบบใช้งาน ที่มาควบคู่กับตัวรถ เช่น ระบบช่วยติดตามการขับให้ประหยัดเชื้อเพลิง และตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ อย่างการใช้เชื้อเพลิง สภาพของเครื่องยนต์ การใช้งานของผู้ขับ ช่วยลดความถี่ในนำรถเข้าบำรุงรักษาหรือการซ่อมแซมได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับระบบไฟฟ้ากำลังอัจฉริยะระบบช่วยการขับขี่ และผ่านการทดสอบบนถนนจริงเป็นระยะทาง 10 ล้านกิโลเมตร เพื่อให้สามารถตอบสนองลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงและต้นทุนการดำเนินงานต่ำ

  •  ออแมน อีเอสที 400 (AUMAN EST 400)

การพัฒนาและออกแบบ

  • รถหัวลากรุ่นใหม่ล่าสุด มีขนาดเล็กกว่ารุ่น EST-A และ EST 430 ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลุกค้าชาวไทย โดยเฉพาะการลดส่วนสูงของหลังคาลง 93 ซ.ม. น้ำหนักตัวรถลดลง 600 กก. เป็นแบบ Low Roof ที่นอนเดี่ยว ซึ่งจะไม่มีส่วนที่นอนที่อยู่ด้านบนหลังคนขับ ในขณะที่ส่วนที่นั่งคนขับและที่นั่งคู่หน้า ยังคงมีขนาดกว้างขวางเหมือนเดิม เบาะผู้ขับปรับได้หลายทิศทางและมีความดูดซับแรงสั่นสะเทือนเหนืออีกชั้นด้วยระบบถุงลมและควบคุมการปรับด้วยระบบไฟฟ้า
  • เบาะด้านหลังทำเป็นพื้นเรียบยกระดับ สามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสบายและรู้สึกคับแคบ
  • ระบบช่วงล่างเน้นให้ใช้งานได้หลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น มีจุดเด่นเพื่อรองรับการขนส่งระยะไกล ทั้งทางเรียบและทางขรุขระ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการขนส่ง
  • อุปกรณ์ภายในเน้นความสะดวกสบายของผู้ขับและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ขับซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัย
  • กระจกมองข้างหลากหลายมุมและบานใหญ่ทำให้มองเห็นเป็นมุมกว้าง

 เครื่องยนต์

  • ใช้เครื่องยนต์ CUMMINS ISGe3 เช่นเดียวกับ AUMAN EST ทุกรุ่น
  • 400 แรงม้า ที่ 1,900 รอบต่อนาที
  • แรงบิดสูงสุด 2,000 นิวตันเมตรที่ 1,000 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลังและระบบการทรงตัว 

  • ระบบเกียร์ ZF มีทั้งแบบ ธรรมดา 16 เกียร์เดินหน้า และ อัตโนมัติ AMT 12 เกียร์เดินหน้า
  • ระบบเกียร์อัตโนมัติ AMT ที่ช่วยเรื่องการควบคุมรถและอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง กรณีที่ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ในรอบที่สูงเกินไปจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงมากขึ้น โดยการเปลี่ยนเกียร์ที่แรงบิดสูงสุด 1,000-1,300 รอบต่อนาที เป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละรอบจังหวะ
  • มีการอบรมการขับขี่เพื่อผู้ขับรถหัวลาก AUMAN จะได้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ใช้งานรถได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย

 ระบบเบรและความปลอดภัย

  • ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ขับรถและหยุดรถได้อย่างปลอดภัยสูงสุด
  • ระบบเบรกเครื่องยนต์ I-Brake ลิขสิทธิ์เฉพาะของเครื่อง “คัมมินส์” แบ่งเป็น 3 ระดับ ช่วยชะลอความเร็วของรถได้อย่างนุ่มนวล ช่วยหน่วงความเร็วรถลงอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นระบบที่จำเป็นสำหรับรถบรรทุกหนัก เพราะจะช่วยลดความร้อนของระบบเบรก รวมทั้งลดการสึกหรอของผ้าเบรก ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยไร้กังวล เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างโดดเด่น ยกระดับทุกคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
  • ผลการวัดอัตราการอัดของเครื่องยนต์ ISGe3 ระบบ I-Brake มีกำลังถึง 350 แรงม้า การไล่จังหวะของ I-Brake ที่เหมาะสมกับความเร็วจะชะลอรถได้อย่างปลอดภัยและแทบไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย

 การขับขี่แบบประหยัด

นอกเหนือจากระบบต่าง ๆ ของตัวรถแล้ว ยังมีระบบที่ใช้งานควบคู่กับการใช้รถ เช่น ระบบช่วยติดตามการขับให้ประหยัดเชื้อเพลิงและตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การใช้เชื้อเพลิง สภาพของเครื่องยนต์ การใช้งานของผู้ขับ และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยลดความถี่ในนำรถเข้าบำรุงรักษา หรือการซ่อมแซม

  • โฟตอน ออแมน อีเอสที เอ็ม (FOTON AUMAN EST M)

รถบรรทุกหกล้อ ใหม่ล่าสุดที่มีช่วงล้อยาว เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่งสินค้าต่าง ๆ หลายประเภทและหลายรูปแบบการบรรทุก รองรับทุกอุตสาหกรรม ทั้งตู้สินค้าแห้ง, ห้องเย็น หรืออุปกรณ์พิเศษ มาพร้อมขนาดแชสซีส์หลากหลาย ทั้งช่วงสั้นและช่วงยาว ใช้เครื่องยนต์ “คัมมินส์ ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์” ขนาด 6,690 ซีซี. ให้กำลัง 245 แรงม้า ที่ 2,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 910 นิวตันเมตรที่ 1,400 รอบต่อนาที และระบบกันสะเทือนแบบแหนบสปริงพร้อมโช้คอัพแบบ Double Acting พร้อม Stabilizer

  • โฟตอน เอ ยู วี ไมโครบัส (FOTON AUV MICRO BUS)

รถไมโครบัสที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดทดแทนในส่วนของรถตู้โดยสารประจำทางที่ต้องเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายใหม่ “โฟตอน เอ ยู วี ไมโครบัส” ขนาด 7.3 เมตร จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร 20 ที่นั่ง

ผู้สนใจรถเพื่อการพาณิชย์ทุกรุ่นของ “โฟตอน” สามารถติดต่อผู้จำหน่ายในจังหวัดของท่านและพื้นที่ใกล้เคียง หรือติดตามข้อมูลและกิจกรรมอื่น ๆ ได้ใน Facebook : FOTON MOTOR TH หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร.0 2342 3242 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันไม่เว้นวันหยุด

“ซันเพลย์” จัดงานโชว์รถยุโรปคลาสสิก รวมเหล่าเซเลบโชว์รถหายากในตำนาน

ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นรถหรูต่างค่ายออกมารวมตัวกัน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ คริส ดีลานี” กรรมการผู้จัดการ “ซันเพลย์ เอเชีย” เจ้าของโครงการ “ซันเพลย์ บางเสร่” (Sunplay Bang Saray) คอนโดมิเนียมและวิลล่าสุดหรูที่เน้นไลฟ์สไตล์แนวแอคทีฟสำหรับรุ่นซีเนียร์แห่งแรกบนชายฝั่งตะวันออกของไทย จัดงาน “Grand Touring Italian & German Car 2018” ณ บ้านปาร์ค นายเลิศ (Nat Lert Heritage Home) เพื่อเอาใจคนเลิฟรถยุโรปโดยเฉพาะ

ภายในงานได้ระดมสุดยอดยนตรกรรมสัญชาติอิตาเลียนและเยอรมนีรุ่นคลาสสิกตั้งแต่อดีตจนถึงรุ่นปัจจุบันที่หาดูได้ยากในเมืองไทยมาให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดกว่า 50 คัน อาทิ โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) ปอร์เช่ (Porsche) เฟอร์รารี่ (Ferrari) ลัมโบร์กีนี (Lamborghini) อัลฟา โรเมโอ Alfa Romeo) มาเซราติ (Maserati) ปากานี Pagani) เมอร์ซิเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ออดี้ (Audi) รวมถึงรถคลาสสิกสุดเก๋าอื่น ๆ อีกมากมาย โดยไฮไลท์ประจำงานนี้ต้องยกให้ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น 190SL ปี 1955 ตำนานแห่งรถคลาสสิกซึ่งเคยประจำการอยู่ในกองทัพไทยและเป็นของรถประจำตำแหน่งของ “พลอากาศเอกทวี จุลละทรัพย์” นั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีรถคู่ใจของเหล่าเซเลบริตี้ที่นำมาโชว์อีกกว่า 100 คน อาทิ ฟรันเชสโก ซาเวรีโอ นีซีโอ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี ประจำประเทศไทย พร้อมภริยา, พจน์พิมาน เนาว์ถิ่นสุข, ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร, เดิมพัน-เมลนีย์ อยู่วิทยา, พีระ ลาภวงศ์เมธี, นันท์ชญาน์ ทิพย์โภคาสกุล และ บีม – ศรัณยู ประชากริช ฯลฯ โดยผู้ร่วมงานได้ร่วมดื่มด่ำกับ “ซันเดย์ บรันซ์” ฟังเพลงแจ๊ส ท่ามกลางกองทัพรถสุดหรูสายพันธุ์อิตาเลียน-เยอรมนีกันอย่างคึกคัก “”

ทั้งนี้ “ซันเพลย์ บางเสร่” มีการจัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูฟหมุนเวียนเป็นประจำ เพื่อตอบโจทย์คนวัยซีเนียร์ที่มีไลฟ์สไตล์แนวแอคทีฟ และต้องการใช้ชีวิตที่เหนือระดับอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ทริปเรือยอร์ช ไวน์และซิการ์ปาร์ตี้, ไพรเวทดินเนอร์กับเชฟมิชลิน เป็นต้น ติดตามกิจกรรมดี ๆ และดูข้อมูลโครงการ “ซันเพลย์ บางเสร่” ได้ที่ www.sunplay.asia

“ฟรันเชสโก ซาเวรีโอ นีซีโอ” เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี ประจำประเทศไทย พร้อมภริยา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

“คริส ดีลานี” กรรมการผู้จัดการ “ซันเพลย์ เอเชีย” หัวเรือใหญ่ของการจัดงานครั้งนี้

“ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร” เจ้าของบ้านให้การต้อนรับแขกเหรื่ออย่างอบอุ่น

 

“พจน์พิมาน เนาว์ถิ่นสุข”

หนุ่มสาวสัยแอ็คทีฟ แฟนพันธุ์แท้รถยุโรปสุดคลาสสิก

“เดิมพัน-เมลนีย์ อยู่วิทยา” กับลัมโบร์กินีคู่ใจ

“บีม ศรันยู ประชากริช” กับปอร์เช่คลาสสิกตัวแรงในตำนวน

“มาร์ติน ฮุนตระกูล” กับโฟล์กสวาเกน ร่นคลาสสิก VW1600 TL

2 เซลบ กับ 2 รถคลาสสิกสุดเก๋า อัลฟา โรมิโอ และ โฟล์ก สวาเกน

 

“คริส ดีลานี” กับ เมอร์เซเดส เบนซ์ คู่ใจ

กองทัพรถหรูภายในงาน “Grand Touring Italian & German Car 2018”

บรรยากาศ “ซันเดย์ บรันซ์” ของคนรักรถคลาสสิก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชมบรรยากาศชื่นมื่น “Thank You Party : Happiness at Thana Astoria”

พิธีสงฆ์ช่วงเช้า

เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากลูกบ้านในโครงการของ บริษัท ธนาแลนด์ จำกัด กับงาน “Thank You Party : Happiness at Thana Astoria” เพื่อขอบคุณและส่งมอบความสุขให้ลูกค้าของโครงการคอนโดมิเนียม “ธนา แอสโทเรีย ปิ่นเกล้า” ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ กิจกรรมเวิร์คชอปทำขนมคัพเค้กกับ “เพชร กรุณพล”, เวิร์คชอป Cactus ปลูกต้นกระบองเพชรน่ารัก ๆ, บริการล้างรถ-เติมลมให้ลูกค้า และกิจกรรมสนุก ๆ อิ่มอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ปิดท้ายงานช่วงค่ำด้วยมินิคอนเสิร์ตในบรรยากาศอบอุ่นจาก “อะตอม ชนกันต์” นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง พร้อมมอบของขวัญ-ของรางวัลมากมาย รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้าใหม่ที่จองสิทธิ์ภายในงาน โดยได้รับความสนใจจากลูกบ้านเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก…งานนี้ ผู้บริหารหนุ่ม “ก้อง – โกวิทย์ สุวาณิชย์กุล” และทีมบริหารทุกท่านได้ใจลูกค้าไปเต็ม ๆ

 

เวิร์คชอป Cactus ปลูกต้นกระบองเพชรน่ารัก ๆ

เวิร์คชอปทำขนมกับ “เพชร กรุณพล” 

 

Trainer Dancing สุดชิค พร้อมรับกระติกน้ำรูปดัมเบลล์

ผู้ชนะการประกวดภาพถ่ายมุมโปรด @Thana Astoria

ศิลปิน “อะตอม ชนกันต์” กับคณะผู้บริหาร “ธนาแลนด์”

 

โปรโมชั่นส่งท้ายปีจอจาก“ซีคอน โฮม”

งานดี ๆ ที่คนอยากสร้างบ้านไม่ควรพลาด!!! วันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2561 พบกับงาน “SeaconHome Exclusive Days” งานเดียวจบครบทุกความต้องการ พบกับการเปิดตัวแบบบ้าน Next Series ชุดใหม่ขนาดเล็ก ตอบทุกข้อสงสัย เกี่ยวกับการสร้างบ้านทั้งเรื่องงานสถาปัตย์ วิศวกรรม ประมาณราคา ฮวงจุ้ย พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 20% และรับฟรีระบบบ้านอัจฉริยะไร้สาย เมื่อจองสร้างบ้านภายในงาน พิเศษสุด ๆ เพียงนำโฉนดมาแสดงในงาน รับทันทีของที่ระลึก

แล้วพบกับขอเสนอดี ๆ เฉพาะในงานนี้เพียง 3 วันเท่านั้น ที “ซีคอน โฮม สี่พระยา” โทร.0 2237 2900 หรือ www.seaconhome.co.th

ฉลอง “คริสต์มาส อีฟ” ที่ “นัมเบอร์ 43”, เคปเฮ้าส์ กรุงเทพฯ

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมฉลอง “วันคริสต์มาส อีฟ” กับเซ็ตอาหารอิตาเลียนในค่ำคืนสุดพิเศษ ณ ห้องอาหาร “นัมเบอร์ 43” เคปเฮ้าส์ กรุงเทพฯ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. โดยจะเสิร์ฟอาหารแบบเป็นคอร์ส เริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลักซึ่งมีให้เลือกหลายเมนู และของหวานสุดพิเศษ ซึ่งปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟมืออาชีพจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีในบรรยากาศแสนอบอุ่น ในราคาเพียงท่านละ 1,500++ บาท ครัวปิดเวลา 23.30 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เคป เฮ้าส์ กรุงเทพฯ โทร.0 2658 7444 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์www.capehouse.com

ททท.จัดเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง 2561” ปูพรมทั่วไทย

alivesonline.com : ททท. ร่วมกับ 6 จังหวัดจัดเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ทั่วไทยที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนภาพวิถีชีวิตริมน้ำของไทยและเพิ่มประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสประเพณีที่งดงามและน่าประทับใจ เผยหลายพื้นที่ขยายวันจัดงานเพิ่ม คาดมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากกว่า 4.56 แสนคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่เกือบ 1.2 พันล้านบาท

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้การต้อนรับและร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้แทนจาก จังหวัดพื้นที่จัดงานลอยกระทงที่มีเอกลักษณ์ ได้แก่ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  นายประจินต์  ธารศิริสิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย  นายจริยาทร สูหู่  ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตาก และ นางสาวภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว “เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ประจำปี 2561 ซึ่งถือเป็นงานประเพณีที่สะท้อนภาพวิถีชีวิตริมน้ำของไทยและเพิ่มประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสประเพณีที่งดงามและน่าประทับใจ

นางสุจิตรา กล่าวว่า ททท. ได้สืบสานประเพณีลอยกระทงอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวกระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ อีกทั้งเป็นเพื่อการเรียนรู้และซึมซับประเพณีไทย สำหรับในปี 2561 ททท. ได้จัดงานและสนับสนุนการจัดงานประเพณีลอยกระทงทั่วประเทศ 9 พื้นที่  โดยพื้นที่ที่ ททท. จัดงานคือ งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง “ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง” ณ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง  จ.สมุทรสงคราม ส่วนพื้นที่ที่ ททท. สนับสนุน มี 8 พื้นที่ คือ  จ.เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก ราชบุรี ลำปาง พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ดและกรุงเทพฯ มหานคร ซึ่งในแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจที่แตกต่างกันไป


นางสุจิตรา กล่าวในตอนท้ายว่า แม้ว่าในปีนี้วันลอยกระทงจะไม่ตรงกับช่วงวันหยุด แต่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างร่วมมือกันจัดงานอย่างเต็มรูปแบบ ไม่เพียงเฉพาะพื้นที่หลักแต่ยังมีการหยิบยกการจัดงานในพื้นที่เมืองรองขึ้นมาประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักเพิ่มมากขึ้น ผนวกกับในปีนี้บางพื้นที่มีการขยายวันจัดงาน อาทิ งานเผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย ขยายจาก 5 วันเป็น 10 วัน งานถวายโคมแด่องค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย จ.ลำพูน ขยายจาก 3 วัน เป็น 7 วัน อีกทั้งเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอากาศเริ่มหนาวเย็น เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเดินทางได้เป็นอย่างดี โดยในพื้นที่ที่ ททท. มีการจัดงานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง “ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง” จ.สงคราม รวมถึงพื้นที่ที่ ททท. ให้การสนับสนุนการจัดงานประเพณีลอยกระทง จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยค่อนข้างสูง โดยเฉพาะพื้นที่จัดงานหลัก อาทิ จ.เชียงใหม่ สุโขทัย และตาก โดยคาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่มากกว่า 4.56 แสนคน-ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่เกือบ 1.2 พันล้านบาท

สำหรับพื้นที่การจัดงาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” 9 พื้นที่ มีดังนี้

1. งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง “ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง”
สถานที่จัดงาน : วัดภุมรินทร์กุฎีทอง  จังหวัดสมุทรสงคราม
วันที่จัดงาน : 22 – 23 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : เป็นการสืบสานประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย ที่ถือปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ การดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม     ถือเป็นสีสันการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่น ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมมากมาย อาทิการแสดงร่วมสมัยและการแสดงทางวัฒนธรรม การออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหาร กิจกรรมสาธิตอาหารคาวหวาน การทำธูปและกระทงกาบกล้วย  การลอยกระทงกาบกล้วยในแม่น้ำ     แม่กลอง จำนวน 400,000 ใบ  การปล่อยเรือไฟล่องในสายน้ำ จำนวน 12 ลำ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 มีขบวนฟ้อนรำรับขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ขบวน      นางนพมาศ ขบวนกระทง ผ่านเส้นทางตลาดแม่กลอง สิ้นสุดที่วัดภุมรินทร์กุฎีทอง

 

       2. งานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2561
สถานที่จัดงาน : ข่วงประตูท่าแพและพื้นที่โดยรอบ  จังหวัดเชียงใหม่
วันที่จัดงาน : 20 – 23 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : มีกิจกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา ในงานมีกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม      “ต๋ามผางปะตี๊ดส่องฟ้าฮักษาเมือง” ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ การแสดงประติมากรรมโคมไฟสีสันยี่เป็ง  ณ รอบคูเมือง ประตูเมืองและแจ่งเมือง พิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ , เจดีย์ขาว , ขอขมาแม่น้ำปิง  ณ สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ , ท่าน้ำศรีโขง

3. งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ 
สถานที่จัดงาน : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย
วันที่จัดงาน : 16 – 25 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : การแสดงแสงเสียงในงานลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2561      พิธีรับอรุณแห่งความสุข ตลาดโบราณสมัยกรุงสุโขทัย การแสดงกีฬาพื้นบ้าน การแสดงกระบี่กระบอง สาธิตมวยคาดเชือก ลานเทศน์ ลานธรรม (เทศน์มหาชาติ) ข้าวขวัญ วันเล่นไฟ สำรับ สำราญ อาหารสุโขทัย การแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ การจัดแสดงพลุ    ตะไล ไฟพะเนียง และกิจกรรมลอยกระทง ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 กิจกรรมขบวนอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปแห่รอบเมืองสุโขทัย ขบวนหลวง ขบวนแห่ประเพณีวัฒนธรรม 9 อำเภอ และขบวนแห่นางนพมาศ พิธีอัญเชิญพระประทีปลงลอยเป็นปฐมฤกษ์

 4. งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2561
สถานที่จัดงาน : ริมสายธารลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก
วันที่จัดงาน : 18 – 22 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : ขบวนแห่ถ้วยพระราชทานฯ ขบวนแห่เชิญพระประทีป กระทงพระราชทานฯ พร้อมขบวนแห่กระทงสายและขบวนแห่การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของชุมชนต่างๆ กิจกรรม    ดินเนอร์อาหารพื้นเมือง พร้อมกับการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง การลอยเคราะห์บูชาพระแม่คงคา ชิมอาหารพื้นเมือง

5. งานเทศกาลลอยกระทงสี วัดไทรอารีรักษ์ ประจำปี 2561
สถานที่จัดงาน : วัดไทรอารีรักษ์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
วันที่จัดงาน : 22 – 24 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : ลอยกระทงสี เพื่อขอขมาพระแม่คงคากับชุมชนชาววัดไทรอารีรักษ์ ที่เน้นความเรียบง่ายโดยใช้กระดาษสี วัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่าย นำมาประดิษฐ์ขึ้นเป็นกระทง เป็นภูมิปัญญาของชาวมอญลุ่มน้ำแม่กลองที่สืบสานตามดำริของหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี  การจุดประทีปรอบโบสถ์ ตามประทีปรอบวิหาร ปิดทองรอยพระพุทธบาท บูชาพระสารีริกธาตุบนเจดีย์จำลอง ลอดโคม 12 นักษัตร ถวายพวงมะโหตรต้นโพธิ์ และร่วมพิธีลอยเคราะห์แบบมอญ ณ วัดไทรอารีรักษ์

6. งานสะเปาจาวละกอน ประจำปี 2561
สถานที่จัดงาน : ท่าน้ำบ้านสิงห์ชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
วันที่จัดงาน : 21 – 23 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : ชมบรรยากาศการตกแต่งบ้านเรือนของชาวลำปาง ด้วยตุงและโคมไฟ พร้อมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าพื้นเมือง และการทำกระทงเป็นรูปเรือสำเภา ขบวนประกวดสะเปารถ การประกวดสะเปาน้ำ การประกวดแม่หญิง สะเปาแก้ว-สะเปาคำ การแสดงดนตรีพื้นเมืองและอลังการโคมล้านนา  ณ บริเวณถนนบ้านเชียงราย

 

7. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – งานลอยกระทงตามประทีป ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ
สถานที่จัดงาน : ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ พระนครศรีอยุธยา
วันที่จัดงาน : 22 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : ลอยกระทงริมแม่น้ำเจ้าพระยา
– งานลอยกระทงกรุงเก่า
สถานที่จัดงาน : อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทุ่งภูเขาทอง
วันที่จัดงาน : 22 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : การประกวดกระทง การประกวดนางนพมาศ และหนูน้อยนพมาศ  กิจกรรมอาบน้ำเพ็ญ  ถนนคนเดิน

 8. งานสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป ประจำปี 2561
สถานที่จัดงาน : สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์และบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด
วันที่จัดงาน : 22 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : งานลอยกระทงของจังหวัดร้อยเอ็ด บ่งบอกอัตลักษณ์ของภาคอีสานได้เป็นอย่างดี กิจกรรมสำคัญในปีนี้ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง การประกวดกระทงประทีปใหญ่ การประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ การประกวดรำวสมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป การประกวดธิดาสาเกตนคร และขบวนจำลองเหตุการณ์ขบวนแห่กระทงเมืองสาเกตนคร

9. กรุงเทพมหานคร – River Festival 2018 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 4 “สุข แสง ศิลป์”
สถานที่จัดงาน : 8 สถานที่ ได้แก่ ท่ามหาราช วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร                 วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร  วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร  วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร  ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค  ล้ง 1919  เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
วันที่จัดงาน : 22 – 24 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : ชมการแสดงทางวัฒนธรรมและร่วมสมัยกิจกรรมสาธิตร้านค้าชุมชนกิจกรรมลอยกระทง
 – Chao Phraya River of Live
สถานที่จัดงาน : ไอคอนสยาม
วันที่จัดงาน : 19 – 22 พฤศจิกายน 2561
กิจกรรม : Krathong Workshop ปั้นกระทงจิ๋ว และเพ้นท์กระทงกะลามะพร้าว  นิทรรศการกระทงจากแรงบันดาลใจของ 13 สถานทูต และการแสดงทางวัฒนธรรม

 

 

สุพรรณบุรี จัดเทศกาลลอยกระทง 22-24 พ.ย. 11 จุด

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี ขอเชิญร่วมงานประเพณีลอยกระทงในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่สืบทอดกันมา และเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา โดยหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ชุมชน และวัดวาอารามต่าง ๆ ได้จัดงานประเพณีลอยกระทง และมีกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ การประกวดนางนพมาศ  การประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดกระทงสวยงาม มหรสพต่าง ๆ  อุโมงค์สายรุ้ง โคมไฟยักษ์ การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน ฯลฯ โดยสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่